- 23 ก.พ. 2566
เรื่องเล่าจากปากพี่ต่อ วินาที "น้องทีน" มาหา "พี่ต่อ"คนเก็บมาเลี้ยง นาทีนั้นขนลุก กลิ่นยา-กลิ่นโรงพยาบาล มาเต็มเข้าจมูก
ปิดตำนานกะเพราอ้วนตรึ้ม จากข่าวเศร้าการเสียชีวิตของ "น้องทีน กะเพราอ้วนตรึ้ม" หรือ อ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 16ก.พ.66 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความอาลัย "น้องทีน" สดายุ ศุภผลศิริ ที่สู้ชีวิตจากเด็กไร้บ้านสู่เจ้าของร้านกะเพราชื่อดัง แต่กลับต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร สาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด
โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ.66 ได้พิธีฌาปนกิจ น้องทีน ที่วัดนิมสุขาราม บางแค 17:30 น โดย "พี่ต่อ"ต่อศักดิ์ รุ่งทอง คนดูแลน้องทีนและคนที่เก็บมาเลี้ยง ได้เปิดใจในวันพิธีฌาปนกิจ น้องทีน ว่าได้มีโมเมนต์ "น้องทีน" มาหา "พี่ต่อ" คนเก็บมาเลี้ยง ซึ่ง พี่ต่อ เผยว่า นาทีนั้นขนลุก กลิ่นยา-กลิ่นโรงพยาบาล มาเต็ม
พี่ต่อ เผยว่า เมื่อตอนที่กลับบ้าน เปิดประตูเข้าบ้านกลิ่นยาโรงพยาบาลแรงมาก ได้กลิ่นชัดเจน ที่แปลกอีกอย่างคือแมวต้องวิ่งสวน แต่มันดันกลับนอนหงายท้องอยู่สองตัว คือ มั่งมี โจทก์น้องทีน กับ คุณลาภลอย แมวตัวที่น้องทีนรัก
ทั้งนี้ น้องทีน เคยเปิดใจผ่านรายการ ชีวิตสู้กลับ ของทางช่อง ยูทูป ThaiNews – ไทยนิวส์ ว่า เดิมตัวเองอาศัยอยู่กับย่ามาตั้งแต่เล็กจนอายุประมาณ 13-14 ปี แต่ต่อมาย่าล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล แล้วน้องสาวของย่าก็มาขายบ้าน โดยไม่บอกด้วยว่าขายบ้าน ทำให้ตัวเองต้องนอนในซอย ตามข้างถนน 2-3 วัน จนต่อมาเจอ "พี่ต่อ" ผู้อุปการะตัวเองที่เข้ามาช่วย ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วเขาก็ดูแลน้องทีนมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็อยู่กับพี่ต่อมาตลอด
แม้จะไม่มีโอกาสได้เรียนอีกแล้ว แต่ตอนอายุประมาณ 18 ปี ด้วยความที่อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง เพราะอยากตอบแทนพี่ต่อ และหาเงินทุนให้กับตัวเอง แต่ไม่มีใครสอน พอได้เห็นพี่ต่อทำกะเพรา หรือหมูหวานบ้าง ก็เลยลักจำเอาสูตรเขามา และมาเปิดร้านข้าวกล่องเป็นของตัวเอง โดยมีพี่ต่อช่วยวิ่งงานส่งของเป็นหลัก จนตอนนี้อายุ 21 ปีแล้ว บางวันชักหน้าไม่ถึงหลังต้องกู้รายวันก็มี บางวันไม่มีรายได้ ก็คือไม่มีจริงๆ ถึงขั้นไม่มีเงินกินข้าว
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews