พรีมายา ส่อโยงกลุ่มดารา ไล่เช็คหลักฐานเส้นทางการเงิน ตามรวบแล้ว4 เหลืออีก7

   คืบหน้าล่าสุดกรณี ศาลออกหมายจับ "เม พรีมายา"น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ PRIMAYA ในฐานความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จากการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จผ่านโลกออนไลน์ ลักษณะเชิญชวนอ้างว่าลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท

   หลังจากที่ "เม พรีมายา" ได้เดินทางมามอบตัวกับ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ตามหมายจับ  ก็ได้มีการสอบปากพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.  เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากที่มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ ประกอบกับตำรวจไซเบอร์ได้รับนโยบายให้ดำเนินการตรวจสอบเพจที่มีการชักชวนลงทุนเกินความเป็นจริง จนได้ไปพบว่า "พรีมายา" เข้าข่ายกรณีดังกล่าว   ตำรวจจึงได้ตรวจสอบและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา 

    พฤติการณ์เม พรีมายา เป็นการโพสต์เชิญชวนลงทุนจำนวนเงิน 6,000 บาท และจะได้กำไร 15 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 11 หมาย และจับกุมได้ 4 คนแล้ว ส่วนที่เหลือจะเร่งจับกุมได้ครบภายในสัปดาห์นี้ หนึ่งในนี้ก็มีหน้าม้าที่เป็นต้นโพสต์ เชิญชวนมาลงทุนจนทำให้แบรนด์พรีมายาโด่งดัง

   ซึ่งตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์และบัญชีธนาคารมาตรวจสอบ ว่าเป็นการหลอกลงทุนเกินจริงหรือไม่ ขณะที่รายงานการเสียภาษีเองก็ไม่ได้สอดคล้องกับผลกำไรที่โฆษณา

  เบื้องต้นแจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อน ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม ว่าลงทุนได้กำไรตามคำโฆษณาจริงหรือไม่  เป็นการลงทุนในลักษณะหลอกลวงหรือไม่ ขณะที่ "แซก"แฟนหนุ่ม เม พรีมายา ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะไม่ใช่ผู้โพสต์ชักชวนลงทุน ส่วนหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลตรวจสอบเพจชักชวนลงทุนอื่นๆ ที่มีลักษณะชวนลงทุนเกินจริงเพิ่มเติม 

     และจากที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เส้นทางการเงินของพรีมายา เชื่อมโยงกับดารานักแสดงกลุ่มหนึ่ง ตำรวจไซเบอร์ก็ขอดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนที่แชร์กันในโลกออนไลน์ว่ามีรางวัลนำจับ 5 แสนบาทให้ผู้แจ้งเบาะแส ไม่ได้เป็นเรื่องจริง ถือว่าเป็นเฟคนิวส์

 ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews