- 26 ม.ค. 2566
"อนุวัต เฟื่องทองแดง" ผู้ประกาศข่าวคนดัง บุกแจ้งความตำรวจไซเบอร์ อึดอัดใจตอบไม่ไหว ประชาชนตกเป็นเหยื่อเพียบ
26ม.ค.66 ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ พร้อม นายอนุวัต เฟื่องทองแดง ผู้ประกาศข่าวดังเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ตอท. หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำรูปภาพและวีดีโอไปใช้ในการหลอกเพื่อกู้ยืมเงินสินเชื่อออนไลน์ ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อหลายร้อยคน
นายอนุวัต เฟื่องทองแดง เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางเข้าแจ้งความกับ สอท. เนื่องจากมีกลุ่มมิจฉาชีพ นำคลิป และภาพถ่ายของตนที่เป็นพรีเซนเตอร์ สินเชื่อให้กับบริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกกฎหมาย (ชื่อ ไชโย แต่มิจฉาชีพเอาไปเปลี่ยนเป็น ชโย) แต่กลุ่มมิจฉาชีพ กับคลิปไปตัดต่อเปลี่ยนชื่อที่ใกล้เคียง ทำให้คนหลงเชื่อ เข้าไปติดต่อขอกู้สินเชื่อ พอเหยื่อตายใจโอนเงินไปให้ ก็จะทำที่มีทีมงานติดต่อเข้ามาทั้งทีมรับเรื่อง ทีมสินเชื่อ มีการขอขอสำเนา เอกสารต่างๆเหมือนกับบริษัทสินเชื่อ
จากนั้นจะมีการแจ้งว่าได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งในระหว่างนั้นก็จะหลอกล่อให้เหยื่อโอนเงินเพื่อประกันเงินกู้ หรือมีการโอนเงินไปผิดบัญชีให้มีการโอนใหม่ หรือไม่ก็จะออกอุบายว่าไม่ได้ทำการยืนยันตัวตน ให้โอนเงินมาเพื่อยืนยันตัวตน หรือระบบมีการล็อคอยู่ ให้โอนเงินเพื่อปลดล็อค หรืออาจจะออกอุบายว่าบัญชีของท่านเข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ให้โอนเงินมาเพื่อล้างบัญชี เป็นต้น
ซึ่งทุกอย่างเป็นการคุยผ่านทางออนไลน์ ไม่ได้เจอตัวตนจริง ทั้งนี้มีผู้เสียหายนับ 100 คน มูลค่าความเสียหายต่อคนตั้งแต่หลักพัน ถึง 1 ล้าน 2 หมื่นบาท โดยมีผู้เสียหายกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งการแอบอ้างตนในลักษณะนี้ทำให้คนหลงเชื่อจำนวนมาก หลายคนที่ไหวตัวทันก็ไม่โอน หลายคนที่ไหวตัวไม่ทัน โอนไปแล้วก็ทักมาหาตนในช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก
ตอนแรกๆก็ไล่ตอบทีละคน แต่ตอนนี้มันเยอะขึ้นจนตอบไม่ไหวแล้วจึงต้องออกมาแจ้งความ ซึ่งในตอนแรกตนตั้งใจที่จะช่วยคนที่เดือดร้อน แต่ตอนนี้กลับกลายว่าเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ทำมาหากินหลอกเหยื่อ ทำให้ตนรู้สึกอึดอัด และเกรงว่าจะมีผู้เสียหายเยอะว่านี้จึงตัดสินใจแจ้งความ และให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดให้ได้
- ซึ่งหลังจากนี้อาจจะต้องระวังเรื่องการอ่านข่าวที่เกี่ยวกับเงินๆทองมากขึ้น หรืออาจจะไม่อ่านข่าวในลักษณะนี้อีก
โดยนักข่าวคนดังได้เปิดคลิปเปรียบเทียบคลิปจริงและคลิปที่มิจฉาชีพตัดต่อโชว์ต่อสื่อมวลชน ด้าน ทนายรณณรงค์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า สำหรับใครที่ถูกหลอกให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนวันนี้มาแจ้งความตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ความผิดเกี่ยวกับการตัดต่อ และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ
ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องการร้องขอคือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นเว็ปไซต์ ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นอกจากนี้ยังอยากให้ธนาคารเข้ามาแจ้งความเป็นผู้เสียหายด้วย เพราะถ้าธนาคารมาเองเรื่องจะเร็วมากยิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่ามาตรการทางด้านการเงินเราอ่อนแอ โอนเข้าปุ๊บก็มีการโอนต่อยักย้ายถ่ายเทไปเป็นสกุลเงินอื่นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เป็นการยากต่อการติดตาม
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews