- 30 ธ.ค. 2565
เปิดชีวิตเศร้า "พลทหารชลัช" กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย จบ ป.2 กำพร้าพ่อ แม่พิการสมอง อาศัยอยู่กับยาย ทั้งบ้านมีแค่วิทยุกับหม้อหุงข้าว
จากเหตุการณ์ เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีกำลังพลผู้สูญหายและผู้เสียชีวิตหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พลทหาร ชลัช อ้อยทอง พลแตรเรือหลวงสุโขทัย ที่ล่าสุดได้เปิดเผยชีวิตที่ยิ่งกว่านิยาย เนื่องจาก พลทหารชลัช ได้พลัดพรากกับแม่นาน 15 ปี เพราะว่า แม่ป่วยมีอาการผิดปกติทางด้านสมอง จึงต้องไปอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่เขายังเด็ก แต่เขาก็ได้ไปเยี่ยมแม่อยู่ตลอด
จนกระทั่งประมาณ ป.1 แม่ของชลัช หายตัวไปจากโรงพยาบาล และช่วยกันตามหาตลอดแต่ไม่พบ จนพลทหารชลัชได้มาคบกับแฟนสาวซึ่งเป็นพยาบาล จึงเล่าเรื่องนี้ให้แฟนสาวฟัง และขอแรงให้เธอช่วยตามหาแม่อีกทางหากมีหนทางช่วยได้ จนกระทั่งเกิดเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พลทหารชลัช คือหนึ่งในผู้สูญหาย และทางกองทัพเรือต้องการ DNA ของญาติเพื่อนำมายืนยันตัวตนผู้สูญหาย ซึ่งญาติของพลทหารชลัชที่ยังมีชีวิตอยู่คือแม่ของเขานั่นเอง แต่แม่พลัดพรากกับเขาไปตั้งแต่เขายังเด็ก ทางเดียวที่จะนำ DNA มาเก็บเพื่อใช้ยืนยันตัวตนผู้สูญหายได้ คือ ต้องตามหาแม่ของพลทหารชลัช ทางกองทัพเรือจึงช่วยกันประสานและในที่สุด 15 ปี ที่รอคอยของพลทหารชลัชก็เป็นจริง เมื่อกองทัพเรือช่วยตามหาแม่ของชลัชจนเจอ แต่ที่น่าเศร้าก็คือพลทหารชลัชไม่ได้อยู่พบหน้าแม่อีกแล้ว
พลทหารชลัช มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร กำพร้าพ่อ มีแม่พิการทางสมองตั้งแต่เกิด ซึ่งปัจจุบันอยู่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง โดย พลทหารชลัช เรียนจบเพียงชั้น ป.2 เพราะฐานะยากจน แต่ดิ้นรนทำงานเลี้ยงดูยายวัย 78 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ.2564 ถึงเวลาต้องรับใช้ชาติ จับฉลากได้เป็นทหารเกณฑ์ผลัด 3 ถูกส่งตัวไปฝึกที่กองทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเดือน เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บ้านของของพลทหารชลัช มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ส่วนสิ่งของภายในบ้านมีเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงหม้อหุงข้าวที่ใช้มานานหลายปี และมีโทรทัศน์ชำรุดใช้การไม่ได้มานานกว่า 10 ปี ไม่เคยได้ซื้อใหม่ เรียกว่าแทบไม่มีอะไรเลย นอกจากวิทยุทรานซิสเตอร์ 1 เครื่อง ที่คนในครอบครัวใช้เปิดฟังเพลงและข่าวสารบ้านเมืองเท่านั้น อีกทั้งคุณยายของพลทหารชลัชก็อายุมากแล้วใช้โทรศัพท์มือถือไม่เป็น ใช้เครื่องมือสื่อสารอื่นๆก็ไม่เป็น จึงต้องรับรู้ข่าวสารจากวิทยุทรานซิสเตอร์เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline