- 15 ม.ค. 2566
ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรีชี้แจงแล้ว ภาพเจ้าหน้าที่ตั้งวงกินดื่ม ชี้เหตุเกิดอีกอาคาร ไม่ใช่ในโรงพัก สั่งตั้งกรรมการสอบให้รู้ผลภายใน 7 วันแล้ว
กรณีเพจ เกรียงไกร ไทยอ่อน แฉภาพตำรวจสภ.อินทร์บุรี นั่งปาร์ตี้กินดื่มกันในห้องสืบสวนโรงพัก พยาบาลดื่มเหล้า-เบียร์ในที่ทำงาน บอกไม่เหมาะสม ถูกบีบให้ลาออก แต่ตำรวจกินเหล้า-เบียร์ไม่เป็นไร เพราะมีลูกพี่ดีคอยปกป้อง พยาบาลเป็นผู้หญิงเขายังกล้าลาออกดีกว่าพวกผู้ชายบางตัวอก 3 ศอกต้องอายผู้หญิงครับ
คืบหน้าสุดตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี โดย พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รองผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี และ พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาสผู้กำกับการสถานีตำรวจอินทร์บุรี ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว
ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรีได้สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรีตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นปรากฏว่า สถานที่ปรากฏในภาพที่เผยแพร่ทางสื่อเป็นอาคารส่วนบุคคล เป็นห้องปฏิบัติการชุดสืบสวนซึ่งแยกออกจากสถานีตำรวจโดยชัดเจน และอยู่ติดกับบ้านพักของข้าราชการตำรวจ โดยมีถนนกั้นระหว่างอาคารดังกล่าวกับสถานีตำรวจเพื่อใช้ในการสัญจรไปมาของครอบครัวข้าราชการตำรวจ และอาคารดังกล่าวได้ใช้ในภารกิจงานสืบสวนในการประชุมวางแผนและการสืบสวนขยายผลจับกุมคนร้าย
สำหรับบุคคลที่ปรากฏตามภาพทราบว่าเป็นเจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรีทราบชื่อ ส.ต.อ.วัชรพงศ์ แสนพาน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้มีสายข่าวจำนวน 2 คน ชาย 1 คน หญิง 1 คน ได้มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบคนดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด และได้รู้จักกับ ส.ต.อ.วัชรพงศ์ ในฐานะเป็นสายลับ ซึ่งเคยปฏิบัติงานร่วมกันมาโดยตลอดส.ต.อ.วัชรพงศ์ ไม่ทราบล่วงหน้าว่าสายลับจะนำอาหารเหล้าและเบียร์เข้ามาด้วย
ส.ต.อ.วัชรพงศ์เห็นว่าเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีและเป็นการสร้างสายข่าวที่ดีจึงยอมให้สายข่าวทั้งสองท่านนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในห้อง และพูดคุยเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดโดยที่ ส.ต.อ.วัชรพงศ์ นั้นไม่รู้ว่าสายข่าวที่เป็นผู้หญิงคนนั้นจะแอบถ่ายรูปไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวสายข่าวทั้งสองคนนั้นมาเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วและให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน หากการกระทำของส.ต.อ.วัชรพงศ์ มีการกระทำความผิดทางอาญาวินัยหรือระเบียบแบบแผนของตำรวจก็จะได้พิจารณาลงทัณฑ์ตามกฎหมายหรือระเบียบอย่างเด็ดขาดต่อไป
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews