- 28 มี.ค. 2566
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง เลขาฯ ปปง. ลุบแจ้งดำเนินคดี "อัจฉริยะ" ข้อหาหมิ่นประมาท ยันไม่รู้จักสารวัตรซัว ไม่เกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์
28 มี.ค.66 ที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เข้าแจ้งความดําเนินคดีนายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์ หลังจากเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ นําเอกสารหลักฐาน เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดฐาน "ฟอกเงิน" ที่กองบังคับการปราบปราม ถ.พหลโยธิน
โดย รอง เลขาฯ ปปง. กล่าวว่า การที่นายอัจฉริยะ ไปแจ้งความดําเนินคดีพร้อมกับพาดพิงตนเองและภรรยาที่กองปราบฯนั้น ทําให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2565 ยอมรับว่าตนเป็นคนแนะนําให้บุคคล 2 คนในภาพที่อัจฉริยะเผยต่อสื่อจริง ซึ่งเค้าอ้างว่าเป็นFCคุณชูวิทย์
ตนจึงแนะนําให้ 2 คนรู้จักกันเพราะอีกคนรู้จักกับคุณชูวิทย์ ส่วนจะไปพูดคุยหรือไปโรงแรมคุณชูวิทย์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ส่วนสารวัตรซัว ตนเองก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่หลายปีก่อนหน้านี้เคยมีคนพาคนชื่อซัวมาไห ว้แต่ไม่รู้ว่าคือซัวเดียวกันหรือไม่ เพราะไม่เคยติดต่อกันหลังจากนั้น
ในส่วนภรรยาตนที่คุณอัจฉริยะ กล่าวหาว่ารับเงินจากเว็บพนันออนไลน์หลายแห่งนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ภรรยาตนทําอาชีพเป็นเซลล์ขายไม้อัด ซึ่งเป็นอาชีพที่สุจริตไม่เกี่ยวข้องการรับเงินดังกล่าวอย่างแน่นอน ในส่วนภาพที่ตนถ่ายรูปคู่กับชายคนหนึ่งร่างท้วม ที่คุณอัจฉริยะอ้างว่าเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์นั้น ยอมรับว่ารู้จักเพราะเป็นลูกของเพื่อน ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.อ่างทอง และมาขอถ่ายรูปตอนตนไปเป็นอาจารย์สอนสถานศึกษาที่เค้าเรียนอยู่ ก็เท่านั้น
โดย รอง เลขาฯ ปปง. กล่าวอีกว่า ตนเองไม่รู้จักคุณชูวิทย์เป็นการส่วนตัว อาจจะเคยพูดบ้างแต่นานแล้ว และยืนยันว่าไม่เคยไปที่โรงแรมเดวิส แม้แต่ครั้งเดียว หากคุณอัจฉริยะมีหลักฐานว่าตนอยู่จริง สามารถนําหลักฐานหรือกล้องวงจรปิดออกมาชี้แจงได้
และขอยํ้าว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องการเคลีย์หน้าเสื่อให้กับเว็บพนันออนไลน์หรือผัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย เพราะตําแหน่งของตนนั้นเป็นสายงานธุรการ ไม่มีอํานาจในการยุดหรืออายัดทรัพย์สินใครทั้งนั้น ซึ่งหากพบว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทําความผิดจริง ยินดีลาออกเพื่อรับผิดชอบทันที
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง เลขาฯ ปปง. เผยว่า วันนี้มาแจ้งความดําเนินคดีแค่คุณอัจฉริยะเพียงคนเดียว ส่วน"ทนายตั้ม" เอาไว้ทีหลัง เตรียมรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดี กับนายษิทรา เบี้ยบังเกิดอีกคน
ซึ่งข้อหาที่แจ้งในวันนี้คือ "หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และกฎหมาย PDPA" พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายจํานวนเงิน 10 ล้านบาท เพื่อนําเงินไปทําบุญล้างซวย