กระบะมีพิรุธหนัก ตำรวจเอะใจตามจับได้เต็มๆ ขนต่างด้าวมาเป็น 10

กระบะมีพิรุธหนัก ขับน่าหวาดเสียวจนตำรวจเอะใจขับตามจับได้เต็มๆ ขนต่างด้าวมาเป็น 10 หวังลักลอบเข้าพื้นที่ สุดท้ายก็ไม่รอด

หนีไม่รอด ตม.1 กระบะติดฟิล์มทึบแถมติดที่บังแดดทับอีกชั้น ซุกต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองกว่า 10 ราย หวังนำเข้ามาส่งในพื้นที่ชั้นใน

ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ  นุชนารถ รอง.ผบช.สตม. ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามนโยบายของ ผบ.ตร. โดยเคร่งครัดและให้เกิดเป็นรูปธรรม ในการป้องกันปราบปรามและสืบสวนหาข่าว จับกุมขบวนการขนคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ วันที่ 20 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 18.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ปิยอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน, พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.มิตรชัย พรมจันทร์ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวน 4 บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. สืบสวนและเฝ้าระวังตามเส้นทาง ถ.พหลโยธิน ทล.1 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะปฏิบัติหน้าที่พบเห็น รถกระบะ TOYOTA REVO สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ตขก-8890 กรุงเทพมหานคร ภายในรถติดฟิล์มทึบ ขับขี่มาด้วยความเร็วและขับขี่หวาดเสียว อาจจะก่อนให้เกิดอันตราย

 

กระบะมีพิรุธหนัก ตำรวจเอะใจตามจับได้เต็มๆ ขนต่างด้าวมาเป็น 10

 

ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมหยุดแต่ได้เร่งความเร็วรถขึ้นเพื่อพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นว่ามีพิรุธจับขับขี่ติดตามไป จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.57-58 ถ.พหลโยธิน (ขาเข้า)  ทล.1 ต.ลำทร อ.วังน้อย จ.พระนคศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สกัดหยุดรถยนต์คันดังกล่าวได้สำเร็จ 
 

กระบะมีพิรุธหนัก ตำรวจเอะใจตามจับได้เต็มๆ ขนต่างด้าวมาเป็น 10

 

กระบะมีพิรุธหนัก ตำรวจเอะใจตามจับได้เต็มๆ ขนต่างด้าวมาเป็น 10

 

เมื่อเข้าตรวจสอบพบ นายตังชัย สัญชาติไทย อายุ 42 ปี เป็นผู้ชับขี่ และพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาอีกจำนวน 10 ราย ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางนั่งโดยสารมาในห้องโดยสารของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว นายตังชัย ให้การยอมรับว่า วันที่ 6 มกราคม 2566 ได้รับการประสานจาก เพื่อนคนไทย โทรศัพท์มาให้ไปรับแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ จ.สุโขทัย จำนวน 10 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พรนครศรีอยุธยา โดยได้รับค่าจ้างในการขนคนเที่ยวละ 20,000 บาท โดยตนรับรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเช้าเมือง และยินยอมที่จะนำไปส่งที่ปลายทาง ส่วนคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 10 ราย ให้การยมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทยและเมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้วจะมีคนพาออกมาขี้นรถนำไปหานายจ้างหรือนายหน้า โดยนายหน้าจะเก็บเงินคนต่างด้าว รายละประมาณ 18,000-25,000 บาท 

 

กระบะมีพิรุธหนัก ตำรวจเอะใจตามจับได้เต็มๆ ขนต่างด้าวมาเป็น 10

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งขอหา นายตังชัย ผู้ถูกจับที่ 1 ในข้อหา " รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม " และแจ้งข้อหาคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 10 ราย ผู้ถูกจับที่ 2 – 11 ในข้อหา "เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย" พร้อมยึดของกลางรถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุ ในชั้นจับกุมผู้ถูกจับทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ถูกจับส่ง พนักงานสวบสวน สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

กระบะมีพิรุธหนัก ตำรวจเอะใจตามจับได้เต็มๆ ขนต่างด้าวมาเป็น 10

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline