อดีตนายจ้าง สุดงง เล่าอีกมุม สาวประกาศขายตา หาเงินต่อลมหายใจเฮือกสุดท้าย

อดีตนายจ้าง สุดงง เล่าอีกมุม สาวประกาศขายตา หาเงินต่อลมหายใจเฮือกสุดท้าย กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตให้ความสนใจทันที หลังจากที่ก่อนหน้านี้ หญิงอายุ 39 ปี ชาวโขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้ออกมาประกาศขายดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อหาเงินเอาไว้เป็นทุนให้ลูกน้อยที่กำลังเกิดในไม่กี่วัน อีกทั้งขอเป็นทุนในการสร้างอาชีพในอนาคตให้กับลูกที่จะเกิดใหม่ และเก็บเอาไว้เป็นทุนทำอาชีพให้กับตนเองหลังคลอด

 

ทว่าล่าสุด สองสามีภรรยาเจ้าของสวนอินทผลัม อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นอดีตนายจ้างของ หญิงอายุ 39 ปี เดินทางมาเยี่ยมหลังจากเห็นข่าว ได้เปิดเผยว่า ตนเองและสามีเดินทางมาเที่ยวที่ จ.หนองคาย เห็นข่าวก็ตกใจมาก ก่อนหน้านี้ประมาณต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เขาเคยสมัครงานทางเฟซบุ๊กกับทางเรา เป็นคนสวนรดน้ำต้นอินทผลัม จ.สระแก้ว ให้เงินเดือน 9,000 บาท 

อดีตนายจ้างหญิงประกาศขายตาระบุว่า เขาก็ทักไปบอกว่ามีเงินก้อนสุดท้ายซื้อตั๋วรถไฟลงไปพร้อมไปทำงานด้วย ตนเองที่อยู่รังสิตก็มารับที่สถานีรถไฟ ให้นอนที่บ้านรังสิต 1 คืน จากนั้น ก็ให้คนงานไปรับไปทำงานที่สวนที่ จ.สระแก้ว พอทำงานได้ 2 วัน ประมาณวันที่ 10 พ.ย. เป็นวันลอยกระทง ปรากฏว่าเขาเดินทางกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี 

"เราก็เป็นห่วงก็ทักไปสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะตอนขึ้นมาว่าจะทำงานด้วยเห็นท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว เขาก็ถ่ายรูปบอกว่านอนที่โรงพยาบาลแล้วเห็นมีรูปเด็กด้วย บอกว่าหนูคลอดแล้ว เป็นรูปเด็กทารกที่รพ. ตอนแรกก็อยากช่วยเหลือ ว่าจะซื้อผ้าอ้อม นมทารกให้ แต่เมื่อสอบถามไปยังโรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่มีชื่อหญิงรายนี้ในห้องคลอด เราก็งง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร" อดีตนายจ้างระบุ

 

อดีตนายจ้างเล่าต่ออีกว่า ตอนที่เขาสมัครงาน ก็เล่าสตอรี่เดียวกันหมดเลย สามีเสีย ลูกเสีย ไม่มีเงิน จะหางานทำทุนทำขนมขาย เราก็เห็นใจถ้าเป็นจริงเราก็จะช่วย เราก็ให้เงิน 1,000 บาท ไปตอนไปอยู่สวน และก็บอกว่าถ้าไม่มีงานจริงๆ ก็ให้มาทำงาน เดี๋ยวลูกจะช่วยดู แต่ปรากฏว่าเขามาคลอดลูกอีกแล้ว แล้วประกาศขายดวงตาคลอดลูก ตกใจเพราะหากเดือดร้อนจริงๆ ไม่น่าจะทำแบบนี้ 

"และอีกอย่างเขาถ่ายรูปมาให้ดูว่าคลอดแล้วหลังไปทำงานด้วย 2 วันแล้วกลับอุบลฯ เขาโกหกไหมก็ไม่รู้ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา" 

พร้อมกันนี้ยังมีรายงานอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติสาวท้องแก่รายนี้ อ้างว่าเป็นชาว อ.โขงเจียม แต่ในบัตรประชาชนชื่อ น.ส.วนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี

ขณะเดียวกันยังมีข้อมูลเปิดเผยอีกว่า ประวัติการทำงานและพฤติกรรมของสาวรายนี้ มีพิรุธหลายอย่าง เช่น เธอนั้นขอความช่วยเหลือและถ่ายรูปว่าได้คลอดแล้ว เป็นรูปทารกที่คลอด แต่พอเช็กไปทางโรงพยาบาล ก็ไม่มีรายชื่อคลอดแต่อย่างใด เบื้องต้นขอแจ้งระงับการช่วยเหลือและขอสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ 

ส่วนเด็กคลอดแล้วปลอดภัยดี โดยให้สาวรายนี้พักฟื้นก่อน 2-3 วัน และจะดูว่าสมควรให้การช่วยเหลือหรือไม่อย่างไร แต่ของดบริจาคช่วยเหลือสาวรายนี้ไว้ก่อน

อย่างไรก็ตาม พมจ.อุดรธานี ได้มอบหมายให้นักสังคมสงเคราะห์ไปที่ รพ.อุดรธานี เพื่อเยี่ยมสองแม่ลูก และสอบถามรายละเอียดความเป็นไปดังกล่าว เพื่อนำข้อมูลที่เข้าร่วมประชุมในวันที่ 7 ธ.ค. 2565 กับหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อหาทางช่วยเหลือสองแม่ลูกเป็นลำดับต่อไป

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline