อำลาปีเสือดุ วงการคณะสงฆ์สูญเสีย 9 พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ละสังขารในปี 2022

วงการคณะสงฆ์สูญเสีย 9 พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้มากด้วยวิทยาคม และมีชื่อเสียงในด้านต่างๆ มรณะภาพอย่างสงบในปี 2565

อำลาปีเสือดุ วงการคณะสงฆ์สูญเสีย 9 พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ละสังขารในปี 2022 นับเป็นปีเสือดุจริงๆ สำหรับ 2565 ซึ่งใน 365 วันมีข่าวการสูญเสียถี่เหลือเกิน และในวงการคณะสงฆ์ต้องสูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้มากด้วยวิทยาคม และมีชื่อเสียงในด้านต่างๆ และ ปีเสือ 2022 ที่ผ่านมา มี 9 พระเกจิชื่อดัง ที่ได้ละสังขารไปในปี 65 ดังรายชื่อต่อไปนี้

 

- หลวงปู่บุดดา วัดป่าใต้พัฒนาราม จ.สระแก้ว
อมตะ เกจิ 6 แผ่นดิน ชื่อที่บรรดาลูกศิษย์ขนานนามให้กับ พระราชมงคลวชิราทร หรือ หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าใต้พัฒนาราม อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว หลวงปู่บุดดา เป็นพระเกจิที่มีความเมตตาธรรมบารมีสูง และมีรอยยิ้มอยู่เสมอ 


ท่านเป็นที่ทราบกันกันดีของลูกศิษย์ว่า ท่านชอบอยู่ชีวิตเรียบง่าย ฉันอาหารแบบบ้านๆ น้ำพริก ผักต้ม ผักสด มักน้อย ชอบชีวิตสันโดษ ไม่นิยมสะสมข้าวของ ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นประจำอย่างเคร่งครัด ทั้งยังเป็นพระเกจินักพัฒนา สร้างพระอุโบสถ, เทลาดถนนคอนกรีตให้กับโรงเรียน, จัดซื้อเครื่องมือแพทย์มอบให้ทางโรงพยาบาล อยู่เป็นประจำ 

 

วันที่ 13 ธ.ค. หลวงปู่บุดดา ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่กุฏิของท่าน สิริอายุ 111 ปี นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในวงการพระเกจิของเมืองไทย 

อำลาปีเสือดุ วงการคณะสงฆ์สูญเสีย 9 พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง

- หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี จ.อุทัยธานี
พระครูอุปกิตสารคุณ หรือ "หลวงพ่อเสน่ห์" วัดพันสี จังหวัดอุทัยธานี พระเกจิอาจารย์ผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ได้มรณภาพลงเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 2 พ.ย. หลังเข้ารับการรักษาตัวจากอาการอาพาธตั้งแต่เมื่อช่วงเดือน ต.ค. 2565 สิริรวมอายุ 91 ปี  

 

หลวงพ่อเสน่ห์ นับเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมรูปหนึ่ง ทั้งเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีคณะศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงวงการนักนิยมสะสมวัตถุมงคล รู้จักท่านในนามของพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคม โดยวัตถุมงคลของ “หลวงพ่อเสน่ห์” ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ปรารถนาของบรรดานักสะสมนิยมวัตถุมงคล โดยเฉพาะ ตะกรุดโทน แหวนหัวพิรอดทำด้วยปรอท 

อำลาปีเสือดุ วงการคณะสงฆ์สูญเสีย 9 พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง
 

- หลวงปู่แสง วัดโพธิ์ชัย จ.นครพนม
พระเทพมงคลวัชรโรดม หรือ "หลวงปู่แสง จันทวังโส" อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ได้ละสังขารลงอย่างสงบที่กุฏิ เมื่อวันที่ 21 เม.ย.65 เวลา 06.20 น. สิริรวมอายุ 111 ปี 91

