- 05 ก.พ. 2566
ตัวแทนหมู่บ้านของจริง "สรยุทธ" แซวแรง หลังมีเน็ตไอดอลสาวกัมพูชา ประกาศจะแต่งงานกับผู้ชายที่ล้ม "บัวขาว บัญชาเมฆ" ได้
เรียกว่าเป็นดราม่าข้ามประเทศ หลังจากที่ กัมพูชา เจ้าภาพซีเกมส์ 2023 อ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันมวย ภายใต้ชื่อ "กุน ขแมร์" แทนที่จะเรียก "มวยไทย" โดยอ้างว่าเป็นต้นกำเนิดศิลปะมวย ร้อนไปถึง สมาพันธ์มวยไทยนานาชาติ หรือ IFMA ได้ตัดสินใจไม่ส่งนักมวยไปร่วมแข่งขัน เนื่องจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ยืนยันการใช้ “มวยไทย” ในการแข่งขันระดับนานาชาติ
ก่อนที่จะมีดราม่าต่อเนื่องตามมา เมื่อมีคนกัมพูชาจำนวนมากเคลมว่า บัวขาว บัญชาเมฆ เป็นคนเขมร เนื่องจากก่อนหน้านี้บัวขาวเป็นป๊อบปูล่าในเขมรมาก และหลายคนเชื่อว่าบัวขาวเป็นชาวเขมรที่พลัดพรากไปเกิดในประเทศไทย แต่ท้ายที่สุดทางด้าน บัวขาว บัญชาเมฆ ได้ออกมาบอกว่า ตัวเองเป็นคนไทยเชื้อสายกูย ไม่ได้น้อยใจหรืออับอายเลย ไม่ว่าจะเชื้อสายไหน คนไทยคือคนไทยทุกคน ไม่ใช่คนเขมรตามที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่งเรื่องนนี้ทำให้กระแสดราม่าร้อนขึ้นไปอีก คนเขมรหลายคนโกรธแค้นมาก หาว่าบัวขาวลืมกำพืด
ก่อนที่ต่อมาด้าน ไต๋ศรี จันทน รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ชประกาศจัดหาบ้าน-รถ พร้อมเงินช่วยเหลือ 10 ปี หากนักมวยกัมพูชาคนไหน เอาชนะ บัวขาว บัญชาเมฆ ได้ ก่อนที่ค่ายบัญชาเมฆ ยิม จะออกมาโพสต์ขอความเมตตาให้ผู้ใหญ่กัมพูชา จ่ายค่าตัวบัวขาว ที่ค้างอยู่ 2.2 ล้านบาท จากการขึ้นชกที่กัมพูชา
หลังจากนั้นไม่นาน แก้ม รุมจอง นักมวยชาวกัมพูชา เจ้าของฉายา "เสือร้ายแห่งพระตะบอง" ก็ประกาศอยากขึ้นสังเวียนกับ บัวขาว มาก โดยระบุว่า .หูร้อนทันที ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็มาแข่งที่กัมพูชา ผมรักบัวขาวมากนะ แต่คันมือ คันขา อยากปะทะ มาเลย บัวขาว บัญชาเมฆ ผมรอไม่ไหวแล้วพี่ชาย โปรดบอกผมเมื่อคุณตอบรับ"
และล่าสุดเมื่อวานนี้ 4 ก.พ. 2566 ได้มีเน็ตไอดอลสาวชาวกัมพูชา ซึ่งใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Yada Yada ออกมาโพสต์ระบุว่า ถ้าใครชนะบัวขาวได้ เธอจะแต่งงานด้วย โดยไม่ต้องมาสู่ขอเธอไม่ต้องจ่ายเงินซักเรียล (ค่าเงินกัมพูชา) และจะรักหนุ่มที่มาแต่งงานกับเธอตลอดไป
ขณะที่ทางด้านเพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้รายงานข่าวประเด็นเน็ตไอดอลสาวชาวกัมพูชา ก่อนที่จะคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าว ออกโรงทวงค่าตัวหลักล้าน ให้แก่บัวขาว โดยระบุว่า "จ่ายค่าตัวบัวขาวที่ค้างอยู่ 2.2 ล้านมาก่อนดีกว่ามั้ย" ทำให้ชาวเน็ตถูกใจประโยคนี้อยู่ไม่น้อยซึ่งยอดกดไลน์คอมเมนต์นี้เกือบห้าหมื่นครั้งไปแล้ว
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline