- 08 ม.ค. 2566
เปิดโพสต์เจ้าของรถปาเจโร่ป้ายแดง หลังโดนถามไม่กลัวเหรอ รู้ไหมเบนท์ลีย์คู่กรณีเป็นใคร?? ลั่นต้องซื่อรถคันใหม่ชดใช้ เพิ่งถอยมาได้แค่21วัน
กรณีอุบัติเหตุรถหรูเบนท์ลีย์ซิ่งชนสนั่น3คัน บนทางด่วน ล่าสุดฝั่งผู้เสียหายเจ้าของรถปาเจโร ป้ายแดง ได้ออกมาเปิดใจ โดย นายศราวุธ รีรักษ์ ผู้ขับขี่รถมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร เล่าเหตุการณ์ว่า ออกจากบ้านพักย่านทุ่งครุ ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าลงดินแดง เพื่อจะกลับบ้านที่จังหวัดบึงกาฬ ขณะอยู่บนทางด่วนได้ขับในเลนกลางมาตามปกติ ใช้ความเร็วประมาณ 90 กม./ชม.
จากนั้นรู้สึกโดนกระแทกแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก มาเห็นเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถที่มีคนส่งมาให้ ในรถที่นั่งกันมาทั้งหมด 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน เด็กอายุ 4 ขวบ 1 คน หลังเกิดเหตุรถพลิกคว่ำก็พยายามตั้งสติให้ได้และช่วยกันพาทุกคนออกมาจากรถให้ได้ก่อน ทั้งนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี
ด้านนางสาวณิชชาวีร์ ชาติสุริยพัฒน์ แฟนสาวที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน กล่าวว่า ที่รอดมาได้เป็นเพราะทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย โดยแฟนเป็นคนขับรถ มีพ่อนั่งด้านข้างคนขับได้รับบาดเจ็บแขนหัก ถัดมาเป็นแม่ หลานชาย ตนนั่งอยู่แถวที่สอง ส่วนน้องสาวนั่งอยู่ด้านหลัง และมีสัมภาระอีกไม่เยอะจำพวกที่นอน ส่วนของที่เหลือได้จัดไว้ด้านบนเพราะจะเดินทางไกลไปต่างจังหวัด เนื่องจากตนไม่ได้เจอพ่อแม่มาหลายปีแล้ว
ตนจึงตั้งใจจะออกรถเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 เพื่อจะนำรถกลับไปให้ครอบครัวดู เหมือนเราแบกความฝันกลับบ้าน และขณะนั้นครอบครัวทั้งหมดอยู่ในรถ ซึ่งกำลังนั่งอยู่ในรถกันชิวๆ สบายๆ จังหวะตึงแล้วรถเหมือนจะหลุดออกจากทางด่วน เพราะรถได้ปีนเกยขึ้นขอบแบริเออร์แล้ว จากนั้นมีรถกู้ภัยมาชนจนรถหมุนอยู่หลายรอบ
หากไม่มีรถกู้ภัยมาชนอีกต่อหนึ่งรถตนคงตกทางด่วนไปแล้ว ตนจึงเอามือจับหลานไว้ เมื่อทุกอย่างนิ่งจึงอุทานด้วยคำไม่สุภาพออกไปว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นก็พยายามเช็คเรียกทุกคนว่ายังอยู่ไหม โชคดีที่หลานหลับเขาจึงไม่ร้อง เมื่อตั้งสติได้ก็พากันปีนคลานออกมาด้านหลังตรงประตูเพราะกระจกแตกไปแล้ว
เห็นคลิปตัวเองยังคิดเลยว่าใช้แต้มบุญสูงมาก เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ รอดมาได้อย่างไร โชคดีที่ทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งนี้ที่สถานีตำรวจคู่กรณีไม่ยอมเป่าหรือตรวจแอลกอฮอล์ ตนก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม กลุ่มพี่ๆ กู้ภัยพยายามให้เขาเป่า แต่เขาปฏิเสธที่จะไม่เป่า พยายามที่จะไปดื่มน้ำ เคี้ยวหมากฝรั่ง เขาคงหาทางแก้ปัญหาของเขา
ตนไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรถึงไม่ยอมเป่า ทางตำรวจแจ้งว่าเขาขอตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นคาดว่าผลตรวจจะออกอย่างเร็วใน 7 วัน และไม่ทราบว่าระหว่างนี้จะมีกระบวนการอะไรหรือไม่ เท่าที่ทราบรถคู่กรณีไม่มีประกัน ส่วนประกันฝั่งเรายังไม่ตกลงกันว่าจะเคลมคันใหม่ให้หรือไม่ เพราะรถป้ายแดงเพิ่งออกมาได้เพียง 21 วัน ตนไม่รู้ว่าเขาจะรับผิดชอบให้เราได้ 100 เปอร์เซ็นหรือไม่ ส่วนเราต้องการรถคันใหม่และการเยียวยาร่างกายและจิตใจ เพราะพ่อก็แขนหัก การเยียวยาจะต้องรอการพูดคุยกันของทุกฝ่าย
พร้อมกันนี้ เปิดโพสต์เจ้าของปาเจโร่ป้ายเดง
อย่างน้อยก่อนตาย ก็ได้สานฝันออกทีวี
ขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่าน ที่เป็นกระบอกเสียง
ให้เสียงเล็กๆได้บอกเล่าความจริง
พี่นักข่าวถามว่า... " รู้ไหม ว่าคู่กรณีเป็นใคร?"
"รู้ค่ะ"
"ไม่กลัวหรอ?"
"กลัวทำไมคะ เมื่อคืนก็เท่ากับหนูได้ตายไปแล้ว
ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นกับหนูอีก มันก็ค่าเท่ากัน
ขอตายแบบมีศักดิ์ศรีหน่อยจะดีกว่า" ...
ของีบพักผ่อนก่อนนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจ/ฟกช้ำปวดตึง/แม่เจ็บหน้าอก/พ่อต้องผ่าตัดกระดูกข้อมือ/รถคันใหม่เท่านั้น! รอนัดวันเจรจา หวังว่าจะจบด้วยดี ไม่งั้นได้ออก หกส โหนกระแส
ด้านพ.ต.ท.พิเชษฐ์ เปิดเผยว่า ทางผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ ยอมรับผิดและยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีทั้งหมด ทั้งนี้ได้ทำบันทึกประจำวันไว้และส่งตัวผู้ขับขี่ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นการตรวจที่ได้มาตรฐาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีทางฝั่งรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโรบาดเจ็บทุกคน หนักสุดแขนหักอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนการเจราจาไกล่เกลี่ยมีทนายของฝั่งรถยนต์มิตซูบิชิได้ติดต่อเข้ามาแล้ว ซึ่งขณะนี้ต้องรอให้ผู้บาดเจ็บรักษาอาการให้หายดีก่อน และจะต้องรอผลตรวจปริมาณแอลกอฮอร์ยืนยันจากโรงพยาบาลตำรวจอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ขณะนี้จึงยังไม่ได้แจ้งข้อหา เนื่องจากต้องรอผลตรวจยืนยันจากแพทย์และรอฝั่งผู้เสียหายรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนพิจารณาแจ้งข้อหาต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าของรถเบนท์ลีย์คือนายสุทัศน์ มีชื่อเป็นกรรมการ 7 บริษัท และเคยเป็นนายทุนให้กับพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง ทำธุรกิจซื้อขายที่ดิน และ ทำตลาดสดและขายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งหลังเกิดเหตุ ได้ลงมายืนอยู่บริเวณทางเท้า เดินลงทางด่วนและโบกขึ้นแท็กซี่เหมือนจะหลบหนี ลักษณะมีอาการมึนเมา แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่เมา
cr.ณิชชาวีณ์ ชาติสุริยพัฒน์
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews