- 23 ม.ค. 2566
หนุ่มฉุน เมียรักโดนโพสต์ด่าบ่อยๆ เดินอาดๆ ทำร้ายสาวคู่กรณีกลางวงข้าว กรามหัก - ฟันร่วง อาการสาหัส ก่อนเล่าเหตุผลสุดทน
หนุ่มฉุน เมียรักโดนโพสต์ด่าบ่อยๆ เดินอาดๆ ทำร้ายสาวคู่กรณีกลางวงข้าว มีรายงานว่า พ.ต.ท.ธนเดช ปัญญาลิขิตกุล รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางเสาธง รับแจ้งเหตุหญิงถูกทำร้ายร่างกาย ที่บริเวณลานจอดรถของบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านถนนเทพารักษ์ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.บางบ่อ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ตามรายงานระบุว่า ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ น.ส.พลอยไพลิน แฝงพันธ์ อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ นั่งอยู่บนเสื่อข้างวงข้าว สภาพมีเลือดไหลออกหูและปาก เลอะเต็มเสื้อผ้าที่สวมใส่ กรามและฟันหัก อาการสาหัส แต่ยังพอให้การได้ เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ จึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำตัวส่งไปรักษาต่อที่ รพ.จุฬารัตน์ 5
จากการสอบถาม น.ส.พลอยไพลิน ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ขณะกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนๆ นั้น จู่ๆ นายปาณชัย ลือโลก คนงานขับรถบรรทุกซึ่งรู้จักกัน ก็เดินเข้ามาที่วงข้าวไม่พูดไม่จาอะไร เตะเสยเข้าที่ใบหน้าตนครั้งแรกเลือดออกหู แล้วเตะซ้ำเป็นครั้งที่ 2 จนกรามและฟันหักทันที ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะมาจากการที่ตนกับภรรยาผู้ก่อเหตุ ได้โพสต์ด่ากันไปมาทางเฟซบุ๊ก
ผู้บาดเจ็บเล่าเหตุผลว่า เนื่องจากจากภรรยาผู้ก่อเหตุเคยขอยืมรถยนต์สามีตนไปใช้ เมื่อนำมาส่งคืนก็มีริ้วรอยความเสียหายกลับมาด้วย ตนจึงสอบถามถึงความรับผิดชอบกับภรรยาผู้ก่อเหตุ จนเกิดเป็นความบาดหมางกันขึ้น จากนั้นก็มีการโต้เถียงกันผ่านทางเฟซบุ๊กมาโดยตลอด กระทั่ง นายปาณชัย ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายตนโดยไม่ทันตั้งตัว จนเป็นสาเหตุให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ด้าน นายปาณชัย ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ภรรยาตนได้ขอยืมรถยนต์สามี น.ส.พลอยไพลิน ผู้บาดเจ็บ ไปใช้จริง เมื่อนำไปส่งคืน คู่กรณีกลับบอกว่ามีริ้วรอยถูกขีดข่วน ตนไม่แน่ใจว่าเป็นความเสียหายเดิมหรือเกิดขึ้นใหม่ แต่คู่กรณีเคยนำรถไปเคลมประกันภัยซ่อมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทำไมถึงไม่ซ่อมไปพร้อมกันเลยทีเดียว แต่ทำเหมือนแกล้งกัน เก็บเอาไว้มาเรียกร้องกับภรรยาตน อีกทั้งผู้บาดเจ็บยังมีการโพสต์ด่าภรรยาตนมาโดยตลอด เหมือนไม่ยอมจบเรื่อง ไม่รู้ว่าต้องการอะไร ทั้งๆ ที่ตนกับภรรยาก็พร้อมยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้ ซึ่งตนยอมรับที่ทำลงไปนั้นเพราะสุดจะทนจริงๆ
ขณะที่ น.ส.กมลวรรณ คำหอม ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเคยขอยืมรถของสามีผู้บาดเจ็บไปใช้จริง ส่วนริ้วรอยที่พบเห็นนั้น ตนไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากที่ตนนำรถไปใช้ แต่ก็พร้อมชดใช้ค่าซ่อมส่วนต่างที่เกิดขึ้น และได้พูดคุยกับ นายอำนวย สามีของผู้บาดเจ็บ จนเข้าใจกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่า นายอำนวย ได้ไปบอกให้ภรรยาให้เข้าใจหรือไม่
ซึ่งที่ผ่านมาผู้บาดเจ็บเป็นฝ่ายเริ่มก่อน มีการโพสต์ด่าตนมาโดยตลอด ตนยอมรับว่ามีส่วนผิดที่โพสต์ด่ากลับไปเช่นกัน กระทั่ง ทำให้สามีของตนเห็นข้อความด่ากันไปมาจนทนไม่ไหว จึงลงมือก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งตนเสียใจมาก ไม่น่าเกิดขึ้นเลย ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ที่รถ ส่วนสามีเดินไปคนเดียวโดยไม่มีอาวุธ
นอกจากนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่ง เล่าว่า ขณะล้อมวงนั่งกินข้าวอยู่นั้น ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว เนื่องจาก นายปาณชัย ผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ เมื่อมาถึงได้ลงมือก่อเหตุทันที ถ้าเดินเข้ามาแล้วมีการโวยวายเสียงดังก่อน ยังพอตั้งตัวห้ามปรามกันได้ แต่ผู้ก่อเหตุเข้ามาเงียบๆ แบบนี้ จึงห้ามไม่ทันจริงๆ ซึ่งทั้งหมดก็รู้จักกันดี เพราะทำงานอยู่ในบริษัทฯ เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญ นายปาณชัย ผู้ก่อเหตุ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บางเสาธง อย่างละเอียดอีกครั้ง และรอคำวินิจฉัยอาการของผู้บาดเจ็บจากแพทย์เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline