- 21 ธ.ค. 2565
สาวลูกสอง ร้องไห้ต่อหน้า หนุ่ม กรรชัย ถูกผัวทำร้ายไม่เว้นวัน ตอนท้องยังโดน แม่สามีหนักกว่า บีบตัดน้ำ-ตัดไฟ เรียกค่าเช่า 7 แสน
สาวลูก2 ร้องไห้ต่อหน้า กรรชัย ผัวซ้อม - แม่สามีตัดน้ำ-ตัดไฟ เรียกค่าเช่า 7 แสน อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างมาก เมื่อเกิดกรณี สาวลูก 2 รายหนึ่งร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อ ว่า เธอถูกสามีทำร้ายร่างกาย ต้องทนอยู่ในบ้านกับสามี จนวันหนึ่ง อยู่ดีๆ ครอบครัวสามีออกจากบ้าน ทิ้งให้อยู่กับลูก แล้วตัดน้ำ - ตัดไฟ จนเธอต้องอุ้มลูกหนีออกมา สุดท้ายถูกฝั่งแม่สามีเรียกเงินค่าอยู่อาศัย 7 แสนบาท
โดยเธอได้มาออก รายการ โหนกระแส วันที่ 20 ธันวาคม 2565 พร้อม ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความ ซึ่ง หญิงสาวผู้เสียหายเล่าว่า เธออายุ 28 ปี มีลูกกับสามี 2 คน ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จดเพียงฝ่ายชายรับรองบุตร ซึ่งทั้งคู่คบหานาน 3 ปีกว่า
จุดเริ่มต้นความรักของทั้งคู่คือ เธอและสามีได้เจอและรู้จักกันเพราะไปงานวันเกิดรุ่นพี่คนหนึ่ง ก่อจะมีการพูดคุยกัน คบหากัน จนกระทั่งตั้งท้อง ซึ่งตอนนั้นเธอไม่ได้อยู่ในบ้านฝ่ายชาย แต่พอตั้งครรภ์ก็ไปแจ้งบ้านสามี คุณแม่สามีก็บอกว่าต้องตรวจดีเอ็นเอ ถ้าไม่ตรวจดีเอ็นเอจะไม่ให้เข้าไปอยู่ในบ้าน เพราะจะเป็นกาลกิณีของบ้าน
"แล้วก็พูดกับทางบ้านเราด้วยว่าให้ตรวจดีเอ็นเอ ส่วนสามีหนูก็ไม่พูดอะไรค่ะ นั่งเงียบ แม่สามีพูดอยู่ฝ่ายเดียว เราก็ไม่ตรวจค่ะ บอกว่าถ้าไม่รับผิดชอบก็ไม่เป็นไร ให้พูดออกมาว่าไม่รับค่ะ ตอนหลังเขาก็บอกว่ารับผิดชอบ เลยมีการย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านสามีค่ะ ทีแรกก็ยังดีไม่มีอะไร อยู่ไปอยู่มาจนคลอดลูกคนโตได้ไม่กี่เดือน สามีก็เริ่มทำร้ายร่างกาย ทะเลาะนิดหน่อยก็ตบตีค่ะ" เธออธิบาย
หญิงสาวเล่าต่อไปว่า หลังจากที่เธอคลอดลูก 4 - 5 เดือนก็มีหารทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ซึ่งทะเลาะกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน ไม่มีเรื่องใหญ่ ไม่มีเรื่องมือที่สาม อะไรเล็กๆ น้อยๆ เขาก็ทำร้าย ส่วนใหญ่เขาทำตอนคนไม่อยู่ แต่มีครั้งหนึ่งเขาติดกล้องวงจรปิดในบ้าน แล้วเขาทำร้ายร่างกาย เธอจึงบอกว่าขอดูกล้องวงจรปิดได้มั้ย แต่สามีบอกว่ากล้องวงจรปิดเสีย อีกวันเธอไปแจ้งความแต่ไม่มีหลักฐาน เลยลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แล้วพาลูกออกจากบ้านด้วย ณ วันนั้น
ส่วนต้นเหตุที่ถูกทำร้าย เธอเล่าว่า เธอนั่งคุยโทรศัพท์กับที่บ้าน แล้วเขาไม่พอใจว่าเธอคุยกับที่บ้านนาน เขาเลยมาแย่งโทรศัพท์เธอไป และมีการดึงโทรศัพท์กัน แล้วจากนั้นเขาก็กระทืบเธอเลย ก่อนที่เธอจะบอก หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพบอด ที่มาทำหน้าที่เป็นพิธีกรในครั้งนี้ด้วยเสียงสั่นเครือว่า โดนแบบนี้ประจำเลย
หนุ่ม กรรชัย รีบยิงคำถามทันทีว่า 'มีคนส่งเรื่องคุณมาที่โหนกระแสตลอด นั่นหลังจากที่คุณคลอดลูกคนแรก คุณโดนกระทำซ้ำ ๆ แบบนี้ตลอด ในคลิปกล้องวงจรปิดคุณตะโกนให้คนที่คุณคุยด้วยให้มาที่บ้านเดี๋ยวนี้เพื่อช่วยคุณ ?'
"ค่ะ สุดท้ายเขาก็มา สามีเขาไม่พอใจที่คุยกับที่บ้านนาน เป็นเหตุผลนี้ค่ะ ปกติต่อหน้าคนอื่นเขาเป็นคนใจเย็น แต่ถ้าอยู่สองคนจะมีปากเสียงบ่อย เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนค่ะ ไม่พอใจก็ลงไม้ลงมือตลอดค่ะ เหมือนตกอยู่ในนรก หลังจากเหตุการณ์วันนั้น หนูเลิกค่ะ พาลูกออกจากบ้าน พอออกได้สักพักเขาก็มีติดต่อมา ได้พูดคุยกัน เริ่มกลับมาดีกันอีกรอบ มีการมาหากัน แต่เราไม่ได้กลับไปอยู่ในบ้านนั้น แยกกันหลายเดือนอยู่ค่ะ" หญิงสาวให้คำตอบ
เธอเล่าต่อีกว่า ตอนหลังที่แยกกัน ก็มีการทะเลาะกันอีกรอบ แต่เราไม่ได้อยู่ในบ้านนี้แล้ว เขาก็บอกเลิกเราอีกรอบ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตามในตอนแรก แต่มีการโทร. คุยกัน จนเขาขอเลิก ซึ่งเหมือนนั่งกินกันที่บ้านเราอยู่สองคน มีการทะเลาะกัน เขาก็ทำร้ายเราอีก ทีนี้เธอเลยวิ่งไปหาญาติเธอที่บ้านอยู่ใกล้กัน
