ตำรวจท่องเที่ยวยอมรับแล้ว คลิปฉาว "นำขบวนให้สาวจีน" เป็นตำรวจจริง

CRI ตำรวจท่องเที่ยว ยืนยันแล้วเป็นตำรวจจริง จากคลิปอำนวยความสะดวกสาวจีน ทั้งนี้ได้ตั้งกรรมการสอบนายตำรวจในคลิปแล้ว

CRI ตำรวจท่องเที่ยวแจง คลิปตำรวจไทย อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวสาวจีน พร้อมตั้งกรรมการสอบนายตำรวจที่ปรากฎในคลิปแล้ว

วันที่ 21 มกราคม 2566 พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) มอบหมายให้ พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการฯ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนกรณีมีคลิปเผยแพร่ในลักษณะที่มีตำรวจจำนวนหนึ่งรวมตัวกันอำนวยความสะดวกดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติในสนามบินและใช้ยานพาหนะตำรวจนำขบวนไปจนถึงโรงแรมที่พักนั้น 

พล.ต.ต. อภิชาติ ชี้แจงว่า หลังจากที่เห็นคลิปดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้สั่งการให้ตรวจสอบทันที ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขอเรียนต่อสื่อมวลชน ดังนี้

1.ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยอมรับว่า มีข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจท่องเที่ยวจำนวน 1 ราย ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว โดยทราบภายหลังว่าเป็น ร.ต.อ. สมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว1 

 

ยืนยันแล้วเป็นตำรวจจริง จากคลิปฉาว "นำขบวนให้สาวจีน" ตั้งกรรมการสอบแล้ว

2.เหตุการณ์ในคลิป เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ HX671 เดินทางเข้าประเทศไทยพอดี ซึ่งจากการตรวจสอบในวันดังกล่าวแล้ว ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวไม่มีการสั่งการใดๆ ให้ตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวรายใดเป็นกรณีพิเศษ

3.นักท่องเที่ยวที่ปรากฏในคลิปนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวทราบชื่อแล้ว (แต่ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม) ซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางมาเที่ยวไทยพร้อมกับมารดา 

พล.ต.ต.อภิชาติ ระบุอีกว่า 4. ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ต้นสังกัดของ ร.ต.อ.สมพล ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน แล้วรีบรายงานให้ทราบ เพื่อที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้สนับสนุนข้อมูลให้จเรตำรวจแห่งชาติที่อาจตั้งคณะทำงานตรวจสอบ และจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ

 

ยืนยันแล้วเป็นตำรวจจริง จากคลิปฉาว "นำขบวนให้สาวจีน" ตั้งกรรมการสอบแล้ว

พร้อมทั้งกำชับให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ต้นสังกัด ร.ต.อ.สมพล ให้ความร่วมมือต่อหน่วยงานผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานอื่นๆ ที่พร้อมตรวจสอบอย่างเต็มที่  ซึ่ง พล.ต.ต. ม.ล. สันธิกร วรวรรณ ผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว 1 ได้สั่งการให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วตามหนังสือ บก.ทท.1 เลขที่ 0038.201/255 ลง 21 มกราคม 2566

 

ยืนยันแล้วเป็นตำรวจจริง จากคลิปฉาว "นำขบวนให้สาวจีน" ตั้งกรรมการสอบแล้ว

5. ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสั่งกำชับให้ตรวจสอบจนเกิดความกระจ่างชัดด้วยว่า ตำรวจกลุ่มนี้ทำกันเป็นกระบวนการและใช้อำนาจหน้าที่ประพฤติปฏิบัติอย่างนี้มาหลายครั้งแล้วหรือไม่ โดยหากพบหลักฐานหรือข้อมูลอันเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำเช่นนั้น จะได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและพิจารณาโทษอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป เพราะถือว่า เป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียต่อกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภาพรวมเป็นอย่างยิ่ง 

โฆษกกองบัญชาการตำรวจตำรวจท่องเที่ยวกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า จากคลิปที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อออกมาครั้งนี้ ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนง และ ประชาชนที่ร่วมกันตรวจสอบรวมถึงนำเสนอพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจที่ไม่เหมาะสมอันนำไปสู่การตรวจสอบและการพิจารณาลงโทษข้าราชการตำรวจที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งเท่ากับว่า เป็นการทำให้การท่องเที่ยวของไทยโปร่งใส ตรวจสอบได้ และการอำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวนั้น จะต้องไม่ทำเฉพาะเจาะจงเพียงแค่นักท่องเที่ยวรายหนึ่งรายใดเท่านั้น แต่ต้องทำและดำเนินการให้เกิดความเท่าเทียมต่อนักท่องเที่ยวทั้งหมดทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

 

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และแข็งขัน จนสามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรอดพ้นจากอันตราย และหาทรัพย์สินสิ่งของสำคัญของนักท่องเที่ยวที่สูญหายหรือลืมไว้ในสถานที่หนึ่งที่ใดกลับคืนสู่นักท่องเที่ยวได้เกือบทุกกรณีและทุกสถานการณ์ ซึ่งทำให้ลำดับประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยและสรรสร้างบรรยากาศความมั่นคงในรายงานการประชุมเศรษฐกิจโลกปี 2023 สูงขึ้นมาก

 

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ขอน้อมรับนำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงแก้ไข ลงโทษผู้ที่กระทำการไม่เหมาะสม และหามาตรการที่มีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป รวมทั้งจะพิจารณาคัดเลือกสรรบุคลากรที่มีคุณภาพมาปฏิบัติหน้าที่ในจุดที่อ่อนไหวต่อภาพลักษณ์ประเทศต่อไปด้วย 

ทั้งนี้หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว มีความคืบหน้าเป็นประการใด ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้เรียนแจ้งสื่อมวลชนให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline