สังเกตอาการเลย ข้อมูล ผลวิจัยใหม่ ลองโควิด นำไปสู่การเสียชีวิตกะทันหันได้

สังเกตอาการเลย ข้อมูล ผลวิจัยใหม่ ลองโควิด นำไปสู่การเสียชีวิตกะทันหันได้ : แม้สถานการณ์โควิดในประเทศไทยจะเบาลง แต่ดูเหมือนยังมีเรื่องที่ต้องระวังกับโควิด เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ในเพจเฟซบุ๊กของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้อัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลโควิดทั่วโลกมีอยู่โพสต์หนึ่งที่น่าสนใจ

 

 

โดย หมอธีระระบุว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 72,460 ราย และมีผู้เสียชีวิต 379 ราย ซึ่งหากรวมยอดผู้เติดเชื้อโควิดทั่วโลกแล้วจะได้ 681,351,640 ราย และคร่าชีวิตไปแล้ว 6,810,865 ราย

 

ซึ่งผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ ส่วนใหญ่มาจากทวีปเอเชียและยุโรป หากคำนวณผู้ติดเชื้อรวมกัน จะได้เป็นร้อยละ 81.32 จากทั้งหมดทั่วโลก และยอดเสียชีวิตรวมกัน ร้อยละ 80.73

 

อีกทั้ง หมอธีระ ยังได้เปิดเผย ข้อมูลอัปเดตสายพันธุ์ของโควิดในอเมริกาอีกว่า ทางศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ ได้เปิดเผยถึงการระบาดในอเมริกา ช่วงวันที่ 5-11 มี.ค. 66 พบว่า สายพันธุ์ ‘โอไมครอน’ ครองสัดส่วนสูงสุดประมาณร้อยละ 90 ในขณะที่สายพันธุ์อื่นๆ พบน้อยมาก เช่น BQ. 1.1 ซึ่งเหลือน้อยกว่าร้อยละ 5

ทั้งนี้ หมอธีระ ยังได้พูดถึงงานวิจัยที่มีการอัพเดตข้อมูลโควิด ซึ่งได้อธิบายปัญหาเกี่ยวกับลองโควิด ที่เกิดในระบบต่างๆ ของร่างกาย ไว้ 2 ชิ้น โดยวิจัยชิ้นแรก มาจากประเทศจีน ซึ่งบอกว่า เอนไซม์ โปรตีเอส ของไวรัส SARS-CoV-2 นั้น ได้รับการศึกษาในห้องปฏิบัติการแล้ว พบว่าสัมพันธ์กับกลไกการเป็นพิษต่อเซลล์ในระบบประสาท ซึ่งสนับสนุนสมมติฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับอาการผิดปกติทางสมอง ความคิดความจำ และอื่นๆ ที่พบในภาวะลองโควิดของคนที่ติดเชื้อโควิดได้

 

ต่อมาเป็นงานวิจัย จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้ศึกษาในห้องปฏิบัติการ พบว่า ส่วนเปลือกนอกของไวรัส SARS-CoV-2 นั้นมีความสัมพันธ์กับกลไกการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ และส่งผลให้เกิดการนำคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่การตั้งสมมติฐานว่าน่าจะช่วยอธิบายปัญหาโรคหัวใจชนิดต่างๆ ของผู้ป่วยลองโควิดไม่ว่าจะเป็นการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ รวมถึงการเสียชีวิตกระทันหันจากความผิดปกติของหัวใจ

 

พร้อมกันนี้ หมอธีระ ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่า โควิด ไม่ใช่หวัดธรรมดา การติดเชื้อแล้วหายไม่ใช่เพียงเท่านี้ แต่การติดเชื้อแต่ละครั้ง สามารถทำให้ป่วยรุนแรงได้ เสียชีวิตได้ และเสี่ยงต่อปัญหาระยะยาวอย่างลองโควิดได้

ข้อมูลจาก Thira Woratanarat