"ส่วนใหญ่ทะเลาะกัน มันเป็นเรื่องทั่วไปจริงๆ ไม่ควรเป็นเรื่องด้วยซ้ำ มันเยอะมากจนหนูจำไม่ได้ บ่อยมาก อย่างซักผ้าบ่อยในบ้านก็ว่า เปลืองน้ำเปลืองไฟ ซักทำไมบ่อยๆ ยังไม่ลงมือแต่ทะเลาะวิวาท ในประเด็นเรื่องหึงหวงเคยมีนะคะ เขาหวงโดยหนูไม่ได้มีอะไรค่ะ" สาวผู้เสียหายระบุ
ทั้งนี้เธอยังเล่าอีกว่า จากนั้นเธอก็เลิก ต่างคนต่างอยู่ แล้วเธอได้เจอกับแฟนเก่าที่เคยคบหา ก็เลยมีการพูดคุยกัน เขาก็รู้ว่าเราเลิกแฟนแล้ว จึงมีการพูดคุยกัน แล้วสามีคนนี้ที่ทำร้ายร่างกาย ก็มาขอคืนดี เขาน่าจะรู้ว่าเรากลับไปคุยกับแฟนเก่า เหมือนหวงก้าง เขาอุ้มลูกมาหาเธอที่บ้าน อุ้มลูกมาร้องไห้ มากราบเธอ ขอให้กลับมา
โดยเธอยอมรับว่า ตอนนั้นเธอก็อาจมีความรักให้เขาอยู่และสงสารลูกด้วย จึงเลยกลับไป พอกลับได้ไม่นานก็มีลูกคนที่สองขึ้นมา จากนั้นเขาก็เริ่มกลับมาไม่ดีกับเธออีก ทั้งโกหก หนีเที่ยว ไปกินเหล้า
ทั้งนี้ในรายการ หนุ่ม กรรชัย ได้ให้ทีมงานติดต่อไปยังสามีและแม่สามี ซึ่งพวกเขารับสาย แต่ไม่สะดวกเข้าสาย พวกเขาบอกว่าถ้าฟังไปแล้ว มีอะไรติดใจ อยากชี้แจง จะติดต่อเข้ามา ก่อนที่ หนุ่ม กรรชัย จะหันไปถามฝ่ายหญิงว่า เคยสงสัยมั้ย ทำไมแม่สามีไม่ชอบ ทำไมสามีคอยทำอะไรแบบนี้ตลอด เขามองว่าเราไม่ดีตรงไหน ?
ซึ่งหญิงสาวระบุว่า เธอไม่ทราบ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเขาอาจไม่พอใจแล้ว ไม่งั้นคงไม่ให้ตรวจดีเอ็นเอตั้งแต่แรกแล้ว เหมือนไปคบกันแล้วอยู่ดีๆ ท้อง ทำนองนั้น ซึ่งตอนทะเลาะกันแม่สามีก็ไม่มีห้ามค่ะ ช่วงหลังๆ ก็รุมด่าเธอทั้งสองคน แต่ตอนที่สามีขอคืนดี เธอก็กลับไปอยู่บ้านหลังเดิม เพราะเขาขอให้เรากลับมา
"หนูก็เลยบอกว่าถ้าจะให้หนูกลับ เขาต้องกลับไปคุยกับแม่เขา แม่เขาก็ให้กลับ หนูเลยกลับเข้าไป ตอนเขาง้อ ก็ไลน์มาตลอดว่ามีกินมีใช้มั้ย อยากให้เราเจอลูก ตอนหลังหนูเอาลูกออกมา เขาพาลูกไปอยู่กับเขาต่อ เพราะเขาไม่ได้ทำงาน หนูก็คิดว่าเขาดูแลได้ เพราะลูกอยู่บ้าน แล้วก็อุ้มลูกมาร้องไห้ให้กลับไป ให้เห็นแก่ลูก แล้วก็กราบเรา เราก็เลยกลับไป" หญิงสาวอธิบาย
แต่พอกลับไปแล้วเกิดการตั้งครรภ์คนที่สอง และเขาก็เริ่มหนีเที่ยว บอกไปเติมน้ำมันแต่หายไปเลย กลับมาเที่ยงคืนตีหนึ่ง พอถามว่าไปไหนก็ไม่บอก พอตอนหลังเขาได้เข้าไปทำงานรัฐวิสาหกิจแห่งนึ่ง พอเดือนมกราคม ก็ยังทะเลาะกันอยู่ มีอยู่วันหนึ่งเขาบอกจะไปทำงาน เธอก็โอเค ถ้าทำงานเราไม่ติดอะไร จะไม่กลับบ้าน เข้าเวรก็โอเค
"แต่พอสี่โมงเย็นก็ติดต่อไม่ได้ จนเที่ยงอีกวัน ก็ตามเขาไปที่ทำงาน ว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า คราวนี้ที่ทำงานบอกว่าเขามาแต่ไม่ได้ทำงาน เขาไปต่างจังหวัดกับพี่ที่ทำงาน ไปต่างจังหวัดกันโดยไม่ได้บอกเรา พี่ที่ทำงานก็ติดต่อเขาให้หนู บอกว่าแฟนมาตามที่ทำงาน เขาก็บอกให้หนูกลับไปคุยที่บ้าน หนูก็ถามว่าคุณโกหกเราทำไม เรามาเพราะเป็นห่วง ติดต่อไม่ได้เลย" เธอระบุ
นอกจากนี้ เธอยังเล่าอีกว่า พอกลับไป เขาบอกว่าอยู่บ้านเลี้ยงลูกสบายจะตาย ไม่ต้องทำอะไร รอรับเงินวันละร้อยจากเขา หนึ่งร้อยเป็นค่าอาหารและค่าขนม เป็นรายวันค่าข้าวของเรา ส่วนค่านมค่าข้าวไม่เกี่ยว เธอก็เลยบอกว่าเอางี้มั้ย กลับกัน ให้เขาออกจากงานมาเลี้ยงลูก ค่าทุกอย่างหนูจะเป็นคนจ่ายเอง เหมือนที่เขาทำ ถ้าคิดว่าการเลี้ยงลูกสบาย ลองกลับกันดู แต่เขาก็ไม่ออกจากงาน ตอนหลังลูกคนโตจะให้เข้าเตรียมอนุบาล เขาบอกไม่ให้เรียน ไม่มีตังค์ แต่เธอก็บอกว่าไม่ได้จะขอตังค์ แค่แจ้งให้ทราบว่าลูกจะเข้าโรงเรียน
"พอลูกเข้าโรงเรียนเขาก็ไปถอย iPhone 14 หนูก็เลยถามว่าจะมีตังค์ผ่อนเหรอ แพงนะ ผ่อนเดือนละ 3 พันกว่าบาท แต่ลูกเรียน 4 พันกว่าบาท กลับบอกไม่มีตังค์ หนูถามเขาก่อนซื้อเพราะหนูไปกับเขา เขาก็บอกว่าเขาไหว หนูก็เริ่มโมโห ว่าตัวเองเต็มที่ทุกอย่าง ทำไมกับลูกไม่มีตังค์ หนูก็บอกว่างั้นหนูขอเพิ่มค่าข้าวได้มั้ย วันละ 100 ไม่พอ ขอเพิ่มเป็น 200 ได้มั้ย แต่เขาไม่ยอม" เธอเล่า
เธอยังบอกอีกว่า เธอเคยตามไปที่ทำงาน บอกว่าคุณใช้จ่ายส่วนตัวเยอะอยู่แล้ว แต่งรถ ซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่ แล้วอยู่ดีๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า 'อาม่ามึงขโมยทองจากบ้านกูรู้มั้ย' เธอก็ตกใจว่า ทำไมพูดแบบนี้ เธอก็โทร. ไปถามอาม่า เขาก็บอกว่าวันนั้นฝั่งแม่เอาทองใส่ซอง แล้วตอนเขากลับ เหมือนเขาหยิบของหลายอย่างกลับไปแล้วติดซองกลับไปด้วย
"พอเขากลับบ้าน แม่ก็มาถามหาทอง แล้วโทร. มาถามอาม่า อาม่าก็เห็นอยู่ในซองจริงๆ ก็เลยบอกว่าอยู่กับฉันจริงๆ มาเอาคืนไปเลย ฉันขอโทษนะ ไม่รู้จริงๆ ถ้าอาม่าขโมยจะบอกเขาทำไมว่าอยู่ที่เขา แล้วเรื่องนี้ไม่ต้องพูดก็ได้ อาม่าอายุ 80 กว่า เรื่องผ่านมาเป็นปี เพิ่งพูดขึ้นมา หนูก็เรียกตำรวจมาแล้วบอกว่าถ้าอาม่าขโมยจริง แจ้งความเลย เขาบอกเขาไม่แจ้ง
วันนั้นทะเลาะกันแล้ว ไปจบที่โรงพัก ก่อนขึ้นโรงพัก มีเพื่อนที่ทำงานของสามีไปด้วย 4-5 คน มีตัวเขาด้วย พี่ที่ทำงานก็เรียกมาไกล่เกลี่ยก่อนว่ามาคุยกันก่อนดีมั้ย ก็คุยตกลงกันที่ 3 ข้อ หนูขอเพิ่มเป็น 200 เขาบอกว่าให้ไม่ได้ เขาบอกว่าไหวโดยเพิ่มให้เดือนละ 1 พัน เป็นเดือนละ 4 พัน" หญิงสาวผู้เสียหายระบุ
นอกจากนี้ เธอยังมีข้อตกลงให้ตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. เขาเพิ่มให้เดือนละอีก 1 พัน เป็นเดือนละ 4 พัน 2. ถ้าเวลาทำงาน ให้รับโทรศัพท์ อย่าโกหก ไม่ว่างก็โทร. กลับมา 3. ถ้าได้แฟลตที่ทำงาน ก็ให้ย้ายไปอยู่ข้างนอกกัน จะได้ตัดปัญหากับแม่เขา ซึ่งฝ่ายชายก็ตกลง ซึ่งมีพยานอยู่ตรงนั้น 4-5 คน ไม่ได้ทำบันทึก แต่คุยกัน มีพยานอยู่ เธอก็บอกว่าต่อไปนี้จะไม่มาที่ทำงานแล้ว เธอก็กลับบ้านไป ผ่านไปได้ 2 วัน และเขาบอกว่าเขาทำได้แค่ข้อเดียว
ส่วนเรื่องตัดน้ำ - ตัดไฟนั้น ฝ่ายแม่เขาเหมือนไม่พอใจ ที่มารับรู้ว่าเธอกับเขาจะย้ายไปอยู่ข้างนอกกัน แม่เขาก็เริ่มบีบเรา ตอนหลังมารู้ว่าค่าใช้จ่ายเธอ ค่าคลอดลูก ค่ากินค่าอยู่ ค่ารายเดือน 3 พัน เป็นของทางบ้านเธอ ซึ่งสรุปแล้ว สามีให้เงินวันละ 100 เดือนละ 3 พัน แต่ค่าคลอดลูก 2 คน เป็นของอาม่า ที่เขาบอกว่าขโมยทอง ซึ่งไม่ใช่เงินเขาตั้งแต่แรก เขาให้ผ่านแม่สามี แม่สามีก็เอามาให้ลูก ลูกก็เอามาให้เธอ แล้วบอกว่าเป็นเงินเขาให้
หนุ่ม กรรชัย จึงได้พูดออกมาว่า 'แสดงว่าเขาไม่เคยให้เงินคุณเลย แม้แต่เงินรายวัน อาม่าโอนเงินให้แม่ผัว แม่ผัวก็เอาให้ลูกชาย แล้วลูกชายก็เอามาให้คุณ ค่าคลอดอาม่าก็ให้อีก นี่คือสิ่งที่คุณทำใจไม่ได้ เพราะผัวกลับไปด่าอาม่าว่าขโมยทอ ?'
