อย่าชะล่าใจ ไม่ได้มีแค่"แอปหาคู่" ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย 6 แอปฯพูดคุยยอดนิยม

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยประชาชน แอปพลิเคชั่นที่ต้องระวัง? หลอกให้กดลิงก์-ดาวน์โหลด ติดตั้ง ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกโอนเงินเกลี้ยงบัญชี


     ตำรวจไซเบอร์ ชี้แจงกรณีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพโอนเงินออกจากบัญชีตามที่ปรากฎเป็นข่าวพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอเรียนชี้แจงกรณี ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บช.สอท. แจ้งว่าถูกมิจฉาชีพแฮ็กบัญชีธนาคารในโทรศัพท์มือถือแล้วโอนงินออกไปจนหมดบัญชี โดยผู้เสียหายคาดว่าเกิดจากการใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ 

   กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ได้ซักถามผู้เสียหาย และทำการตรวจสอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหายพบว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพสร้างกลอุบายหลอกลวงให้กดลิงก์ ดาวน์โหลด หรือติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

  • แอปพลิเคชั่นหาคู่
  • แอปพลิเคชันดูไลฟ์สด ดูภาพลามกอนาจาร
  • แอปพลิเคชันพูดคุยยอดนิยม เช่น Viber, Sweet meet, Bumble, Snapchat, Kakao Talk และ Flower Dating เป็นต้น โดยเมื่อติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าวจะขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (permission) หลายรายการ

  ทำให้มิจฉาชีพสามารถเชื่อมต่อระบบเข้ามา และควบคุมหน้าจอโทรศัพท์ของเหยื่อเมื่อใดก็ได้ โดยจะทิ้งระยะเวลาให้เหยื่อตายใจ ระหว่างนี้มิจฉาชีพจะสังเกตพฤติกรรมของเหยื่อ เช่น ใช้ธน าคารใด มีเงินในบัญชีเท่ไหร่ และจดจำรหัสผ่านจากที่เหยื่อกดเข้าระบบของ
แอปพลิเคชันธนาคาร กระทั่งเวลาผ่านไปจนเหยื่อเผลอ

อย่าชะล่าใจ ไม่ได้มีแค่\"แอปหาคู่\" ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย 6 แอปฯพูดคุยยอดนิยม

   เมื่อได้โอกาสมิจฉาชีพจะเชื่อมต่อแล้วโอนเงินออกจากบัญชีไป นอกจากนี้แล้วยังพบการเข้าถึงเว็บไซต์อันตรายหลายรายการอีกด้วย ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องการใช้สายชาร์จโทรศัพท์ตามที่ปรากฎเป็นข่าวแต่อย่างใด

อย่าชะล่าใจ ไม่ได้มีแค่\"แอปหาคู่\" ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย 6 แอปฯพูดคุยยอดนิยม

   ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบ ปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง และสำนักงานตำรวจแห่งซาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

  ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

อย่าชะล่าใจ ไม่ได้มีแค่\"แอปหาคู่\" ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย 6 แอปฯพูดคุยยอดนิยม

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันมิจฉาชีพมักแสวงหาวิธีการใหม่ๆ หรือนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน เพิ่มความชับซ้อน และเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ทำให้ยังมีประซาชนหลายรายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ การหลอกลวงในลักษณะนี้มิจฉาชีพจะไม่ใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือ แต่จะใช้ความสมัครใจของเหยื่อในการติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันดังกล่าวแทน เพราะฉะนั้นการใช้งาน การเข้าถึง
บริกรบนสื่อสังคมออนไลน์ ต้องรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ มีสติ ระมัดระวังอยู่เสมอ รวมไปถึงการแจ้งเตือนไปยังคนใกล้ชิด หรือผู้อื่น เพื่อลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ทั้งนี้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกัน ดังต่อไปนี้


1.ไม่กดลิงก์ที่แนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือกดลิงก์ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ

อย่าชะล่าใจ ไม่ได้มีแค่\"แอปหาคู่\" ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย 6 แอปฯพูดคุยยอดนิยม
2.ไม่ดาวน์โหลด หรือติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่ผู้อื่นส่งมาให้โดยเด็ดขาด แม้จะเป็นโปรแกรมที่รู้จักก็ตาม โดยหากต้องการใช้งานขอให้ทำการติดตั้งผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น


3.ระมัดระวังแอปพลิเคชันที่ขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลอัลบั้มรูปภาพ, ไมโครโฟน, ตำแหน่งที่ตั้ง, หมายเลขโทรศัพท์, รายชื่อผู้ติดต่อ เป็นต้น


4.หากท่านตกเป็นเหยื่อ เผลอติดตั้งแอปพลิเคชันแล้ว ให้รีบเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) เพื่อตัดสัญญาณไม่ให้โทรศัพท์สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ รวมถึงถอดซิมโทรศัพท์ออก จากนั้นเข้าไปติดต่อกับศูนย์บริการโทรศัพท์ที่ท่านใช้งานอยู่


5.ไม่ใช้อุปกรณ์ใดๆ ในจุดให้บริการสาธารณะ หรือจากคนแปลกหน้า


6.ไม่ควรอนุญาตให้เว็บไซต์ หรือเบราว์เซอร์ (web browser) จดจำรหัสผ่านส่วนตัว หรืออนุญาตให้เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ


7.ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ แล้วเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่มีความเป็นส่วนตัว เช่น อีเมล, ธุรกรรมทางการเงิน, การเทรดหุ้น เป็นต้น


8.ไม่ควรเข้าใช้เว็บไซค์ที่ไม่มีความปลอดภัย เช่น เว็บพนัน, เว็บลามกอนาจาร รวมถึงการแอดไลน์ด้วย

 


 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews