นารา ร้องขอ รมว.ยุติธรรม ช่วยไกล่เกลี่ยเหยื่อกล่องสุ่ม ยันไม่หนีไปไหน

จากกรณีที่ นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ "นารา เครปกะเทย" เน็ตไอดอลชื่อดัง ชวนคนลงทุนกล่องสุ่ม ปรากฏมีผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้บริโภคจำนวนหลายราย มูลค่าความเสียหายหลักล้านบาท เนื่องจากของที่ได้รับนั้นไม่คุ้มราคาและต้องการให้ นารา ดำเนินการคืนเงิน ตามสัญญาที่เจ้าตัวเคยระบุเมื่อครั้งระดมการลงทุน โดยเจ้าตัวยังยืนยันว่าตนเองนั้นเริ่มจากเป็นหนี้ สู้มาตลอด ไม่คิดหนี และจะเริ่มใช้คืนทีละคน ก่อนเดินทางเข้าปรึกษาทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการเฉลี่ยเงินคืนแก่ผู้เสียหายนั้น

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่ กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย อายุ 23 ปี พร้อมด้วย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เพื่อขอให้เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคืนเงินให้กับผู้เสียหายกล่องสุ่มและผู้เสียหายเปิดบิลที่ยังค้างชำระ ส่วนด้านการดำเนินคดีอาญา ผู้เสียหายก็มีสิทธิ์ดำเนินคดีอาญาได้เต็มที่ เนื่องจากเป็นคนละส่วนกัน

โดย ทนายเดชา กล่าวว่า วันนี้ตนพานารามาพบกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากทางกระทรวงฯมีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ที่สามารถช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในส่วนแพ่งได้ โดยมีว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯรมว.ยธ. เป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อที่นาราจะสามารถหาคืนเงินให้ลูกค้าทุกรายที่มีปัญหาจากการเปิดบิลเป็นตัวแทนขายสินค้ากับนารา

 

ส่วนในทางคดีอาญา ที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ก็สามารถทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งการมาในวันนี้ เราไม่ได้มาเพื่อมีเจตนาเตะถ่วงคดี หรือ ไปทำให้คดีเกิดความล่าช้า เราไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตรงนี้แน่นอน ผู้เสียหายทุกรายสามารถเข้าแจ้งความตามท้องที่ที่เกิดเหตุได้เต็มที่ ทั้งนี้ จากข้อครหาที่มีการระบุว่านารามีบัญชีม้านั้น จากการที่ตนได้สอบถามทราบว่านาราไม่ได้มีการใช้บัญชีม้า แต่ถ้ามีพยานหลักฐานในส่วนนี้จริงๆ นาราก็อาจจะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 

 

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า หากในวันนี้มีผู้เสียหายมาทำบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ยต่อหน้าเจ้าพนักงาน หลังจากนี้มันมีผลทางกฎหมาย และถ้าหากนาราเบี้ยว ผู้เสียหายก็สามารถเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ยึดทรัพย์สินได้ ส่วนการไกล่เกลี่ย ถ้าใครมาทำบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ย ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ กระทรวงยุติธรรม มีพระราชบัญญัติไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ส่วนผู้เสียหายรายใดที่ไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการให้นาราติดคุก ก็ไปเเจ้งความที่ บช.ก. ได้ 

ด้านนารา เปิดเผยว่า ดีใจที่วันนี้ได้มีโอกาสชี้แจง ตนมาในวันนี้ไม่ได้จะต่อสู้คดีแต่อย่างใด เจตนา คือ อยากมาเพื่อให้ผู้เสียหายและลูกค้ารู้ว่าตนไม่หนี และยังคงพยายามเดินหน้าหาเงินเพื่อใช้หนี้ผู้เสียหายให้ครบทุกราย ทุกบาท ทุกสตางค์ ส่วนกรณีของกล่องสุ่มที่มีดราม่า ตนเริ่มขายมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขายมาเรื่อยๆตลอด จนมาวันที่ 3 ก.พ.66 ที่ตนเริ่มดำเนินธุรกิจไม่ไหว เกิดความชะงักเกิดดราม่าต่างๆ ซึ่งในขณะนั้นมีผู้เสียหายประมาณ 500 ราย แต่ตนก็ได้พยายามเคลียร์ยอดเงินมาตลอดจนเหลือเพียงหลักสิบราย อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างมีผลกระทบต่อการขายของเปิดบิลที่ตามมา เพราะลูกค้าเกิดความไม่ไว้วางใจ ทำให้ไม่มียอดเงินเข้ามา 

 

"ตนยืนยันว่าการทำธุรกิจตั้งแต่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ตนไม่เคยคิดหลอกลวง ตนพยายามเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป เพื่อหาเงินใช้หนี้ผู้เสียหาย โดยหาเงินเพื่อนำไปเป็นต้นทุนไปซื้อของมาสต็อก และทุกการทำธุรกิจ ตนมีการแสดงออเดอร์การขายตลอด ถ้าตนจะหลอกตามที่มีข้อครหา ในตอนแรกๆตนคงจะไม่ขายเรื่อยๆเช่นนั้น ซึ่งตนมีจำนวนยอดการสต็อกของหมด" นารา ระบุ

ส่วนเรตราคากล่องสุ่มที่เปิดขายนั้น นารา เผยว่า แต่ละกล่องมีจำนวนแตกต่างกันไป มีตั้งแต่ยอด 5,000 บาท ยอด 10,000 บาท ยอด 100,000 บาท สูงสุด 250,000 บาท เป็นกล่องสุ่มที่มีราคาระบุ ซึ่งลูกค้าก็สั่งซื้อตามที่อยากได้ เรตไหนสะดวก เขาก็ซื้อ นอกจากนี้ ตนก็ได้มีการแจ้งระยะเวลาการได้รับกล่องสุ่มให้รับทราบ ที่ผ่านมีหลายคนได้จริง แต่พอเกิดปัญหาขึ้นมา เราก็พยายามเคลียร์ ขอเวลาในการหาเงินสักระยะเพื่อชดใช้ แม้จะมีบ้างที่คนมองว่าตนทำกล่องสุ่มเพื่อหาเงินมาหมุนหรือไม่ แต่ตนทำเพราะอยากได้เงินไปต่อยอดในธุรกิจอื่นๆด้วย ทั้งการเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ ขนม คอลลาเจน ไฟเบอร์ กลูต้าต่างๆ

สำหรับประเด็นเรื่องบัญชีม้าตามที่เพจเฟซบุ๊คบัญชีหนึ่งได้มีการโพสต์นั้น นารา เผยว่า ต้องยอมรับว่าหลายคนเชื่อเพจนี้ แต่ตนยืนยันว่าไม่มีบัญชีม้า เพราะเชื่อว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว และรู้ว่าบัญชีม้ามันผิดกฎหมาย ตนไม่ทำ ทุกคนสามารถไปตรวจสอบได้ และชื่อบัญชีที่รับเงินก็เป็นชื่อตน 

นารา ยังเผยอีกว่า ปัจจุบันนี้ตนได้ขายทรัพย์สินไปเกือบหมดแล้วเหลือเพียงรถยนต์ เพื่อนำเงินมาเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย และก็มีบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านที่แม่ได้สร้างไว้ ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะขายกล่องสุ่ม และแม่ได้เอาเข้าธนาคารแล้ว เพื่อจะนำเงินมาใช้หนี้ลูกค้า ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผลรีพอร์ตจากธนาคาร เเละเมื่อได้เงินมา ก็จะรีบคืนผู้เสียหายเหมือนกัน ส่วนยอดค้างชำระผู้เสียหายในตอนนี้ ส่วนใหญ่เหลือเป็นในส่วนของการเปิดบิล ซึ่งมีหลักร้อยคน มูลค่าความเสียหายยังไม่ทราบตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่ตนมั่นใจว่าจะสามารถเคลียร์ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หากพูดอย่างคนมีโชค ทั้งนี้ ตนขอโทษในสิ่งที่อาจจะพูดไปกับผู้เสียหาย เด็กคนนี้ขอโทษและขอสัญญาว่าจะควบคุมสติตัวเอง และจากนี้ใช้สติแก้ปัญหา พร้อมยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์

 

ด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯรมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้รับการประสานจากทนายเดชาในประเด็นที่นารามีการโพสต์ขายกล่องสุ่ม และวันนี้จากการพูดคุยกับนารา ทราบว่ามีจำนวนเงินค้างอยู่ แต่วงเงินไม่เกิน 12 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้มีการแยกย่อยคนที่เข้ามาซื้อกล่องสุ่ม เนื่องจากแต่ละรายซื้อในเรทราคาไม่เท่ากัน

 

โดยทางกระทรวงยุติธรรมจะเป็นตัวกลางในการเจรจากับผู้เสียหาย หากผู้เสียหายเข้ามาพบ เจ้าหน้าที่กระทรวงก็จะนัดหมายกับคู่กรณีเพื่อมาทำบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหาย โดยจะต้องทำเป็นสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย หากผิดสัญญาก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ซึ่งตามกฎหมายการไกล่เกลี่ยของกระทรวงยุติธรรมแล้ว ความเสียหายต้องไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือผู้เสียหายสามารถติดต่อศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคเอกชนได้ ซึ่งวงเงินความเสียหายไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย และจะทำให้คดีต่างๆ มีความรวดเร็วและผู้เสียหายได้เงินเร็วขึ้น ซึ่งหากผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้วก็จะทำเรื่องต่อศาลให้บังคับคดีได้ทันที 

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ยังกล่าวอีกว่า ตนได้สอบถามนาราไปว่า มีผู้เสียหายเท่าไร ก็ขอให้เอารายชื่อผู้เสียหายเข้ามามอบให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นกระทรวงฯ จะดำเนินการนัดหมายเพื่อไกล่เกลี่ย ซึ่งนารามีความตั้งใจดีเพื่อบรรเทาความเสียหาย โดยเบื้องต้นมีมูลค่าความเสียหายที่นาราต้องชดใช้ในกรณีของกล่องสุ่ม ประมาณ 12 ล้านบาท จำนวน 98 คน

 

 

นอกจากนี้ ทางผู้เสียหายสามารถยื่นความประสงค์ผ่านทางออนไลน์ของกรมคุ้มครองสิทธิฯได้ โดยกรอกข้อมูลไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประสานไปยังผู้เสียหายที่ได้บันทึกข้อมูล ตนเชื่อว่าทุกคนอยากได้เงินคืน ส่วนทางนาราจะคืนเมื่อไร หากจำนวนยอดเงินมาก นาราก็สามารถผ่อนจ่าย ทยอยคืนตามลำดับ หากยอดน้อย นาราก็สามารถจ่ายเต็มจำนวนให้ผู้เสียหานได้เลย อยู่ที่การตกลงระหว่างกัน ทั้งนี้ ในวันที่มีการทำบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ยนั้น ทั้งผู้เสียหายและคู่กรณีจะต้องมาพร้อมหน้ากันเพื่อทำการตกลงต่อหน้าเจ้าพนักงาน