หลวงปู่แสง เป็นศิษย์สืบสายธรรม หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์พระป่า และยังเป็นสหธรรมิก หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิชื่อดังภาคอีสาน วัดธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม 


หลวงปู่แสง ได้เล่าเรียนอักขระเลขยันต์ วิทยาคมจนมีความเชี่ยวชาญ เชื่อว่าท่านสำเร็จฌานสมาบัติขั้นสูง เพียงท่านจับมือใครคนนั้น ท่านจะรู้หมดทุกเรื่องในตัวคนนั้น และท่านจะบอกเรื่องดีๆ ให้คนๆ นั้นได้พบกับความเจริญรุ่งเรือง กล่าวได้ว่า หลวงปู่แสง เป็นผู้มากวิชารูปหนึ่งในเมืองไทย จนลูกศิษย์ตั้งสมญานามที่กล่าวขานยกย่องท่านเป็น เทพเจ้าบันดาลทรัพย์


คณะลูกศิษย์ได้จัดสร้างวัตถุมงคลของ หลวงปู่แสง หลายรุ่น แต่ละรุ่นล้วนมีพุทธคุณ และเป็นที่เสาะแสวงหาแห่นักอนุรักษ์สะสมจนรุ่นสุดท้ายก่อนปิดการสร้าง คือ เหรียญรุ่นศรัทธาบารมี เนื่องในโอกาสฉลองอายุวัฒนมงคล 109 ปี

อำลาปีเสือดุ วงการคณะสงฆ์สูญเสีย 9 พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง
- หลวงปู่รอด วัดโคกกรม จ.สุรินทร์
พระครูอาภัสร์ธรรมคุณ หรือ หลวงปู่รอด อาภัสสโร อดีตเจ้าคณะตำบลโคกกลาง และอดีตเจ้าอาวาสวัดโคกกรม จังหวัดสุรินทร์ พระเกจิชื่อดังที่พุทธศาสนิกชนเมืองช้างให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นพระเถระผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตา 


และทรงวิทยาคมแห่งดินแดนอีสานใต้ ท่านได้ ร่ำเรียนวิชาตำรับยาสมุนไพรแบบโบราณจากพระเกจิ 3 รูป คือ หลวงตาโต๊ะ หรือ พระครูอรุณสาธุกิจ, หลวงปู่ชิด หรือ พระครูวิชิตธรรมคุณ วัดบ้านลำดวน และ หลวงปู่ริม วัดอุทุมพร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์


และท่านยังเคยไปเสาะแสวงหาสมุนไพรนานาชนิดจากป่าลึกตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และอาการปวดเมื่อย จนมีความเชี่ยวชาญได้รับรางวัลมากมายในด้านการใช้สมุนไพรในการรักษาโรค


ด้านวัตถุมงคล ท่านเริ่มทำวัตถุมงคลรุ่นแรกในปี พ.ศ. 2500 เช่น ตะกรุด สีผึ้ง และพระสมเด็จ แจกจ่ายให้ญาติโยม ข้าราชการ ตำรวจ และทหารปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเป็นที่ยอมรับ ท่านยังได้จัดสร้าง ตะกรุด รุ่นรอดปลอดภัย แจกจ่ายให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน บนถนนทางหลวง 24 จำนวน 4,000 ชุด เพื่อเตือนสติให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัยในการเดินทาง 


ขณะเดียวกัน แอ๊ด คาราบาว ยังเคยแต่งเพลงชื่อว่าเพลง หลวงปู่รอด จนโด่งดังทั่วประเทศมาแล้ว นอกจากนี้ท่านยังได้ช่วยสร้างวัดที่กำลังพัฒนาหลายแห่ง เช่น 1. วัดระกาไกรสร 2. วัดฉันเพล 3. วัดหนองหิน 4. วัดบ้านด่าน 5. วัดโนนสมบูรณ์ 6. วัดกู่สัตธาราม 7. วัดบ้านเพี้ยราม อีกทั้งยังได้จัดสร้างอาคารโรงพยาบาลพนมดงรัก และช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ ใน จ.สุรินทร์ พร้อมทั้งได้จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์อีกด้วย


หลวงปู่รอด อาภัสสโร มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. เวลา 23.15 น. สิริอายุ 77 ปี 55 พรรษา สิ้นสุดตำนาน พระเกจิผู้ทรงวิทยาคมแห่งดินแดนอีสานใต้

 

- พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี
พระครูอนุศาสน์กิจจาทร หรือ พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ แห่งวัดห้วยเงาะ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี มรณภาพเมื่อเวลา 21.25 น. วันที่ 2 พ.ย. 2565 จากการติดเชื้อในกระแสเลือด ที่โรงพยาบาลปัตตานี สิริอายุ 93 ปี 

พ่อท่านเขียว นับเป็น พระเกจิสำคัญแห่งดินแดนปัตตานี พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพศรัทธา และเชื่อมั่นในพุทธาคมของท่าน โดยเฉพาะในหมู่ทหาร ตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขนานนามท่านว่า เทพเจ้าฝ่ายบู๊แห่งเมืองลังกาสุกะ 


ท่านเป็นพระสมถะ ไม่สะสมทรัพย์ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร บางทีก็แบ่งข้าวที่ท่านกำลังฉันให้สุนัขที่ท่านเลี้ยงกินด้วยกัน ท่านมีเมตตากับทุกๆ คน เดือดร้อนอะไรมาท่านก็ช่วยไม่เว้นแม้สุนัขที่ถูกทอดทิ้ง ท่านก็รับมาเลี้ยงอย่างดี ท่านชอบสอนทุกๆ คนที่ไปหาท่านให้ทำดี ละเว้นชั่ว ตั้งมั่นในความซื่อสัตย์กตัญญู อดออมทรัพย์สินใช้จ่ายอย่างประหยัด

วัตถุมงคลของท่าน ขึ้นชื่อในเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย ว่ากันว่า ตะกรุดพิสมรหลวงปู่ทวด ที่ท่านจัดสร้างขึ้น เป็นสุดยอดเครื่องรางของขลังแจกคนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และไม่มีใครที่พก ตะกรุดพิสมรหลวงปู่ทวด เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่สักรายเดียว


- หลวงปู่ถ้า วัดป่าทศพลมังคลาราม จ.ร้อยเอ็ด
หลวงปู่ถ้า อนาลโย หรือ พระราชมงคลวชิรพล เกจิดังแห่งภาคอีสานแดนภูไท ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2565 ที่โรงพยาบาลอำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด สิริอายุ 108 ปี 3 เดือน 10 วัน พรรษา 31

หลวงปู่ถ้า จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าทศพลมังคลาราม บ้านบุ่งเลิศ ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมะ เป็นเวลา 15 พรรษา และลาสิขาบท เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว เมื่อสะสางปัญหาต่างๆ แล้วเสร็จ ท่านได้เข้าสู่เพศบรรพชิตอีกครั้ง 


และได้ออกธุดงค์ปลีกวิเวกไปตามสถานที่ต่างๆ และข้ามฝั่งเข้าสู่ดินแดนประเทศกัมพูชา ได้ไปพบกับ พระอาจารย์ไพร ผู้มีวิชาอาคม มหาเสน่ห์ และการทำเครื่องรางของขลัง จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ร่ำเรียนวิชาเป็นระยะเวลา 3 ปี จึงกราบลา พระอาจารย์ไพร เพื่อนำวิชาที่ได้เล่าเรียนมาจากครูบาอาจารย์ มาช่วยเหลือญาติโยม


ครั้งหนึ่ง คณะลูกศิษย์ขออนุญาตสร้าง เครื่องรางหนูดูดนมแมว พุทธคุณด้านเมตตามหานิยมให้หลวงปู่เสกเป็นเวลานานกว่า 1 ปี นับว่าเป็นเครื่องรางที่มีพุทธคุณเข้มขลัง เป็นที่ต้องการของพ่อค้า แม่ค้า แม้แต่ชาวจีน มาเลเซีย ฮ่องกง ต่างก็แสวงหาเพื่อให้ได้มาครอบครอง ทำให้ “หลวงปู่ถ้า อนาลโย” ได้รับการยกย่องว่าเป็น พระกรรมฐานสายป่าเจ้าตำหรับวิชาเขมร


- หลวงพ่อเกิด วัดหนองยาง จ.นครราชสีมา
พระครูสมาจารคุณ หรือ หลวงพ่อเกิด สมาจาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองยาง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลหนองยาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา พระเกจิอาจารย์สายเมตตามหานิยมชื่อดัง ท่านได้ศึกษาวิชาความรู้ธรรมะปฏิบัติกรรมฐานและศาสตร์ต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์ และพระเกจิชื่อดังจำนวนมาก เช่น 


พระครูธรรมโชตาภิรมย์ ศิษย์สายตรง หลวงพ่อใหญ่ ทั้งศึกษาธรรมะวิชาความรู้จากพระมหาเถราจารย์คณาจารย์ สายโคราช เก่าก่อน เช่น พระปทุมญาณมุนี (หลวงพ่อเขียว วัดบึง), หลวงพ่อหล้า วัดหนองบัวรอง, หลวงพ่อเฉย วัดโพธิ์, หลวงพ่อปุ๊ก วัดพุดซา, หลวงพ่อบุญ วัดโตนด, หลวงพ่อเฉย วัดหนองม่วง


หลวงพ่อเกิด ยังได้เรียนวิชาความรู้แนะนำจากพระมหาเถราจารย์คณาจารย์รุ่นเก่าของโคราชครบ และต่างจังหวัด พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำสั่งสอนจาก หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รวมทั้งยังได้เคยศึกษากับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี อีกด้วย


หลวงพ่อเกิด มรณภาพแล้วเมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 14 มิ.ย. 2565 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา สิริอายุ 85 ปี 65 พรรษา

อำลาปีเสือดุ วงการคณะสงฆ์สูญเสีย 9 พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง
- หลวงพ่อสำเภา วัดเขาใหญ่อรุณบุญยราษฎร์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
หลวงพ่อสำเภา อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาใหญ่อรุณบุญยราษฎร์ เกจิดังเมืองหัวหิน มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคสภาวะสมองขาดเลือด เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2565 เวลา 20.19 น. สิริอายุได้ 91 ปี พรรษา 40


พระครูมงคลบรรพตสถิต หรือ หลวงพ่อสำเภา ฐานจาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาใหญ่อรุณบุญยราษฎร์ เป็นผู้มีใจรักและฝักใฝ่ในด้านเวทมนตร์คาถาอาคม รวมถึงวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่เด็กๆ 


จนกระทั่งท่านได้มีโอกาสได้เข้ากราบสักการะ พระครูประสิทธิวรการ หรือ หลวงปู่คำ สุวัณณโชโต วัดหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านไสยเวทวิทยาคม มีชื่อเสียงด้านการสักยันต์ก็เป็นเลิศ 


จึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในจริยวัตรของ “หลวงปู่คำ” และอยู่รับใช้อุปัฏฐากพร้อมกับฝากตัวเป็นศิษย์ เรียนวิทยาคม การลงอักขระเลขยันต์ รวมถึงตำราโหราศาสตร์ไทย ควบคู่กับวิชาแพทย์แผนโบราณ กับ “หลวงปู่คำ” ที่วัดหนองแก จนท่านมีความรู้ความชำนาญ

หลวงพ่อสำเภา นับเป็นพระเกจิอาจารย์แถวหน้าของเมืองไทยอีกรูปหนึ่งที่มีความรู้ ความชำนาญในเรื่องการลงอักขระเลขยันต์ ตำราโหราศาสตร์ไทย และวิชาแพทย์แผนโบราณ ได้เป็นอย่างดี

 

- หลวงพ่อจอน วัดบุญฤทธิ์ จ.นครราชสีมา
เกจิแห่งดงพญาเย็น ฉายาที่ชาวบ้านเรียกขาน หลวงพ่อจอน หรือ พระครูสิทธิบุญสาร วัฑฒจิตโต อดีตเจ้าอาวาสวัดบุญฤทธิ์ ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา  


หลวงพ่อจอน  เป็นชาวจังหวัดชลบุรี อุปสมบทที่วัดบุญฤทธิ์ (บึงบน) อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี และฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่โทน กันตสีโล วัดเขาน้อยคีรีวัน อำเภอบ้านบึง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี ได้ศึกษาวิทยาคม รวมทั้งวิชาแพทย์แผนโบราณ คือ การเสกน้ำมันมนต์ประสานกระดูกจาก หลวงปู่โทน ก่อนที่จะต้องลาสิกขาออกมาช่วยงานครอบครัวหาเลี้ยงชีพ 


และได้กลับมารับใช้พระศาสนาอีกครั้ง โดยได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หลังจากบวชครั้งนี้ สนใจศึกษาเล่าเรียนในพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดมิตรภาพวนาราม จังหวัดนครราชสีมา ต่อมาได้ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานควบคู่กับการศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์ที่เก่งในทางนี้ 


เคยเดินทางไปวิปัสสนากัมมัฏฐานกับ พระอาจารย์ตะเบง ภิกษุสงฆ์ชาวเมียนมา ซึ่งธุดงค์มาวิปัสสนาอยู่แถบรอยต่อระหว่าง อำเภอแม่สอด และประเทศเมียนมา อยู่ระยะหนึ่ง นอกจากนั้นท่านยังได้มีโอกาสรับเอาตำรับการสร้างเครื่องรางของขลัง การนั่งปรกปลุกเสก วัตถุมงคล ในรูปแบบขอมโบราณ 


และรูปแบบต่างๆ จาก หลวงพ่อจันภูมิ พระเกจิอาจารย์ชาวเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ด้วย หลวงพ่อจอน ได้ช่วย พระอาจารย์สุวรรณ วัณณาโภ เจ้าอาวาสวัดบุญฤทธิ์ รูปแรก พัฒนาบูรณะสำนักฝึกจิตนิมิตธรรม จนกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์ ซึ่งก็คือ วัดบุญฤทธิ์ และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจาก พระอาจารย์สุวรรณ


หลวงพ่อจอน มีลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม จีน และไต้หวัน วัตถุมงคล พระเครื่อง และเครื่องรางของขลังที่นิยม อาทิ ตะกรุดพญาราหูดับเดือนดับตะวัน พระขุนแผนสะดุ้งมารพรายชุมพล พญาราหูล้อมจักรวาล ลูกอมพรายชุมพล ลูกสะกดนะล้อมโลก ลูกอมหนุมานพลังฤทธิ์พิชิตชัย พระกริ่งพญาราหู รุ่นบุญฤทธิ์ เจ้าสัวรับทรัพย์ ผ้ายันต์ พระขุนแผนพรายกุมารกัญญา เป็นต้น


กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 2565 หลวงพ่อจอน มีอาการอาเจียน และถ่ายออกมาเป็นเลือด ทางศิษยานุศิษย์จึงจะพามาส่งโรงพยาบาบลบำรุงราษฎร์ กทม. นั่งรถกู้ชีพของมูลนิธิมาถึงบริเวณประตูน้ำพระอินทร์ หลวงพ่อจอน มีอาการไม่ดี ทางลูกศิษย์จึงเข้าไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต แพทย์​ช่วยให้เลือด ปั๊มหัวใจ กระตุ้นทุกอย่าง แต่ไม่สามารถช่วยได้และท่านได้มรณภาพอย่างสงบ เวลาประมาณ 07.00 น. เช้าวันที่ 28 ก.ค. 2565 สิริรวมอายุ 80 ปี 5 เดือน 15 วัน

อำลาปีเสือดุ วงการคณะสงฆ์สูญเสีย 9 พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline