ทนายเกิดผล ชี้ รับสินค้าไว้ แต่ไม่ได้ถ่ายคลิปเมื่อชำรุด ใครรับผิดชอบ

วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ยกเคสดังกล่าวเป็นกรณีศึกษาสำหรับนักช้อปที่ลืมถ่ายคลิปขณะเปิดสินค้าว่า พ่อค้าแม่ค้า ส่งสินค้าให้ลูกค้า มีการติดสติ๊กเกอร์หน้ากล่องพัสดุ

 

 

 

"กรุณาถ่ายวิดีโอขณะเปิดกล่องพัสดุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมสินค้า ไม่มีหลักฐานงดเคลมทุกกรณี" ปรากฏว่า คดีที่ศาลจังหวัดอุดรธานีคดีหนึ่ง ผู้ซื้อสินค้ารับสินค้าไว้แต่ไม่ได้ถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน เมื่อเปิดกล่องพัสดุ ผลคือสินค้าแตกหัก และเมื่อขอคืนสินค้า แต่ผู้ขายปฏิเสธ เพราะผู้ซื้อไม่ได้ถ่ายคลิปเป็นหลักฐานในขณะรับสินค้า

 

ลูกค้าจึงนำคดีมาฟ้อง เป็นคดีผู้บริโภค ศาลชั้นต้น (ศาลจังหวัดอุดรธานี) พิพากษาว่า ข้อความดังกล่าวนี้ถือเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม สัญญาที่ฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมากเกินสมควร ประกอบกับคู่สัญญาไม่ได้รับความยินยอมในสัญญาตั้งแต่ต้น ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 มาตรา 4 วรรคสาม ข้อตกลงดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา 11

 

สิ่งที่ควรกระทำ ผู้จัดส่งควรถ่ายคลิปขณะแพ็กสินค้า ผู้รับควรถ่ายคลิปขณะแกะสินค้า เมื่อมีการชำรุด แตกหัก ร้านค้าต้องรับผิดชอบในเบื้องต้นและเรียกค่าเสียหายจากผู้ขนส่ง ไม่ใช่เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคฝ่ายเดียว คดีลักษณะนี้อยู่ในลักษณะติดประกาศแต่เพียงฝ่ายเดียว เช่น รถหายในห้าง โดยห้างติดประกาศว่า รถหายห้างจะไม่รับผิดชอบ ศาลฎีกา เคยพิพากษาว่า ข้อความดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เป็นโมฆะ ตามมาตรา 11 (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10570/2557)

 

อย่างไรก็ตาม คดีที่จังหวัดอุดรธานี ยังไม่ถึงที่สุด แต่มีข้อความประกาศในลักษณะคล้ายกับคดีรถหายในห้าง จึงเชื่อว่าน่าจะพิพากษาให้ผู้ขายหรือขนส่งรับผิดเช่นกันขณะที่ชาวเน็ตบางคนสงสัยว่า แล้วถ้าร้านมีคลิปตอนแพ็กสินค้า แต่ลูกค้าไม่มีจะเป็นอย่างไร ซึ่งทางทนายเกิดผล ชี้แจงกลับไปว่า "มีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สามารถเรียกร้องกับบริษัทขนส่งได้"

 

 

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline