เพจดังตีแผ่ "วิบากกรรมในคืนเคาท์ดาวน์" จากวันแห่งความสุข กลายเป็นฝันร้าย

เพจเฟซบุ๊ก อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก เปิดความจริง "วิบากกรรมในคืนเคาท์ดาวน์" หลายคนต้องร้องไห้เดินกลับบ้าน 

โดยทางเพจระบุว่า 

วิบากกรรมในคืนเคาท์ดาวน์ เมื่อไม่มีรถกลับบ้าน คนกทม หลายๆคนบอกว่า เค้าเคยร้องไห้เพราะหารถกลับบ้านไม่ได้

ขอสารภาพว่าไม่เคยนั่งรถสาธารณะมานานมากๆ และแทบจะไม่เคยโบกแท็กซี่ในช่วงเร่งด่วนมานานแล้ว เลยไม่รู้ว่าคำทรมานจากการหารถกลับบ้านไม่ได้มันทรมานขนาดไหน และไม่เคยรู้มาก่อนว่า แท็กซี่ ในกทม มันจะโหดร้ายได้ขนาดนี้!!

ในคืนเคาท์ดาวน์ เราตัดสินใจเอารถจอดทิ้งไว้และนั่งแท็กซี่ไปไอคอนสยามแทนเพราะคิดว่ามันไม่มีที่จอดรถ ขาไปแท็กซี่น่ารักมากไม่มีปัญหาอะไรมากครับ และขากลับเราวางแผนว่าอาจจะออกจากไอคอนสักราวตีสองให้ถนนมันโล่งก่อน แต่ใครจะไปรู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเอามากๆ จะขอข้ามการดูพลุ 5 นาที ของไอคอนสยามไปนะครับ

ดูพลุจบเราก็ยังนั่งเล่นไปเรื่อยๆ หวังให้คนไม่เยอะก่อนค่อยกลับบ้าน เดินออกไปที่ถนน ภาพที่เห็นคือผู้คนมากมายยังนั่งตามฟุตบาท กดมือถือ กดแกรปหารถกันมากมาย มองด้วยตาคือน่าจะหลายร้อยคน

ตีสองครึ่งผู้คนยังตกค้างไม่ได้กลับบ้าน ผมกดแกรปเรียกรถเพื่อกลับไปที่รถตัวเอง ก็ตามสภาพครับไม่มีแกรปกดรับงานเลย พยายามอย่างสุดความสามารถ กดยังไงก็ไม่ได้ แท็กซี่ขับผ่านไปคันแล้วคันเล่า หลายๆคันจอดรับคนแล้วก็ขับต่อมาจนถึงคิวผม ผมโบกอยู่เป็นสิบๆคัน

เกือบทุกคันจะเรียกเหมาหมด ไม่ก็อ้างว่าจะกลับบ้านแล้ว คนแถวนั้นเล่าว่า เรียกจากไอคอนไปเซ็นทรัลเวิลด์ แทกซี่ขอไม่กดมิเตอร์ขอเรียกเหมาในราคา 2,000 บาท รถไฟฟ้าหยุดวิ่งไปนานแล้ว รถแกรปนี่กดไปค่าโดยสาร 400-800 ใช้เวลาวิ่ง 24 นาที แพงมากกกกก

ความพยายามในการหาแท็กซี่สิ้นหวังแทบจะเหลือ 0 น้องๆแถวนั้นเล่าว่า พี่เชื่อไหมว่า คน กทม หลายๆคนเคยประสบปัญหากลับบ้านไม่ได้ เพราะเรียกรถไม่ได้ หารถสาธารณะไม่ได้ จนต้องเดินร้องไห้กลับบ้านด้วยระยะทางที่ไกลมาก เค้าเชื่อว่าคนกทม หลายๆคนจะต้องเคยประสบภาวะแบบนี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง

ปัญหาขนส่งสาธารณะในกทม ไม่ว่าจะรัฐบาลไหน หรือผู้นำคนไหนเข้ามาก็ไม่เคยแก้ปัญหาได้ แท็กซี่เวลาตัวเองทำมาหากินไม่ได้ ก็ออกมาเรียกร้องขอความเห็นใจ แต่พอกลับมาในสภาวะที่ผู้คนต้องการใช้บริการ แท็กซี่ก็ยังเลือกรับผู้โดยสาร ยังขอไม่กดมิเตอร์ ขอให้บริการแบบเหมาในราคาแพงมาก

มันก็ยังเป็นแบบนี้ เป็นมาเป็นสิบๆปี แก้ปัญหายังไงก็แก้ไขไม่ได้ แน่นอนว่า คืนเคาท์ดาวน์มันอาจจะเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้ามันแก้ปัญหาได้จริงๆ มันก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ

ปัญหาเหล่านี้ผู้นำประเทศ ผู้มีอำนาจคงแทบจะไม่เคยสัมผัส เพราะทุกคนมีพริวิลเลจหมด ได้มีรถนำ ได้ปิดถนนน ไปไหนมาไหนสะดวก นานๆจะหาเสียงก็ไปถ่ายภาพตอนขึ้นรถไฟฟ้าบ้าง ตอนขึ้นรถเมล์บ้าง หรือไปแอ๊คท่าถ่ายกับแท็กซี่นิสัยดีๆบ้าง แต่ไม่เคยได้มาสัมผัสปัญหาจริงว่า มันคือนรกแท้ๆ หวังนะครับว่า ผู้มีอำนาจจะเข้าถึงหัวใจประชาชนได้จริงๆเสียที...

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline