เปิดเหตุผล "อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ" ได้ประกันตัวแม้หลักฐานมัดตัวแน่น

สืบเนื่องจากกรณีข่าวตํารวจสอบสวนกลาง ร่วม ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. จับกุมข้าราชการระดับสูงกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คือ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับเงินรายเดือนจากหน่วยในสังกัด กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB)

โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับเงินรายเดือนจากหน่วยในสังกัด กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) 

ความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานสมาชิกสภา เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต"

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 ได้มีผู้ร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ให้ช่วย ดําเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของ นายรัชฎา อธิบดีกรมอุทยานฯ ข้าราชการระดับสูง ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

เนื่องจากมีพฤติกรรม เรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในสังกัด โดยเป็นการเรียกรับ เงินจากหัวหน้าหน่วย เพื่อเป็นการวิ่งเต้นให้รักษาตําแหน่งหัวหน้าหน่วยไว้ให้ โดยหากหัวหน้าหน่วยแต่ละ หน่วย ไม่นําเงินมาวิ่งเต้นตําแหน่งกับนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ภายหลังจะถูกโยกย้ายออกจากตําแหน่ง ซึ่งการวิ่งเต้นรักษาตําแหน่งนั้น หัวหน้าหน่วยจะต้องนําเงินมามอบให้ที่สํานักงานของ นายรัชฎา รายละประมาณ 500,000 - 1,000,000บาท อีกทั้งยังต้องนําเงินสดมามอบให้เป็นรายเดือนอีกด้วย

สำหรับความคืบหน้า การจับกุม อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในคดี เรียกรับผลประโยชน์ และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต พร้อมกับคุมตัวมาสอบสวน ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)

ภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ยื่นขอประกันตัว โดยวางเงินสดจำนวน 4 แสนบาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ก่อนที่พนักงานสอบสวน จะพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นข้าราชการระดับสูงมีตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง ประกอบกับมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่น่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี จึงอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวได้

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2563 นายรัชฎา แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. กรณีดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทุก 3 ปี ซึ่งในขณะนั้น เขาดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ นายรัชฎา แจ้งมี 45,564,115.70 บาท จาก เงินฝาก 19,317,224.53 บาท เงินลงทุน 4,994,891.17 บาท ที่ดิน 5,022,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,780,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 5,900,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 2,550,000 บาท

- แจ้งมีหนี้สิน 6,533,375.12 บาท จาก เงินเบิกเกินบัญชี 134,711.89 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 6,398,663.23 บาท

- คู่สมรส แจ้งมี 17,341,415.60 บาท จากเงินฝาก 2,169,415.60 บาท เงินลงทุน 1,000,000 บาท ที่ดิน 8,932,000 บาท ยานพาหนะ 1,240,000 บาท

- บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สิน 147,760.72 บาทจากเงินฝาก

อีกทั้งสำหรับรายการทรัพย์สินที่น่าสนใจ นายรัชฎา แจ้งมี สร้อยทอง 11 เส้น น้ำหนักรวม 75 บาท แหวนเพชร 6 วง ต่างหู 2 คู่ กำไล 2 วง สร้อยคอพร้อมจี้ 2 เส้น สร้อยทองรูปพรรณ 5 บาท พระเนื้อโลหะขอบทอง 1 องค์ เครื่องลางงาแกะขอบทอง 1 องค์ พระเครื่องขอบทอง 12 องค์ และปืน 1 กระบอก

ทั้งนี้ในส่วนข้อมูล บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายรัชฎา จากการตรวจสอบยังไม่พบว่า มีการเผยแพร่ข้อมูลขณะเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ หรือไม่ พร้อมกันนี้ยังไม่ปรากฎข้อมูลว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายรัชฎา ขณะเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ แต่อย่างใด

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline