- 13 มี.ค. 2566
"ทนายรัชพล" ท็อปคอมเมนต์ หลังยุติปมรักอลเวง 12ล้าน นายเอกยอมรับข้อเสนออดีตเมีย 2.5แสน จบด้วยดีแยกย้าย ที่ยอมเพราะสงสารลูก
จบดราม่ารักวุ่นวายอลเวง 12ล้าน กรณีกรณีนายเอกหนุ่มชัยภูมิ ได้ไปร้องทุกข์ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หลังไปทำงานเก็บเงินเป็นผีน้อยที่เกาหลีใต้9ปี ส่งเงินกลับมาบ้านทุกเดือน เดือนละ3หมื่น พอเมียถูกลอตเตอรี่รางวัลที่1 รับรวย12ล้าน กลับไทยนึกว่าจะได้อยู่ด้วยกัน แต่เมียหนีไปแต่งงานใหม่กับตำรวจ ล่าสุดวันที่ 13 มี.ค.66 ถึงจุดสิ้นสุด นายเอกสงสารขอทำเพื่อลูก ยอมรับข้อเสนอสุดท้าย เป็นอันจบเรื่องแยกย้าย
ซึ่งในรายการโหนกระแสล่าสุด นายเอก เล่าว่า ตนกับภรรยาชื่อว่า"หวี" ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน อยู่กันมา20ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน เมื่อปี 2559 จุดเริ่มต้นที่ตนกับภรรยาไปทำงานเป็นผีน้อยที่เกาหลีใต้ กระทั่งภรรยาตั้งท้องลูกคนที่ 3 ที่เกาหลีใต้
จากนั้นแม่ของตนเองซึ่งอยู่ไทยเกิดเสียชีวิต จึงให้ภรรยาเลิกทำงานกลับไทย มาจัดการเรื่องงานศพแม่ และคลอดลูกเพราะตอนนั้นท้อง7เดือนแล้ว เมื่อภรรยากลับมาอยู่ไทย ตนก็ได้ส่งเงินเข้าบัญชีของภรรยาไม่เคยขาด
และเมื่อราว3-4ปีที่แล้ว เริ่มมีปัญหากัน ได้ข่าวว่าภรรยาไปคุยกับผู้ชายอื่น จนทะเลาะกัน และด้วยอารมณ์โมโหชั่ววูบ ตนก็เลยบอกเลิกไป แต่หลังจากนั้น ตนก็ยังส่งเงินให้ตามปกติทุกเดือน เดือนละประมาณ 3 หมื่นบาท แต่เริ่มรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจเมีย จึงเปลี่ยนมาโอนเงินให้น้องสาวแทน เพื่อโอนต่อกันไปเป็นทอดๆ กระทั่งเมื่อวันหวยออก 1 มีนาคม ภรรยาได้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 12 ล้านบาท
ด้าน"หวี"ภรรยาก็ได้โฟนอินเข้ามาในรายการโหนกระแส ยืนยันชัดเจนว่า เลิกรากันไปตั้งแต่ปี 2562 ยอมรับว่านายเอกส่งเงินมาให้จริง แต่ก็ไม่พอค่าใช้จ่าย ทำให้ต้องไปขายลูกชิ้น ซึ่งต่างฝ่ายก็ยกเหตุผลของตนเอง มาเถียงกันยืดเยื้อไม่จบง่ายๆ ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ จนฝ่ายหญิงยื่นข้อเสนอสุดท้ายเป็นเงิน 2.5แสนบาท ส่วนเรื่องลูกยังสามารถมาเจอกันได้ ไม่ได้ห้าม ซึ่งนายเอกก็ยอมรับข้อเสนอนี้ เพราะสงสารลูก เชื่อว่าลูกสาวถูกครอบครัวฝั่งภรรยาขู่บังคับให้กลัว
โดยนายเอกได้เปิดใจว่า ผมทำเพื่อเลูก ผมเอาแค่ 2.5แสนบาทก็ได้ ผมห่วงความรู้สึกลูกมากกว่า เหมือนลูกจะถูกบังคับ ผมรักลูกครับ
ด้านในมุมกฎหมายนั้น ทั้งคู่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ดังนั้นเรื่องสินสมรสมันนำมาใช้ไม่ได้ เพราะทั้ง2ฝ่ายยังเคลียร์กันไม่จบ ว่า คบกันหรือเลิกกัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทั้งคู่ยังคบหากันหรือไม่
ล่าสุด ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้มาคอมเมนต์ในเพจโหนกระแสว่า "ห่วงลูก" แต่ต้องได้ตังนะฮับ มองในอีกมุมที่แตกต่าง ซึ่งความเห็นดังกล่าวก็กลายเป็นท็อปคอมเมนต์
ประเด็นที่เรียกเงินคือ เอาไปเลี้ยงตัวเองหรือเลี้ยงลูกครับ ห่วงลูกกับเรียกเงินคืน มันคนละเหตุผลกัน ถ้าเรียกเงินคืนก็ไม่ต้องมาอ้างว่าห่วงลูก
cr.โหนกระแส