หนุ่มถูกขโมยบัตรเครดิตสูญกว่า 3แสน ธนาคารเสนอเยียวยา ผ่อนชำระ0% นาน10เดือน

หนุ่มเจอกับตัว ถูกขโมยบัตรเครดิตรูดซื้อของสูญกว่า 3แสน ธนาคารปัดรับผิดชอบความเสียหาย อ้างข้อเสนอเยียวยา ให้ผ่อนชำระ 0 % นาน 10 เดือน

 
  กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อบัญชี Athirach Wutthichanyaruk แชร์เรื่องราวของการทำบัตรเครดิตสูญหายในต่างประเทศ ที่อินโดนีเซีย และมีคนแอบนำบัตรไปรูดซื้อสินค้ารวมความเสียหายกว่า 3 แสนบาท เเต่ธนาคารกลับปัดรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น


    โดยเจ้าของโพสต์ ระบุเป็นไทม์ไลน์ว่า   เมื่อวันที่ 15 พ.ย  65 ผมได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศปากีสถาน และมีการใช้บัตรเครดิตใบนี้ครั้งสุดท้ายที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 18 พ.ย 65 มีการรูดค่าใช้จ่ายชื่อ MHI PASIFIC PLA : 25,999,000 IDR เป็นจำนวนทั้งหมด 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 134,950,000 IDR (316,634.82 บาท) สถานที่ทำธุรกรรม คือกรุง Jakarta ประเทศอินโดนีเซีย   ( ปกติวงเงินรูดได้คือ 300,000 บาท แต่ธนาคารก็อนุมัติพิเศษวงเงินเกิน เพิ่มให้อีก 11,239 บาท)

หนุ่มถูกขโมยบัตรเครดิตสูญกว่า 3แสน ธนาคารเสนอเยียวยา ผ่อนชำระ0% นาน10เดือน

วันที่ 19 พ.ย 65 ในช่วงเช้าพอดีผมเข้าไปแอพของธนาคารเจ้าของบัตร เปิดดู ปรากฏเห็นยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรตามยอดดังกล่าว แต่ยังขึ้นว่า "รอดำเนินการอยู่"   ในวันนั้นผมและแฟนรีบโทรไป ที่ Call center เพื่อแจ้งอายัติบัตรและแจ้งเรื่องดังกล่าว และหวังว่าธนาคารจะช่วยยกเลิกยอดที่กำลังรอดำเนินการ  ก่อนจะเรียกเก็บเข้ามาจริง  ซึ่งเจ้าหน้าที่ Call center สายแรกที่รับสายแจ้งว่า “ไม่สามารถทำให้ได้ และให้ผมไปแจ้งความกับตำรวจดำเนินคดีเอาเอง” (เราก็พยายามย้ำแล้วนะว่า ยอดจริงมันยังไม่เข้ามาในบัตร ยังอยู่ช่วงระหว่างรอดำเนินการ ธนาคารพอจะยกเลิกก่อน ได้ไหม แต่ธนาคารก็ไม่รับฟัง บอกให้ไปแจ้งความเอาเอง
หนุ่มถูกขโมยบัตรเครดิตสูญกว่า 3แสน ธนาคารเสนอเยียวยา ผ่อนชำระ0% นาน10เดือน

 

 


ในวันนั้นผมและแฟนก็ได้โทรไปอีกรอบ กับเจ้าหน้าที่ Call center คนใหม่ เพื่อขอปฏิเสธยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าก็ได้รับเรื่องไว้ และแจ้งว่า จะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 21วันทำการ

 

  และระหว่างนั้นจะระงับดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นให้จนกว่าเรื่องจะได้บทสรุป  และผมเองก็ได้ส่ง Email ไปทาง Customer service  แจ้งเรื่องปฏิเสธยอดค่าใช้จ่ายไปอีกทางนึง พร้อมทั้งส่งเอกสารประกอบทั้งหมด เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ผมไม่ได้เป็นคนทำธุรกรรมนั้นจริงๆ ( ยอดที่โชว์ในแอพของธนาคาร , Passport พร้อมตราประทับเข้าประเทศปากีสถาน ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย 65 รวมทั้งตั๋วเครื่องบินที่บินจริง)

หนุ่มถูกขโมยบัตรเครดิตสูญกว่า 3แสน ธนาคารเสนอเยียวยา ผ่อนชำระ0% นาน10เดือน


วันที่ 6 ธ.ค 65 ผมได้โทรไปที่ Call center  ของธนาคารอีกครั้งเพื่อถามความคืบหน้า แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอวันที่ 8 ธ.ค 65 จะครบ21วัน และแจ้งเรื่องให้ทราบ
วันที่ 8 ธ.ค 65 ไม่มีการตอบกลับจากทางธนาคาร  ทั้งทาง โทรศัพท์ และ Email

 


วันที่ 11 ธ.ค 65 มีการส่งบิลรอบเดือนนี้มาทางEmail และในนั้นระบุยอดค่าใช้จ่ายที่ผมไม่ได้เป็นคนรูด เป็นเงิน 316,634.82 บาท (MHI PASIFIC PLACE Jakarta Selat)
ผมและแฟนได้โทรไป Call center  ของธนาคาร  อีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าได้ตอบว่า ทาง ธนาคาร ขอปฏิเสธการรับผิดชอบในครั้งนี้ และบอกให้ผมซึ่งเป็นเจ้าของบัตร เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบัตรทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า ผมเป็นคนถือบัตรก็ต้องรับผิดชอบ   ซึ่งเคสนี้ ผมก็พยายามพิสูจน์และยื่นหลักฐานทั้งแล้วว่า ในวันและเวลาที่ทำธุรกรรมนั้น ผมไม่ได้อยู่ประเทศ อินโดนีเซียซึ่งเป็นสถานที่ทำธุรกรรม

ทั้งนี้ เจ้าของเฟซบุ๊กรายนี้ ยังฝากเตือนภัย ให้ระมัดระวังการใช้บัตรเครดิต   เพราะบางธนาคารมาตรการณ์ความปลอดภัยต่ำมากและไม่คุ้มครองผู้บริโภคเลย  พร้อมตั้งข้อสังเกตไปยังธนาคารไว้ได้ดังต่อไปนี้    

หนุ่มถูกขโมยบัตรเครดิตสูญกว่า 3แสน ธนาคารเสนอเยียวยา ผ่อนชำระ0% นาน10เดือน

  ทำไมจึงไม่มีการ check ลายเซ็นต์ตอนทำจ่าย ว่าตรงกับเจ้าของตัวจริงหรือไม่   ทำไมไม่มีให้ป้อนรหัส Pin code ก่อนการชำระใดๆทั้งสิ้น   , การอนุมัติเกินวงเงินให้โดยง่ายดาย ไม่มีการตรวจสอบหรือยืนยันจากเจ้าของบัตรโดยตรง ,   เจ้าหน้าที่ปัดความรับผิดชอบ ตอนที่ผมโทรไปแจ้ง ยอดดังกล่าวยังอยู่ระหว่าง”รอดำเนินการ” ซึ่งยังไม่ได้มีการเรียกเก็บเข้ามาจริง แต่ธนาคารก็เลือกที่จะไม่ยกเลิกยอดเรียกเก็บจากร้านค้า บอกอย่างเดียวว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว

 ภายหลังจากเรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแนะนำ เจ้าของโพสต์  อาทิ  ยอดสูงมาก ธนาคารต้องเตือนก่อนนะ เพราะมีการรูดเงินผิดปกติของผู้ถือบัตร, และบางคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์ว่าเคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน แต่ธนาคารเจ้าของบัตร ก็ยังไม่ทำการสืบสวนหรือมีคำตอบให้จสุดท้ายต้องปิดบัตรและยกเลิกการใช้บัตรเครดิตนี้ไป 

ขณะนี้ เจ้าของโพสต์ ยังอัพเดทข้อความล่าสุด โดยระบุว่า  ล่าสุดทางธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต ติดต่อกลับมาแล้ว  โดยทางธนาคารก็ยังยืนยันว่า ไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่เสนอการเยียวยา ผ่อน0%  นาน 10 เดือน  แต่ถ้าไม่รับข้อเสนอ  เกินรอบบิล ดอกเบี้ยก็จะรันตามปกติ และไม่พักชำระหนี้และดอกเบี้ยให้   วันนี้จึงทำให้รู้ว่า จนถึงตอนนี้ ธนาคารยังไม่เคยเห็นบิลและลายเซ็นต์จากคนที่แอบอ้างเลย แต่ก็พยายามมาไล่บี้กับผู้ถือบัตรให้จ่ายเงินอย่างเดียว

 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews