ชาวบ้านพบ ชายปริศนา มีรอยสัก สวมเสื้อ กองทัพเรือ โผล่หาดทะเลสงขลา

ชาวบ้านพบ ชายปริศนา มีรอยสัก สวมเสื้อ กองทัพเรือ โผล่หาดทะเลสงขลา เกาะติดสถานการณ์ช่วยเหลือ กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย อย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมามีรายงานว่า พบ กลุ่มผู้เสียชีวิต 6 ราย และได้รับการยืนยันว่า เป็น กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ก่อนที่วันที่ 25 ธันวาคม 2565 จะมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า พบ ร่างกำลังพล อีกสองนาย

 

(อ่านข่าว : พบเพิ่มอีก 2 กำลังพล เรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย)

ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 25 เข้าสู่ช่วงเช้าวันที่ 26 ธ.ค. ร่างชายไทยรายหนึ่ง ลักษณะภายนอกที่เห็นได้ชัด มีรอยสักที่แขนขวา และแผ่นหลังถูกคลื่นซัดลอยมาเกยตื้นริมชายหาดบ้านดอนเค็ด ใกล้กับวัดดอนเค็ด หมู่ 4 ต.สนามชัย อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งชาวบ้านในระแวกนั้นไม่มีใครรู้จัก จึงได้นำส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล

โดย พ.ต.ท.กระจ่าง แก้วไฝ สว.(สอบสวน) สภ.ชุมพล จ.สงขลา รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบร่างดังกล่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบศพเป็นผู้ชาย สภาพเน่าเปื่อย สวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน หน้าอกเขียนว่า "กองทัพเรือ ROYAL THAI NAVY" สวมกางเกงในสีน้ำเงิน มีรอยสักที่แขนขวา และแผ่นหลัง สอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงไม่มีใครรู้จัก จึงนำศพส่งโรงพยาบาลสทิงพระ พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเสื้อที่สวมใส่เป็นเสื้อของทหารเรือจริง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นศพของลูกเรือเรือหลวงสุไขทัย ล่มหรือไม่ เพราะจากสภาพพื้นที่จุดพบศพกับจุดที่เรือจมอยู่ห่างกันมาก จึงประสานทางทัพเรือภาคที่ 2 สงขลา ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูรายละเอียดรูปพรรณสัญฐานตำหนิต่างๆ ของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง 

เพื่อประสานข้อมูลไปยังศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ชุดค้นหากำลังพล เรือหลวงสุโขทัย ว่าเป็นกำลังพลที่ประสบภัยเรืออับปางหรือไม่ ต่อไป

ขณะเดียวกัน มีผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือกำลังพลที่เสียชีวิต ที่พบศพลอยทะเลเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าเป็นร่างของ จ.ต.ศราวุธ นาดี หนึ่งในทหารเรือ ที่สูญหายจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยโพสต์ดังกล่าวเป็นการแชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Max Pattaravut" ที่โพสต์ภาพ จ.ต.ศราวุธ แต่งเต็มยศ พร้อมข้อความระบุว่า 

"ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง หลับให้สบายนะน้องชายของพี่ จากไปในหน้าที่สมกับความเป็นชายชาติทหารจริงๆ #เรือหลวงสุโขทัย"

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline