- 25 ม.ค. 2566
เฉลยแล้ว แมวตาเพชร ที่จริงไม่ได้พิเศษ แต่น้องกลับน่าสงสาร ทรมานน่าดู ปล่อยไว้นานยิ่งอันตราย ร้ายแรงที่สุดคือเสียชีวิต
กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เมื่อโลกออนไลน์แห่คลิปน้องแมวส้มตัวหนึ่งที่มีดวงตาที่แปลกออกไป ซึ่งหลายคนเขาใจว่า นี่คือ แมวตาเพชร แต่ก่อนที่จะมีการไปขอหวยน้องแมวตัวนี้เกิดขึ้น ล่าสุด อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ อธิบายว่า
"ที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินข่าวเรื่อง "แมวตาเพชร" หรือ "เพชรตาแมว" เป็นระยะๆ พร้อมกับความเชื่อที่ว่า ถ้ามีไว้ จะทำให้เกิดโชคลาภต่างๆ นานา เลยมีการซื้อขายกันในราคาที่สูงมาก แต่จริงๆ แล้ว เมื่อแมวตัวนั้นตายไป ลักษณะที่ดูคล้ายกับมีเพชรพลอยอยู่ในตาของแมว ก็จะหายไปด้วย เพราะว่าอาการแวววาวภายในตาของแมวนั้น อาจจะเป็นความผิดปกติของดวงตาของแมว เป็นโรค "ต้อ" ของตาแมว คล้ายกับคนก็เป็นโรคต้อตาได้เช่นกัน
สำหรับเรื่อง "แมวตาเพชร" นี้ ในแง่มุมวิทยาศาสตร์ รศ. นายสัตวแพทย์ ปานเทพ รัตนากร อดีตคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยให้สัมภาษณ์อธิบายเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีการอธิบายไปหลายครั้งแล้ว ว่า แมวมีความผิดปกติ แมวป่วย ตาของแมวเป็นต้อ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร ตรงกันข้ามแมวกลับน่าสงสารด้วยซ้ำ ความผิดปกติดังกล่าวเกิดขึ้นที่เลนส์ตาแมวซึ่งเป็นต้อ จึงมีลักษณะสีขุ่นมัวและมีประกายออกมา ดังนั้นความเชื่อที่ว่าแมวตาเพชร ควรเลิกกันได้แล้ว ไม่ใช่หลงเชื่องมงาย
อยากให้ความรู้ว่า ความผิดปกติดังกล่าว พบได้เป็นระยะๆ โดยแมวเป็นต้ออาจพบได้ตั้งแต่แมวอายุยังน้อยๆ หรือ อาจจะพบภายหลังจากที่แมวโตขึ้น ซึ่งการที่แมวเป็นต้อ เป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นควรรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรักษาจะดีกว่า เพราะหากปล่อยไว้ พอถึงระยะหนึ่ง แมวอาจมีความทรมาน เจ็บปวดบริเวณดวงตา การที่แมวเป็นต้อไม่สามารถมองเห็นได้ อาจทำให้แมวเกิดอุบัติเหตุ หาอาหารกินไม่ได้ หากปล่อยไว้อาจมีการอักเสบ ลุกลาม เจ็บปวด ดังนั้นควรพาไปพบสัตวแพทย์ ไม่ใช่เก็บไว้อย่างนั้น เพราะบางครั้งแมวป่วยมาก อาจถึงขั้นต้องควักลูกตาทิ้งไป
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด ต้องให้สัตวแพทย์ดูแลรักษาโดยตรง เรื่องนี้อยากแนะนำคนที่เป็นเจ้าของแมว รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อให้เข้าใจในเรื่องนี้ว่าแมวมีความผิดปกติ แมวป่วย ไม่ได้มีความพิเศษแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม การที่คนไทยยังมีความเชื่อเรื่องแมวตาเพชรอยู่ กรณีนี้ก็คงจะเหมือนกับจิ้งจก 2 หาง สะท้อนให้เห็นถึงการศึกษาของคนในสังคม
ซึ่งถ้าหากมีการปฏิรูปการศึกษา ให้คนเลิกไหว้จิ้งจก 2 หาง ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ดังนั้นหากจะแก้เรื่องนี้ควรแก้ที่ต้นทาง คือ ให้การศึกษาที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันสิ่งแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องกับลูกด้วย เพราะหากมีการให้ความรู้ที่ถูกต้อง แต่คนแวดล้อมยังเชื่ออยู่ ก็อาจทำให้เด็กคล้อยตามได้
ดังนั้น ก็สรุปได้ว่า แมวตาเพชรนั้นจริงๆ ก็คือแมวป่วยเป็นโรคต้อตาครับ ควรรีบพาไปหาสัตวแพทย์ เพื่อทำการรักษาแต่เนิ่นๆ ดีกว่าปล่อยไว้จนกระทั่งมันตาบอดสมบูรณ์ จะป่วยหนักจนถึงเสียชีวิตได้ครับ"
ข้อมูลจาก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline