- 04 ม.ค. 2566
เปิดโพสต์พี่ชายต้นเรือพลับ เคลื่อนไหวล่าสุด ระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยัน เอกลักษณ์บุคคล"ต้นเรือพลับ"
การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมมีปฏิบัติการพิเศษของ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ โดยในรายของ"ต้นเรือพลับ" นาวาตรีพลรัตน์ สิโรดมภ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้เปิดเผย ผลทันตกรรมหรือรอยฟันของร่างผู้สูญหายที่เสียชีวิต พบว่า ตรงกับร่างของ ต้นเรือพลับ ซึ่งเป็น1ในกำลังพลผู้สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ด้านในส่วนของ พี่ชายต้นเรือพลับ เคลื่อนไหวล่าสุด โพสต์เฟซบุ๊ค หลังมีข่าวผลตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลจากผลทันตกรรม พบว่าผู้สูญหายที่พบเสียชีวิตรายล่าสุดคือ"ต้นเรือ"พลับ นาวาตรีพลรัตน์ สิโรดมภ์
- ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะครับ ตอนนี้ผมกำลังจะเดินทางกลับไทยเพื่อไปดูแลคุณพ่อคุณแม่ ยังไม่ยืนยันเท่ากับยังมีหวัง
รอผล DNA อีก 7 วันนะครับ ไม่เข้าใจเหตุผลที่รีบประกาศ กดดันกันทุกวิถีทางเพื่อขอตัวอย่าง DNA ขู่ว่าถ้าไม่ให้ DNA จะประกาศแล้วว่าพบร่าง ให้ตัวอย่าง DNA เสร็จแล้วก็ประกาศเลย ถ้าเป็นลูกคุณคุณคงจะรีบแบบนี้นะ หวังว่าจะยังไม่หยุดค้นหาคนที่เหลือนะครับ
ด้านภารกิจค้นหาล่าสุดได้ค้นหาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรครบ 33 เกาะแล้ว พร้อมปรับแผนลงใต้ ค้นหาต่อที่ หมู่เกาะอ่างทอง โดยในวันที่ 4 มกราคม 2566 พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าปัจจุบัน กองทัพเรือยังคงดำเนินการค้นหาผู้สูญหายจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตามแนวชายฝั่ง ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษของ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุดประกอบด้วย ชุดค้นหาใต้น้ำ ชุดค้นหาผิวน้ำ และชุดค้นหาบนเกาะ โดยได้ปูพรมค้นหา ตามเกาะต่างๆในพื้นที่จังหวัดชุมพร
รวมถึงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรซึ่งมีเกาะทั้งหมด 33 เกาะ โดยก่อนหน้านี้ ได้ทำการสำรวจไปแล้ว 25เกาะ และเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 ได้ทำการสำรวจ 8 เกาะ ประกอบด้วย เกาะคางเสือ เกาะรังห้า เกาะมะพร้าว เกาะยอ เกาะขี้นก เกาะรางบรรทัด เกาะคราม และเกาะพิทักษ์ ซึ่งถือว่าได้ทำการสำรวจครบทุกเกาะของจังหวัดชุมพรแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามกองทัพเรือยังไม่หยุดการค้นหากำลังพลที่สูญหาย ซึ่งยังเหลืออีก 5 นาย โดยได้มีการส่งชุดปฏิบัติการพิเศษเรือยางร่วมกับหน่วยงานต่างๆเข้าค้นหาในพื้นที่อื่นที่คาดว่าจะพบร่างของกำลังพลต่อไป โดยในวันนี้จะเข้าทำการค้นหาใน พื้นที่หมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลการปฏิบัติจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่ม
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า สำหรับในช่วงบ่ายวันที่ 4ม.ค.66 มีพิธีพระราชทานเพลิงกำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง จำนวน 2 นาย ประกอบด้วย จ่าเอก ไพร ร่วมญาติ ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ ในเวลา 15.00 น โดยมี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธี และ พันจ่าเอก คุณากร จริยศ หรือ หมอแชมป์ ณ วัดศรีวโณภาสสถิตย์พร ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง ในเวลา 16.00 น. โดยมี พลเรือโท สุทิน หลายเจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธี โดยในวันที่5 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น. กองทัพเรือจะจัดให้มีพิธีลอยอังคาร พันจ่าเอกคุณากร และ จ่าเอก ไพร บนเรือหลวงนเรศวร โดยมี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธี
ทั้งนี้ในส่วนของสิทธิกำลังพลและการให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบนั้น ทางกองทัพเรือ โดย พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มีความเป็นห่วงครอบครัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงกำลังพลที่ยังคงสูญหายเป็นอย่างมาก โดยได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่าง ๆ ตามระเบียบข้อบังคับอย่างเร่งด่วน
โดย เงินช่วยเหลือแก่ทายาทผู้สูญเสีย ประกอบด้วยเงินจากส่วนต่างๆ 5 ส่วน ดังนี้
1. เงินตามสิทธิด้านกำลังพล เช่น เงินช่วยพิเศษ บำเหน็จตกทอด และบำนาญพิเศษ ทั้งนี้ เป็นไปตามสิทธิด้านกำลังพลของกำลังพลแต่ละราย โดยมีขั้นตอนการเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และระเบียบแบบแผนที่ทางราชการกำหนด
2. เงินจากกองทุนต่างๆ ของกองทัพเรือ เช่น กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ
3. เงินประกันภัย เช่น เงินประกันภัยหมู่กองทัพเรือ
4. เงินสวัสดิการกองทัพเรือ และ เงินฌาปนกิจกองทัพเรือสำหรับผู้ที่เป็นสมาชิก
5. เงินที่หน่วยงานภาคเอกชนร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวกำลังพล
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 4 มกราคมม 2566) เวลา 11.00 น.
ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 24 นาย ( อยู่ในระหว่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล 1 นาย)
สำหรับรายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งสามารถเพื่อยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว จำนวน 23 นาย ประกอบด้วย
1. ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก
2. พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์
3.พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ
4.พันจ่าเอก อำนาจ พิมที
5. จ่าเอก จักร์พงศ์ พูลผล
6.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์
7.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด
8. จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช
9.จ่าโท สหรัฐ อีสา
10.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ
11.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์
12.จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย
13. จ่าตรี ศราวุธ นาดี
14.จ่าตรี สิริธิติ งามทอง
15. พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ
16. พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม
17. พลทหาร สิทธิพงษ์ หงษ์ทอง
18. พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร
19.พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี
20. พลทหาร จำลอง แสนแก
21.พันจ่าเอก คุณากร จริยศ
22.พลทหาร ชลัช อ้อยทอง
23. จ่าเอก ไพร ร่วมญาติ
รายชื่อกำลังพลที่ยังคงสูญหาย รวม 6 นาย ( มี 1 นายที่อยู่ในระหว่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลซึ่งยังไม่ได้ตัดยอดในจำนวนนี้)
กำลังพล เรือหลวงสุโขทัย จำนวน 3 นาย
1. ว่าที่ นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม
2. จ่าตรี โสภณ วงษ์สนิท
3. พลทหาร ชัยชนะ ช่างวาด
กำลังพล หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จำนวน 2 นาย
1.พันจ่าเอก จิราวัฒน์ เจริญศิลป์
2. พลทหาร ทวีศักดิ์ แซ่เซียว
กำลังพล หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน 1 นาย คือ
1.พลทหาร อับดุลอาซิส มะแอ
cr.Peter Sirodom
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ THAINEWS