- 14 ม.ค. 2566
ครูหนุ่มเล่าเรื่องราวซึ้งปนเศร้าใจ "เด็กที่ไม่มีโอกาสในวันเด็ก" อีกมุมของสังคม กับเด็กที่ต้องออกจากระบบการศึกษาก่อนเวลา
คุณครูหนุ่มรายหนึ่งโพสต์เรื่องราวของเด็กที่จำเป็นต้องออกจากระบบการศึกษาและเข้าสู่ชีวิตการทำงานเร็วกว่าเด็กคนอื่นเนื่องจากฐานะทางครอบครัวทำให้เขาขาดโอกาสหลายๆอย่างในชีวิต รวมถึงเรื่องการจับของขวัญหรือกิจกรรมสนุกๆอย่างวันเด็ก
ของขวัญที่ผมไม่ได้แกะ
เลิกงานจับของขวัญแล้วผมยังคงไม่แกะของขวัญที่จับได้จากนักเรียนและย้ำกับนักเรียนทุกคนว่าห้ามแกะจนกว่าจะถึงบ้าน เพราะนอกจากลดขยะในโรงเรียนแล้วยังเป็นการต่อช่วงเวลาแห่งความสุขออกไปอีก ช่วงเวลาที่จะได้ลุ้นถึงสิ่งของที่อยู่ข้างใน
ตอนนี้ผมอยากให้ความรู้สึกของการได้ลุ้นของนักเรียนเอ่อล้นอยู่ภายในจนพวกเขาอยากที่จะกลับบ้านเร็ว ๆ แม้มันจะเป็นเทศกาลแห่งความสุข แต่ก็มีเด็กบางคนที่ขาดโอกาสนั้น เด็กที่ไม่มีโอกาสจะได้แกะกล่องของขวัญเหมือนคนอื่น
ผมคว้ามอเตอร์ไซค์คันเก่าของผมห้อยกล่องของขวัญขับไปตามหมู่บ้านแม้จะมีรถยนต์แล้วแต่ผมยังชอบบรรยากาศบนหลังมอเตอร์ไซค์เพราะอยู่กับมันมามากกว่า 15 ปี และมันยังเข้าออกง่ายไปตามซอกซอย ซอยบ้านหลังเล็กที่รถยนต์ไม่อาจเข้าถึง...
ผมมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี บ้านหลังที่ผมเคยมาครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน บนถนนเส้นที่รถสวนกันไม่ได้ ผมจอดรถเอนหลังมองหา แต่เจ้าของบ้านไม่อยู่ตรงนั้น ผมรออยู่ซักพักชาวบ้านก็เรียกหาผมเพราะจำได้
"มันอยู่แถวนั้นแหละครู" ชาวบ้านร้องตะโกนมา หลังจากเสียงโหวกเหวกโวยวายนั้น ผมก็ได้พบกับคนที่ผมตามหา อดีตนักเรียนที่ผมรักมากที่สุดคนหนึ่ง...
เขาเดินเท้าเปล่ามาหาผม พร้อมกับยกมือสวัสดี " มานี่ซิ มาใกล้ ๆ " ผมเรียกเขาเข้ามาแล้วกวักมือ เด็กชายเดินมาอย่างว่าง่าย ก่อนที่ผมจะล้วงกล่องในถุงผ้าขนาดใหญ่
ออกมา" แท่ แด "
เด็กชายดีใจที่ได้เห็นกล่องของขวัญและผมบอกกับเขาว่า" สวัสดีปีใหม่นะ ครูนำของขวัญมามอบให้เธอ" " ขอบคุณ ครับครู " เขารับกล่องของขวัญนั้นไว้
แต่ละปีผมจะนำของขวัญที่จับได้จากเด็ก ๆ มามอบให้กับนักเรียนที่ไม่มีโอกาสได้รับของขวัญจากใคร ของขวัญที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าข้างในคืออะไร
ปีนี้เด็กที่ผมเคยให้ก็ไม่อยู่ในหมู่บ้านนี้แล้ว แต่ดอกไม้แห่งความเศร้าไม่ได้บานดอกออกมาแค่เพียงดอกเดียว เพราะมันก็ยังมีคนใหม่ ๆ ที่เติบโตขึ้นมาและเป็นแบบเดียวกัน
ผมกอดเขาไว้ ซึ่งบัดนี้เขาสูงเกือบเท่าตัวผมแล้ว " เธอยังเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดของครูเสมอนะ " แม้มันจะเป็นประโยคสั้น ๆ แต่ก็เอ่อล้นด้วยหลากเรื่องราวที่อยู่ภายใน
เราผ่านหลายเรื่องราวด้วยกัน ผมเคยไปตามจับเขาที่ไร่อ้อยเพราะวิ่งหนีหมอฟัน เคยหามเขาออกจากสนามฟุตบอลเพราะโดนเตะขา เคยวิ่งไล่จับเขาในชั่วโมงพละ เคยพาเขาไปเลี้ยงข้าว เคยทานข้าวทานหมูกระทะด้วยกัน เคยติวหนังสือให้เขา และเคยพาเขาไปตกเบ็ดที่นาของผม
แต่วันนี้ไม่มีกันอีกแล้ว หลังจบชั้นป.6 เด็กชายก็ออกจากระบบการศึกษา ไม่ได้เรียนหนังสือต่อ เขาใช้ชีวิตรับจ้างรายวันเหมือนชาวบ้านทั่วไป เข้าสู่วัยทำงานเร็วกว่าเด็กในเมือง
" ครูถามอะไรหน่อยได้มั้ย "
" ได้ครับครู"
" เธอจะไม่เรียนต่อจริง ๆ ใช่มั้ย "
" ไม่แล้วครับ "
ชีวิตการเป็นครู คุณอาจจะจำเด็กที่เรียนกับคุณทุกคนไม่ได้ แต่เด็กคนที่คุณจะยังจำได้เสมอคือเด็กคนแรกของคุณที่ต้องออกจากการศึกษา เด็กที่ออกกลางคัน มันเป็นรอยแผลที่หยั่งลึกลงในใจของคนเป็นครูไม่ว่าจะนานขนาดไหน ผมยังจำนักเรียนคนแรกของผมที่เรียนไม่จบได้ มันเจ็บปวดนะที่เราช่วยเขาไว้ไม่ได้
มีความพยายามหลายครั้งที่ผมจะดึงเขากลับไป แต่บางครั้งเราก็พบว่า " เราเจอกันช้าเกินไป " ผมมีเวลาแก้ไขเขาแค่ 2 ปี เราเหมือนหมอที่มาเจอคนไข้ที่เป็นมะเร็งในระยะสุดท้ายซึ่งลุกลามจนไม่อาจแก้ไข แต่ผมก็หวังเสมอนะหวังว่ามันจะเปลี่ยน
เด็กที่ออกจากระบบการศึกษาไม่ได้มีแค่เพียงไม่มีทุนทรัพย์ แต่มันยังประกอบไปด้วยครอบครัว ทัศนคติ เพื่อนและสภาพแวดล้อมเด็กที่เกิดในครอบครัวของนายแพทย์ก็ยากที่จะไปเป็นคนเก็บขยะ เช่นเดียวกันกับเด็กที่ทำอาชีพเกษตรกรรมก็ยากที่จะข้ามไปเป็นอีกชนชั้นของสังคมได้
ชีวิตที่ต้องการเงินเลี้ยงปากท้องทุกวันมันรอความสำเร็จเป็นสิบปีไม่ได้
มันเจ็บปวดจนเกินที่จะแบกรับไหว แต่เมื่อเขาเลือกทางนี้ผมก็จำเป็นต้องเคารพในการตัดสินใจ ไม่กระทำการใดที่จะฝืนจิตใจกันอีก
ปกติเวลาทำงานส่งผมจะเขียนดาวกำกับไว้ในสมุดเสมอเพื่อเป็นรางวัลแต่ในวันนี้ครูไม่อาจให้ดาวเธอได้อีกแล้ว ครูไม่สามารถให้คุณให้โทษกับเธอได้อีก แต่ครูยังรักเธอเสมอ ดาวที่เธอเห็นต่อจากนี้จะเป็นเพียงดาวในชีวิตจริงบนท้องฟ้าโดยที่ไม่มีครูอยู่
ผมกอดเขาไว้ในวันที่อากาศของแดนอิสานยังหนาวเหน็บพร้อมบอกเขาครั้งสุดท้ายว่า
" ไม่เป็นไรนะ ถึงเธอจะเป็นคนตัดอ้อยก็จงเป็นคนตัดอ้อยที่เก่งที่สุด จงเทียบบัญญัติไตรยางค์หาคำตอบแล้วอย่าให้ใครมาโกงค่าแรงเธอได้"
ขอบคุณ วันนั้นเมื่อฉันสอน