"ค่ะ หลังจากความแตกว่าเป็นเงินอาม่า แม่เขาบีบเราหนักเลย จะให้เราออกจากบ้าน โดยการติดป้ายขายบ้าน ประมาณ 24 ล้าน ตารางวาละ 6 แสน เกือบ 40 ตารางวา ซึ่งบ้านอยู่ที่ 4 ล้าน พอติดไว้มีอยู่วันนึง หนูปวดท้องมาก หนูให้สามีช่วยดูลูกหน่อยหนูจะไปโรงพยาบาล เขาบอกว่าเขาต้องไปทำงาน เขาไม่ดูให้
หนูก็ถามพี่ที่ทำงานว่าเขามีงานมั้ย เขาบอกไม่มี เขาสลับเวร หนูก็เฮ้ย โกหกทำไม มารู้ว่าเขาจะไปต่างจังหวัดกับเพื่อน หนูก็ไม่ยอม ทำไมไม่ช่วยดูลูกให้หน่อย หนูปวดท้อง ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว แม่เขาก็อยู่ในบ้าน เข้าข้างลูกชายว่าต้องไปทำบุญต่างจังหวัดกับเพื่อน เพราะจิตใจย่ำแย่มาก หนูก็บอกว่าแล้วหนูล่ะ หนูก็เริ่มแย่เหมือนกัน วันนั้นแม่เขาก็เรียกตำรวจมาไล่เรากับลูก" เธออธิบาย
เธอเล่าอีกว่า ส่วนที่ถูกตัดน้ำ - ตัดไฟ และทวงเงิน 7 แสน คือแม่สามีเขาเขียนจดหมายคิดค่าเช่าที่เธออยู่บ้าน คิดย้อนหลังเดือนละ 3 หมื่น เป็นเวลา 2 ปี เขาเป็นคนยื่นจดหมายให้เธอ ซึ่งเธอก็ไม่ทราบเขาจะเขียนเพื่ออะไร ไม่ทราบว่าต้องการให้เราจ่ายเงินตรงนี้ หรือบีบให้เราออกไป ซึ่งตอนที่เธอเลิกกับแฟน แฟนไปตามกลับมา แม่แฟนก็ให้เธอกลับไป เพราะเขารู้ว่าลูกมาง้อ
เธอเล่าอีกว่า ช่วงกลับไปก็มีถูกกระทืบ และคราวนี้ตอนท้องก็โดน ซึ่งผ่านไปได้ไม่นาน ทางพ่อเขาก็ไปทำเรื่องตัดน้ำ - ตัดไฟ พอวันที่มาตัด ทุกคนก็ขนของออกจากบ้านไปหมด เหลือเธอกับลูกอยู่ในบ้าน ทำให้เราอยู่ไม่ได้ ต้องออกไปกันหมด ซึ่งเขาเอาเสื้อผ้าออกไป เหลือเธอกับลูก 2 คน เขาตัดไฟวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา
เธอกลั้นไม่ไหวถึงต้องร้องไห้ต่อหน้าหนุ่ม กรรชัย พร้อมเล่าว่า เธอเลยต้องพาลูกออกจากบ้าน แต่ตอนที่พนักงานไฟฟ้าเขามา เขาไม่กล้าตัดเพราะเขาเห็นมีเด็กอ่อนอยู่ในบ้านเขาก็ไม่กล้าตัด เขาโทร. ไปบอกหัวหน้าเขา หัวหน้าเขาก็บอกว่าให้เวลาอีก 2 วัน ให้ไปคุยกัน สุดท้ายเขาก็ต้องกลับมาตัดเหมือนเดิม ซึ่งพอวันที่ 2 เธอก็ขนของออกไป
หนุ่ม กรรชัย ตั้งข้อสงสัยว่า ยังไม่เข้าใจสาเหตุที่ให้เราออกจากบ้าน ตอนแรกประกาศขายบ้าน จากนั้นมาเรื่องขอค่าเช่าบ้าน 7 แสนกว่าบาท พอไม่ออกก็ตัดไฟเลย ทำไมเขาอยากให้เราออกจากบ้านหลังนั้นหนักหนา ?
"หนูก็ไม่รู้สาเหตุหลักๆ ที่อยากให้ออก หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ซึ่งกับแม่สามีไม่เคยพูดจาไม่ดีกับเขาสักครั้ง แต่กับสามีมีปากเสียงกัน ด่ากันปกติ แต่กับผู้ใหญ่หนูไม่เคยพูดจาไม่ดี หนูพูดค่ะตลอดด้วยซ้ำ กับแม่สามีหนูก็ไม่เคยคุยกับเขามาก่อนหน้านี้ หนูก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไรค่ะ" หญิงสาวอธิบาย
ด้าน หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า ได้คุยกับฝั่งสามีคุณด้วยซ้ำ เขาบอกว่าขอไม่พูด ไม่รู้จะพูดอะไร ให้คุณพูดไปแล้วกัน ทีมงานโทรไปหาแม่สามีคุณ บอกว่าไม่สะดวกพูด แต่ถ้ามีอะไรจะพูดจะติดต่อมาชี้แจงเอง หลังคุณย้ายออกมาเอาลูกมาด้วย เอาไปไว้ที่ไหน?
"ไปอยู่กับอาม่าค่ะ ตอนนี้อาม่าไม่อยู่ ไปต่างประเทศ อยู่กัน 3 คนแม่ลูก ส่วนบ้านฝ่ายชายพอหนูออก ทุกคนก็กลับมาอยู่เหมือนเดิม แล้วโทร. ไปยกเลิกการไฟฟ้าว่าไม่ต้องตัดแล้วตั้งแต่วันที่หนูออก" หญิงสาวตอบคำถาม
พร้อมกันนี้เธอยังอธิบายถึงประเด็นการแจ้งความ เรื่องสามีทำร้ายว่า ก่อนหน้านั้นไม่มีหลักฐาน แต่คลิปกล้องวงจรปิดที่ได้มา ก่อนออกจากบ้านแค่วันเดียว คลิปนี้เป็นคลิปสุดท้าย แล้วก็ดึงปลั๊กออกเลย มันก็ไม่มีหลักฐานอะไรต่อ และเธอก็ยังไม่ได้ไปแจ้งความใหม่
เธอเล่าอีกว่า ที่เธอไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอ แต่ที่แม่สามีให้เข้าบ้าน เพราะตอนหลังสามียอมรับ ซึ่งอาจจะมีส่วนว่า แม่สามีคิดว่าเธอไปแย่งความรักจากเขา เหมือนในละคร แต่ถ้าถามว่า เขารักหลานมั้ย? ถ้าคนดูภายนอกก็ดูว่าเขารัก แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง แต่วันที่เธอออกไป เขาสามีโอนเงินมาให้ 6 พันบาท ให้ลูกสองคน คนละ 3 พันต่อเดือน รวมค่าทุกอย่างแล้ว เธอก็บอกว่าไม่พอ เขาก็บอกว่าเขาให้ได้เท่านี้ ไม่ให้เพิ่มแล้ว
หญิงสาวเล่าอีกว่า กับแม่สามีนั้นตอนแรกไม่มีต่อต้านแรงๆ แต่เพิ่งมีตอนหลัง เริ่มด่า เหน็บแนม
พี่หนุ่ม จึงพูดขึ้นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายชายคนเดียว มองว่าคุณน่าจะเป็นเป้าทางแม่ผัว เขาอาจไม่แฮปปี้ เหมือนคุณขัดคำสั่งเขาทุกอย่าง เขาอาจมีอคติกับคุณ แล้วคุณมีประเด็นถูกทำร้ายร่างกาย แม่ผัวก็เลยคิดว่าออกไปเลยดีกว่า เมื่อไหร่ที่สามีคุณเขาปกป้องคุณ เอาเข้าบ้าน แม่รักลูกก็ต้องยอมเอาคุณเข้า แต่เมื่อไหร่ลูกไม่เอาคุณ มีปัญหา เขาก็พร้อมถีบคุณออกไปเหมือนกัน นี่เป็นการตั้งข้อสังเกต ตอนนี้คุณต้องการอะไร?
หญิงสาวบอกอย่างเด็ดเดี่ยวว่า เธอต้องการดำเนินคดีเรื่องทำร้ายร่างกาย และเรียกร้องเรื่องลูก และไม่กลับไปคืนดีกันอีกแล้ว ส่วนเรื่องลูกเธออยากเลี้ยงไว้เอง และที่เธอมาออกรายการวันนี้ เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองด้วย เพราะเขาชอบมาดักรอเธอ ทำให้เธอต้องอยู่อย่างหวาดระแวง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline