- 09 ก.พ. 2566
สน.ทองหล่อ แจงแล้ว ภาพวงจรปิดตร.นอกเครื่องแบบตรวจร้านทำเล็บ "ดิว อริสรา" หลังมีข่าว ชายปริศนาบุกร้านย่านทองหล่อ จนดาราสาวต้องร้องขอความคุ้มครอง
กรณี ดิว อริสรา ได้ออกมาเผยคลิปเปิดหมดเปลือกถึงแผลในใจครั้งใหญ่ ในอดีตโดนทำร้ายร่างกายและจิตใจ คลายปมสงสัยถึงสาเหตุที่ "ดิว"แฉพี่น้องตระกูล 4บ. และ"มาเก๊า 88" พร้อมกันนี้ ดิว ได้เปิดภาพหลักฐานโดน"เบนซ์ เดม่อน"ทำร้าย จนต้องอยู่อย่างหวาดกลัวจากแผลเป็นในใจที่ฝังลึก ทั้งครอบครัวรู้เรื่องแต่ไม่มีใครช่วย ในเวลานั้นต่อมา"ไผ่ ลิกค์" อดีตคนรักของ ดิว ออกมาปกป้อง และเผยอีกว่ามีใครไม่รู้ บุกไปป่วนที่ร้านของดิวอีก
หลังจากที่ ดิว ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวทั้งหมด ทาง ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นอดีตคนรักของ ดิว อริสรา ได้ออกมาเผยว่า ถ้าผู้หญิงคนนึงโดนทำขนาดนี้ และ ออกมาเพื่อปกป้องตัวเอง และทำเพื่อประเทศในการออกมาให้ข้อมูลเครือข่ายการพนันใหญ่ด้วยเราก็ควร ออกมาปกป้องเขาหรือไม่ หรือ เราควรมาตั้งคำถามมากมาย ว่าเพราะอะไร
แถมเมื่อวานยังมีคนที่ไม่รู้เป็นใคร ไปป่วนที่ร้านเค้าอีก ผมในฐานะพี่ชาย คงจะต้อง support หรือไม่ครับ (รูปบางส่วนถ้าเห็นหมดจะเป็นลม)
ล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับการเปิดภาพจากกล้องวงจรปิด มีการนำเสนอภาพผ่านรายการข่าวของช่องหนึ่ง เป็นภาพตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ เข้าตรวจร้านทำเล็บของดาราสาว "ดิว อริสรา"
ซึ่งทาง เนชั่นออนไลน์ มีรายงานว่า พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ตรวจสอบไปยังฝ่ายสืบสวน ทราบว่าในวันดังกล่าวมีตำรวจ ยศ ส.ต.ท.สังกัดฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ นอกเครื่องแบบ 2 นาย เข้าเข้าไปตรวจภายในร้านนี้จริง
สำหรับการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจร้านทำเล็บของ ดิว ในวันดังกล่าวตำรวจที่เข้าไปตรวจได้แสดงตัวอย่างสุภาพ แสดงบัตรประจำตัว รวมถึงให้ทางผู้ดูแลร้านถ่ายภาพ เพื่อเป็นความบริสุทธิ์ใจในการทำงาน ซึ่งการตรวจครั้งนี้ก็เป็นการตรวจทุกร้านที่อยู่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะร้านทำเล็บแห่งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็มาทราบภายหลังว่าร้านดังกล่าวเป็นของ ดิว อริสรา หลังจากที่เป็นกระแสข่าวไปแล้ว
โดยการตรวจแต่ละฝ่ายในโรงพักจะกำหนดแผนการทำงานขึ้นมาตามผลัด หรือตามสถานการณ์ ทั้งนี้การกำหนดกรอบแผนการตรวจจึงไม่ตายตัวว่าจะต้องตรวจเป็นประจำทุกเดือน
ซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าวกลายเป็นประเด็น สน.ทองหล่อ อยากชี้แจงว่า ตำรวจได้ทำตามหน้าที่ในการป้องกันเหตุอาชญากรรมตามปกติ ไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง หรือ ต้องการเป็นข้อพิพาทกับทางคู่กรณีแต่อย่างใด
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews