- 31 ม.ค. 2566
เตรียมรับมือ อากาศแปรปรวนในรอบ 10 ปี ไทยเจอไต้ฝุ่น ฝนรั่ว ส่งผลรุนแรง ล่าสุดชี้แจงชัดโดยกรมอุตุนิยมวิทยาร่วมตรวจสอบ
จากกรณีว่อนข่าว ไทยเตรียมรับมืออากาศแปรปรวนในรอบ 10 ปี พายุไต้ฝุ่น ฝนรั่ว ส่งผลรุนแรง ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาตรวจสอบและชี้แจงชัดแล้ว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
อากาศแปรปรวนในรอบ 10 ปี ไทยเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่น ฝนรั่ว ส่งผลรุนแรง
ตามการส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องอากาศแปรปรวนในรอบ 10 ปี ไทยเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่น ฝนรั่ว ส่งผลรุนแรง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลเตือนภัยโดยระบุว่าอากาศแปรปรวนในรอบ 10 ปี ไทยเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่น ฝนรั่ว ส่งผลรุนแรง ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา จากการติดตามพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 28 ม.ค. - 3 ก.พ. 66 ในช่วงวันที่ 28 - 30 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง โดยภาคเหนือมีอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนอุณหภูมิลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 3 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 3 - 5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า
โดยในขณะที่ช่วงวันที่ 2 - 3 ก.พ. 66 มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งเกิดขึ้น สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อมิให้เกิดความสับสน และตื่นตระหนกขึ้นในสังคม หากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th โทรสายด่วน 1182
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา จากการติดตามพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 28 ม.ค. - 3 ก.พ. 66 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง โดยภาคเหนือมีอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนอุณหภูมิลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ขอบคุณ Anti-Fake News Center Thailand
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline