- 28 มี.ค. 2566
สาวตั้งกระทู้เล่าหายนะครั้งใหญ่ของชีวิต เมื่อเชื่อคำญาติพี่น้องและแม่แท้ๆ ทิ้งชีวิตในเมืองหอบเงินก้อนสุดท้ายหนีกลับบ้านเกิด มีแต่ฝันร้ายรออยู่
อุทาหรณ์ชีวิต สาวตัดสินใจหอบเงินหนีโควิดกลับบ้านเกิด หารู้ไม่ มีแต่หายนะรออยู่ ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน โดยเฉพาะแม่แท้ๆที่บีบบังคับเอาเงินไปแจกจ่ายให้พี่น้องที่ก่อแต่หนี้สินและปัญหา จะหนีออกมาก็ห่วงพ่อป่วยติดเตียง แถมตัวเองยังป่วยซ้ำๆจนร่างกายบอบช้ำไปหมด เป็นชีวิตที่ยิ่งกว่านิยาย ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ
เรื่องมันยาว ใครไม่ชอบผ่านได้เลย เราไม่ค่อยตั้งกระทู้ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเป็นประโยชน์จริงๆ นี่ก็คิดหนักคิดนานมากนับปีที่จะตั้งกระทู้นี้เพื่อประจานความโง่ของตัวเอง เพื่อที่จะโดนด่าโดนนั่นนี่ แต่ก็นะ ถ้ากลัวถูกด่าชีวิตนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรหวังว่าเรื่องของเราจะเป็นประโยชน์กับคนรุ่นใหม่รุ่นเก่ารึคนแก่แบบเรานี่ละ จริงๆ กลัวคนรู้จักที่สนิทกันมาเจอ555ใครเจอเราก็รู้ละว่าเป็นเรา รบกวนเพื่อนๆ ไม่ต้องทักเรานะ แต่เราหวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นวิทยาทานเป็นบุญกุศลหากมันเกิดประโยชน์กับคนอื่นแม้เพียงคนเดียว เป็นแง่มุมอีกแง่มุมเพื่อเป็นบทเรียนชีวิตให้คนอื่นไม่ทำผิดพลาด กับชีวิตตัวเองแบบเราเห็นอีกมุมของเรื่องราวหนึ่งที่เกิดกับเราและเป็นประโยชน์กับชีวิตคนอื่นๆ
เริ่มจากเราเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวไม่แต่งงานไม่มีครอบครัวเพราะคิดว่าสบายดี ทำธุรกิจส่วนตัวตั้งแต่อายุน้อยๆ ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวที่บ้านนอกมาตลอด เราทำงานหนักจนประสบความสำเร็จระดับหนึ่งพอมีเงินทอง แม้เจอวิกฤตสารพัน เสียทรัพย์สินเงินทองไปมหาศาล แต่ก็พอจะเหลือๆ บ้าง
ล่าสุดเจอสถานการณ์โควิดเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ในรอบแรก ของการระบาดได้ 2 เดือนเราติดเชื้อโควิดเดลต้าปอดอักเสบรุนแรง ป่วยหนักปางตาย ในตอนนั้นแทบไม่มีคนป่วยและการติดเชื้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเราเข้ารักษาตัวในรพ.เอกชน หมออัดยากู้ชีพทุกทาง รักษาตัวอยู่ 2 เดือนเสียเงินไปเยอะ เรารอดตายมาในสภาพสะบักสะบอมร่างกายบอบช้ำมาก ทำงานไม่ไหวเลย เรารู้ฤทธิ์ของมันละ จึงประเมินได้ว่าโควิดจะไม่จบระลอกแรกแน่ๆ เราเลยตัดสินใจถอดร้านถอดสินค้าออกจากเชน คืนพื้นที่ เคลียร์คลังสินค้า รัดเข็มขัดสุดขีวิตเชื่อว่าโควิดมันจะอยู่ไม่ต่ำกว่า 2 ปี ระหว่างนั้นบรรยากาศในกทม.คนตายเยอะมาก รอบตัวหดหู่งานการใดๆ ทำไม่ได้ งานรับจ้างที่ดีล 5-6 ที่ก็ปิดหมดเขาก็ไม่รอดตัดงานเราอีก
เราเลยเอาของที่ออกจากร้านในห้าง มาออนไลน์มันก็พอขายได้แต่ไม่มาก คนประหยัดมากๆ ที่บ้านก็บอกมาว่าเธอป่วยทำไรไม่ได้ กลับบ้านเราเถอะมาอยู่กับครอบครัว มาอยู่ด้วยกัน ใจเราก็คิดว่าอายุเรามากแล้วสะสมของโบราณกะมาทำร้านแต่งร้านที่บ้านนอกใช้ชีวิตเรียบง่าย เราคิดเสมอว่าเรามีบ้านให้กลับ มีครอบครัว เราเคลียร์หนี้สินทั้งเจรจาไถถอนที่ดินครอบครัว จัดการหนี้สินครอบครัวที่เขาสร้างกันเราไม่รู้ด้วยซ้ำเขาเอาเงินไปทำไรกันนักหนา เราก็จัดการจนจบ ทุกอย่างเรียบร้อยเพื่อกลับบ้านไปใช้ชีวิตดูแลพ่อแม่ ทำสวนดอกไม้ขายขนมไปขำๆ ใช้ชีวิตบั้นปลายในวัยอายุมากแล้ว เราตัดสินใจขายทรัพย์สินทุกอย่างในกทม.ทั้งอุปกรณ์ในบริษัท ที่เราทำออฟฟิตในกทม.ขายหมดทุกอย่าง ขายแม้กระทั่งบ้านกลางเมืองของตัวเอง ขายทุกอย่างที่เป็นน้ำพักน้ำแรง ระหว่างรอขายทรัพย์สินฝากดีลให้นายหน้าทั้งหมด เราก็ย้ายกลับบ้าน 2 เดือนผ่านไปทุกอย่างสวยงาม คนที่บ้านก็ดีกะเรา หนี้สินครอบครัวก็จบ หนี้สินตัวเองก็ไม่มีเลยเราจัดการ ทุกอย่างเรียบร้อย พร้อมเริ่มต้นอย่างสวยงาม มีความหวังความฝันเต็มเปี่ยม
หายนะมาถึง ตอนที่นายหน้าบอกว่าขายสมบัติเราที่กทม.ได้แล้วนะ เชิญมาโอนนั่นนี่โน่น เราก็รีบไปจัดการนั่นนี่ หอบเงินก้อนใหญ่กลับมา พอขายบ้านได้เท่านั้นแหละ ธาตุแท้ปรากฏ พี่น้องบอกว่ามีหนี้อีกก้อนที่พวกเขาสร้างไว้ ขอเงินเราไปจ่ายหนี้ เรางงมา อิหยังฟระ แม่ก็มาขอร้อง หนี้สินพี่น้องไม่จบสิ้นมันเกี่ยวอะไรกับเรา ที่ผ่านมาใครสร้างปัญหาเราก็จ่ายมาตลอด ยังบอกมีอีกก้อนใหญ่คืออะไร
หันไปมาเราตัวคนเดียว พี่น้องรุมรวมหัวกันบีบคั้น แม่เราก็ร่วมมือกับพวกเขาด้วย เราไม่ให้มันอาละวาดเอาเงินทุกวัน เราไม่ให้ไปราวีแม่บีบบังคับแม่ให้มาอาละวาดเรา แม่เราทนไม่ไหวมาราวีเอาเงินเราทุกวันเดือนละ 8-9 หมื่น เอาไปให้ลูกๆ หลานๆ เขา พอเราไม่ให้เงินพี่น้องเรามาพังร้านเรา มาพังคลังสินค้าที่มีสินค้ามูลค่าไม่น้อย พากันมาขโมยอุปกรณ์ทำขนมมูลค่าหลายแสนบาทไปหมดเอาไปขายกินทิ้งขว้าง แกล้งตัดทางทำมาหากิน ถ้าไม่ให้เงินไปรื้อคลัง พังร้าน อาละวาดด่าลูกค้าในร้านจนคนไม่เข้าร้าน
แม่มาขอร้องเอาเงินให้มันๆๆๆ เมิงต้องให้มัน แม่เรานี่ละเอาตัวลงมาเล่นเพราะเขารักลูกชายมาก เราจะเอาคนขโมยของเข้าคุกเอาละดราม่านั่นนี่ แม่เอาตัวมาแลกตลอด เงินไหลออกจากกระเป๋าเราซื้อความสงบสุขเดือนละ 7-8 หมื่นมาตลอด 3 ปีที่กลับมา
ถามว่าทำไมไม่หนีไป พอจะหนีจังหวะมันซิทคอมมากๆ คือพ่อเราล้ม สโตก ป่วยติดเตียงนอนแช่อึฉี่ไม่มีใครเอา อยู่บ้านได้ปีนึงเราติดโควิดอีกรอบเป็นโอไมครอน นอนป่วยพะงาบๆ ปอดอีกเสบอีกรอบปางตายแขวนป้ายแดง เข้าระบบรักษาได้ยาต้านไวรัส คนที่บ้านเราดูเป็นห่วงเรามาก เราก็คิดว่าหรือเขารักเราจริงๆ ฟระ ขณะที่เรารักษาตัวป่วยปางตาย เลือกไหลออกปากออกจมูก คนที่บ้านกังวล แต่ไม่ใช่เพราะรักเรา เขากลัวเราตาย ไม่มีใครหาเงินให้ต่างหาก5555
สุดท้ายอานุภาพยาต้านไอ่ฟาวิฯน่ะมันก็ใช้ได้อยู่นะ เรารอดตายอีกครั้งพร้อมอาการลองโควิดที่ยาวนานทรมานมาก ร่างกายกลับมาบอบช้ำหนักกว่ารอบแรกอีก ขณะป่วย คนที่บ้านเราก็ยัง เอาเงินมาๆๆๆๆๆ5555เห็นปะเขารักเราขนาดนี้ ตอนป่วยจากโควิดโอไมครอนเงินเราก็ละลายอย่างรวดเร็ว เราป่วยจากผลกระทบนั้นยาวนาน ไม่มีแรงจะสู้รบละคิดว่าตัวเองคงไม่รอด เลือดออกจมูกตลอด ไม่มีแรงเดินนอนติดเตียง ที่บ้านก็เค้นเอาเงินเราก็เออเอาไป แล้วหยุดโวยวายสักทีฉันเจ็บและเหนื่อยเหลือเกิน
หลายเดือนเราพอจะดีขึ้น กลับมาขายของหาเงิน การอาละวาดรีดไถก็มาเรื่อยๆ พอปี 65 ล่าสุด เราติดโอไมครอนอีกครั้ง เอ้าป่วยต่อค่าาาา โควิดติด 3 รอบ ป่วยสะบักสะบอมระหว่างป่วยล้มเจ็บขาแตกใส่เฝือก คราวนี้ที่บ้านคลั่ง เงินเราหมดละไม่มีให้ เขาก็อาละวาด แม่ด่าเราทุกวันสารพัดสิ่งอะไรก็ไม่รู้เบื่อจะฟัง แต่ด่าให้ตายเงินก็ไม่มีให้จริงๆ บาทสุดท้ายแม่ก็เอาไปให้ลูกๆ เขาหมดแล้ว
แม่เราเริ่มออกไปขายของไปรับจ้าง กลับมาบ่นด่ากรอกหูเรา ว่าเป็นความผิดเราเขาถึงลำบาก เป็นความผิดเราที่ไม่มีเงินให้เขาเอาไปแจกจ่ายลูกๆ ที่เกเรของเขา คำว่าแม่เหนื่อย เขาพูดมาทั้งชีวิต ทำเงินเราไหลออกจากกระเป๋าทั้งชีวิต
แต่ตอนนี้ คำว่าแม่เหนื่อย มันด้านชา ว่างเปล่าในความรู้สึกเรา เหมือนใจเราด้านชากับการที่แม่เราจับตัวเองเป็นตัวประกันแล้ว
พอเอาตัวเองเป็นตัวประกันไม่ได้ผลแม่เราเริ่มเอาพ่อเราที่ป่วยเป็นตัวประกัน เมื่อเราถอดเฝือกหัดเดินและเตรียมหากู้เงินจากเพื่อนฝูงไม่กี่บาท เพื่อจะหนีไปจากบ้านนี้ไปตายเอาดาบหน้า เขาก็บอกแต่ใครจะดูพ่อเมิงๆๆๆ เมิงจะปล่อยพ่อเมิงตายรึ เราตัดใจปล่อยพ่อตายไม่ลง ค่ายาค่าเวชภัณฑ์ต่างๆ พ่อเราก็ต้องจ่าย จ่ายจนบาทสุดท้ายไม่เหลือ ยามนี้เหลือแต่ลมหายใจ ถ้าเราไปพ่อจะติดเชื้อตายในไม่เกิน 2 เดือน เราก็ถูกแม่สนตะพายล่ามโซ่ไว้แบบนี้ แต่ละวันต้องทำงานหาเงินให้เขาเช้ายันดึกหาค่ายาค่าเวชภัณฑ์ แม่ก็มาเค้นเอาไปให้ลูกคนอื่นๆ ขายอะไรได้มาละราวีเอาเงินสิบเงินร้อยเอาหมด ความผิดพลาดในชีวิตเราคือ โง่ เจ็บไม่จำ เราทำธุรกิจร่ำรวยใหญ่โต ตัดสินใจทุกสิ่งไม่เคยผิดพลาด แต่เราดันมาพลาดตกม้าตายในเรื่องโง่ๆกับคนในครอบครัว รึเวรกรรมแต่ปางก่อนจะมีจริง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ครอบครัวสร้างหนี้สินไม่หยุด ยามเรามีเงินเราก็จ่ายๆๆ เราเจ็บไม่จำ ดันโง่กลับมา คิดว่ามีครอบครัวที่รักเราเสมอ
แต่พอคิดทบทวนกลับไป เราถูกหลอกให้ขายบ้านช่องที่ทางตัวเอง เขารวมหัวกันวางแผนตั้งแต่แรก แม่เรานั่นละให้ความร่วมมือ พี่น้องเรามีหนี้สิน หนี้จากความฟุ่มเฟือยของพวกเขา วันๆ เราเห็นพี่น้องกินเที่ยว หว่านเงินในร้านเหล้า แจกเงินผู้หญิง เอาบ้านช่องที่ทางไปจำนองและแม่ก็มาดราม่าเอาเงินเราไปไถ่ เราก็ให้ จนเราไม่เหลือเงินสดให้ใครแล้ว เขารู้ว่าเรามีบ้านกลางเมือกทม.มีคอนโด มีที่ดินมูลค่ามากมาย ตอนนั้นเราไม่มีเงินสดแล้ว มีแต่บ้านที่ดินกับทรัพย์สินบริษัท เขารู้ว่าทางเดียวที่ไถเงินเราได้คือกล่อมให้เราขายบ้านที่ดินคอนโด กล่อมด้วยคำหวานคำดีๆ เราก็โง่ ขายทุกอย่างไม่ยั้งมือเลย สุดท้ายกลายเป็นเสียทั้งบ้านเสียทั้งเงิน เสียทั้งความเชื่อมั่นในชีวิต พังทลายทั้งกายและใจ โลกนี้จะกลัวอะไรจะกลัวใครหลอก
สายเลือดเดียวกันมันยังทำกับเราขนาดนี้ นี่ถ้ามันมาอ่านเจอ เราคงไม่รอดชีวิต เขาจะรวบหัวกันคร่าาาเราหมกร่องรึเปล่า บีบให้เราทำประกันอีกละ นี่คิดจะคร่าาาฉันให้ตุยเอาประกันเชียวรึ อะไรมันจะขนาดนั้น ยามนี้หมดแรงกายแรงใจ หมดเงินทอง หมดความหวัง
มองพ่อที่นอนติดเตียง อยากปล่อยเขาตายไปตามกรรมแต่ทำไม่ลง ไม่รู้จะหนีไปไหน ไม่มีเงิน ไม่มีที่ไป ไม่มีบ้านเหลืออีกแล้ว เอาพ่อไปก็ไม่รอด ทั้งที่อยู่และค่าใช้จ่าย ตอนนี้แม่ก็ดราม่าจะเอาเงินทุกวัน เขาเชือ่มั่นว่าเราต้องซุกซ่อนเงินไว้บ้างแน่ๆ แต่ความจริงมันไม่มีแล้ว เค้นเอาหมดทุกบาททุกสตางแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้ว
จะบอกว่าคนที่ผิดทุกประการคือเราเองเราทำลายชีวิตตัวเอง เจ็บไปเคยจำโง่ปานวัวควายนั่นแหละ ตลอดชีวิตครอบครัวเราเห็นเราเป็นแค่ห่านทองคำ เป็นสินทรัพย์สร้างผลประโยขน์ อยู่ๆ มารักมาห่วงใยหวังดีชวนกลับบ้าน เราดันโง่เชื่อเขา ที่แย่สุดตอนนี้พ่อเราป่วยติดเตียงแต่พี่น้องอาละวาดขายบ้านช่องที่ทางทุกวัน บ้านที่ดินที่ไปไถ่ถอนมานั่นละ นี่ก็งงจะขายกินทุกอย่างจะไปซุกหัวนอนไหน คือมีนบังคับให้เราลากพ่อที่นอนเป็นอัมพาตพะงาบๆ ไปเซ่นขายสมบัติของเขา มันไม่ทำกันเอง มันอายคนมันบังคับราวีให้เราทำ เราไม่ทำนั่งมึนมันก็อาละวาดกันทุกวัน แม่เราก็ร้องโวยวายเงินๆๆๆๆ พ่อเรานอนแช่อึฉี่ นี่คือสภาพที่เราเจอ และไม่มีที่ไป ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเหลือ อุตส่าไม่แต่งงานมีลูกนึกว่าจะสบาย นั่นคือสิ่งที่เราได้รุ้คำตอบในบั้นปลายชีวิต ในวันที่เราแก่ชรา ว่าตัวคนเดียว พี่น้องรังแก พ่อแม่แก่ชรา ไม่สามารถช่วยไรเราได้
สุดท้ายเราทุกคนต้องมีบ้านของตัวเองเป็นเรือนตายที่เป็นของเรา บ้านพ่อแม่ บ้านพี่น้อง บ้านลูกเมีย บ้านสามีภรรยา ไม่ใช่บ้านของเรา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าขายบ้านตัวเอง ไม่ว่าพ่อแม่จะมีสมบัติมีบ้านเกิด มีเงินทอง เราก็ต้องมีบ้านของตัวเอง เพื่อลมหายใจสุดท้ายที่สงบสุข ไม่ว่าจะได้คู่ร่ำรวยมีลูกดี ก็จงมีบ้านของตัวเอง แม้ในวันที่คุณไม่เหลือใครเลยในโลกนี้ คุณจะมีเรือนตายที่อบอุ่นสงบสุข อย่าเชื่อใจใคร วางแผนชีวิต คิดให้ดีๆ ทุกสิ่งทุกคนเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา อย่าไว้ใจใคร นอกจากตัวเอง ตัวเรายามนี้ ไม่ไปไหนไม่ได้ เพราะเดินไม่ได้ 5555 เราต้องนั่งรถเข็นดูแลเช็ดอึฉี่ป้อนยาพ่อ ตอนนี้กำลังหัดเดิน ถ้าเดินได้ก็ไม่รู้นะ อาจตัดใจทิ้งพ่อให้นอนตุยไปตามกรรมแล้วหนีไปจากบ้านนี้ เราก็ไม่รู้หรอกจะทำไงต่อไป แต่ที่แน่ๆ ความผิดพลาดครั้งนี้คือบทเรียนเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล คิดใหม่ทำใหม่
เราต้องเริ่มต้นใหม่จาก 0 ในวัยที่แก่แล้ว ต้องหาเงินซื้อบ้าน ซื้ออะไรใหม่ หนีไปไกลๆ จากครอบครัว ถึงเราจะแก่ โง่ หมดตัว แต่เรายังพอมีความรู้ ความสามารถ อยู่บ้าง ที่จะเริ่มสร้างอะไรใหม่ ถึงมันจะเหนื่อยล้า ช้า และลำบาก คิดในแง่ดี ถ้าเราไม่โง่กลับมา เราจะไม่รู้เลยว่า ความจริงแล้วเราไม่มีบ้านให้กลับ ไม่มีครอบครัวที่รักเรา มีแต่ครอบครัวที่รักเงินเรา นั่นคือบทเรียนที่แลกทุกสิ่งในชีวิต ให้เราได้เห็นความจริง ก่อนที่อะไรๆ จะสายไปกว่านี้
ขอบคุณที่อดทนอ่านจบ และขอโทษคนที่ขี้เกียจอ่าน คุณคงเหนื่อยมากกับการอ่านเรื่องของเรา ปล.คุณอาจสงสัยทำไมเราขยันติดโควิดหลายรอบ ขอบอกเรานี่ละฉีดวัคซีนทุกชนิดครบจ้าาา แต่ไม่รู้ทำไมติดซ้ำๆ ซากๆ ป่วยหนักแขวนป้ายแดงตลอด นี่ก็น่าคิดเนาะกะวัคซีนเนี่ยพอเถอะเลิกฉีด นี่ยังมีอาการข้างเคียงเรื่อง ว.อีกเป็นมหากาพย์ ขี้เกียจเล่า5555
ชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจ "อ่านจนจบเลย สู้ๆ ค่ะ พี่สาวเราก็เคยคิดจะขายทุกอย่าง ไปอยู่กับคนที่ไว้ใจที่สุด เราก็ได้แต่เตือนด้วยความหวังดี ไม่ทันไรก็โดนหักหลัง"
"พาพ่อไปอยู่สถานที่รับดูแลผู้ป่วย ไหนๆจะต้องเสียเงินเดือนละหลายหมื่นบาทให้คนเอาไปถลุงแล้ว เอามาส่งพ่อไปให้คนดูแลดีกว่า จะได้จบปัญหาเรื่องการดูแลพ่อ จขกท. เอง จะได้ออกมาตั้งตัวหาเลี้ยงตัวเอง ส่วนแม่กับพี่ให้เขาหาทางเองตัวรอดเอาเอง"
"เราคิดว่าคุณเก่งนะ สามารถหาเงินเองได้ รีบออกมาจากตรงนั้นแล้วเริ่มต้นใหม่ครับ อย่าให้ใครมาบีบบังคับเราเพราะต้องการผลประโยชน์จากน้ำพักน้ำแรงเรา ยังมีแรงรีบตั้งต้นใหม่พออายุมากขึ้นกำลังจะทดถอยลง เป็นกำลังใจให้ครับ"
"เห็นใจครับ อ่านแล้วเขารักที่เงินมากกว่า ควรหลีกหนีให้ไกล ไม่ต้องสนใจ จากที่อ่านทำมาพอแล้วครับ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี"