- 29 มี.ค. 2566
สาวโพสต์ประจานพฤติกรรมแม่แท้ๆหลังทนสงสารไม่ไหว ญาติห่างๆพิการติดเตียง แม่ขอรับมาดูแลที่แท้แค่หวังเงินช่วยรายเดือน แต่ให้ชีวิตเหมือนตกนรก
กลายเป็นกรณีที่โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาโพสต์แฉแม่แท้ๆของตัวเอง โดยแม่เธอได้รับดูแลผู้ป่วยติดเตียงพิการครึ่งซีกซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่ เพื่อหวังเงินค่าดูแลจากญาติๆเป็น จำนวน 8,000 บาท แต่ในความจริงแม่ไม่ได้ให้ได้ให้การดูแลผู้ป่วยรายนั้นอย่างแท้จริง เท่านั้นยังไม่พอ แม่ของเธอยังได้กระทำความรุนแรงโดยตบตีศีรษะอยู่บ่อยครั้งและยังให้กินข้าวบูด จนอุจจาระเรี่ยราด เรียกว่าไม่สมเหตุสมผลกับเงินที่ญาติร่วมกันให้เพื่อผู้ป่วยติดเตียงรายนี้ หรืออาจมองได้ว่าแม่ของเธอหวังเพียงเงินเท่านั้น
โดยเธอได้โพสต์ภาพต่างๆ ทั้งสภาพความเป็นอยู่ของผู้ป่วยติดเตียงที่สกปรก จานข้าวที่เต็มไปด้วยมด โดยคนระแวกบ้านนั้นทราบเรื่องกันดี แต่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ อีกทั้งผู้ป่วยติดเตียงรายนี้ยังพยายามที่จะฆ่าตัวตายแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ห้ามไว้ทัน โดยเธอระบุ ข้อความว่า
ไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ใครพูดไม่ฟัง คือแม่ (แม่ ของเจ้าของโพสต์) เอาผู้ป่วยติดเตียงที่เป็นลูกของพี่ลูกน้องมาไว้ที่บ้านเพราะอยากได้เงิน จากทางญาติๆ เดือนละ 8,000 บาท แต่ลับหลังคือตีเค้า ตบกระบาลบ้างไรบ้าง เอาข้าวบูดให้เค้ากินทุกวัน พอ...แตก ก็ด่าก็ว่า มีแต่คนเห็นจนเอือม แต่ช่วยอะไรไม่ได้ มีหน่วยงานไหนช่วยประสานให้ญาติมารับทีเถอะ สงสารเค้า พิการครึ่งซีก แต่พยายามฆ่าตัวตายสองครั้งแล้ว ...เองก็จะประสาทแด.. แล้วๆ ทางญาติก็ทิ้งส่ง ทิ้งขว้าง ไม่สนใจใยดี ทั้งที่รู้เรื่องโพสต์นี้ ...ขอประจาน ไม่มีความเป็นคนเลย
ล่าสุดเธอได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ และเวลา 14.00น จะมีทางหน่อยงาน พม. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั้นคงของมนุษย์ โดยทสง ทีมงาน กันจอมพลัง เป็นคนประสานให้
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบกับนางสาวญา ผู้โพสต์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว แม่ตนเองได้พาผู้ป่วยติดเตียงพิการครึ่งซีกคนหนึ่งมาอาศัยอยู่ที่บ้าน ซึ่งผู้ป่วยติดเตียงคนนี้เป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องของแม่ โดยแม่จะได้รับค่าจ้างเดือนละ 8,000 บาท จากลูกพี่ลูกน้องของแม่ ตลอดระยะเวลาที่แม่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงรายนี้ แม่ได้ทำร้ายร่างกายตบศีรษะ ชกแขน แถมยังนำข้าวบูดมาให้กินอยู่ทุกวัน และวันหนึ่งจะได้กินข้าวแค่มื้อเดียว จนผู้ป่วยติดเตียงรายนี้ทนไม่ไหว พยายามพาตัวเองไปฆ่าตัวตายในคลองน้ำหลังบ้านถึง 2 หน แต่โชคดีมีคนช่วยไว้ทัน และแม่ยังบอกอีกว่า ถ้าหากส่งหนี้ที่จำนำเล่มรถไว้หมด ก็จะทิ้งไม่สนใจผู้ป่วยติดเตียงผู้นี้แล้ว
ตนเองอยากให้ญาติพี่น้องของผู้ป่วยรายนี้มารับไปดูแลเอง รวมถึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ตนเองสุดทนพฤติกรรมของแม่แล้ว ตนและคนอื่นพยายามบอกแม่แล้ว ว่าอย่าทำร้ายเขา สงสารเขา แต่แม่ก็ไม่ฟัง ยืนยันว่าที่ตนเองออกมาเปิดเผยข้อมูล ไม่ใช่เพราะความขัดแย้งที่ตนเองมีกับแม่มาโดยตลอดแต่เพราะเป็นการอยากจะช่วยเหลือคนที่ป่วยจริงๆ
ด้าน นางแพรว อายุ 49 ปี แม่ของผู้โพสต์ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งได้เปิดเผยว่า ตนเองรับจ้างดูแลผู้ป่วยที่ลูกของป้า มีอาการเส้นเลือดในสมองแตกจนเป็นอัมพาตครึ่งซีก ลูกของป้าได้เดือนละ 6000 บาท ซึ่งตนเองจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเรื่องกินส่วนเรื่องของใช้ เช่น แพมเพิสญาติของผู้ป่วยก็จะนำมาเอง ซึ่งผู้ป่วยก็สามารถช่วยตัวเองได้บ้างแต่ไม่สามารถพูดได้ ที่ผ่านมาตนเองก็ดูแลอย่างดีทำอาหารให้กินทั้งไข่ต้มและเป็นอาหารที่ทำปรุงสุกใหม่ไม่ใช่ข้าวเสียอย่างที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับยืนยันว่าไม่เคยตบตี
ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถาม นาย สำราญ ดวงดี ประธานชุมชน ที่อยู่ใกล้กับบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่าที่ผ่านมาตนเองเห็นพฤติกรรมหลายครั้งของผู้เป็นแม่ที่ลูกออกมาเปิดเผยข้อมูลยอมรับว่าเป็นไปตามที่ลูกสาวออกมาโพสต์ทุกอย่าง ซึ่งตนเองเคยเห็นและได้ยินเสียงแม่ที่ดูแลผู้ป่วยได้มีการขับไล่ให้ผู้ป่วยออกจากบ้านหลายครั้ง ซึ่งจริงแล้วไม่สามารถทำได้เพราะว่าเป็นคนที่รับค่าจ้างเข้ามาดูแล นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่บ้านเพียงลำพัง หลายครั้งและเคยคิดฆ่าตัวตายจนมีคนเข้าช่วยเหลือมาแล้ว ส่วนสาเหตุปัญหามาจากเรื่องของทางครอบครัวของบ้าน ซึ่งผู้เป็นแม่ที่ดูแลคนป่วยก็เป็นโรคมะเร็งและรายได้ภายในครอบครัวก็ไม่เพียงพอจึงมีปากเสียงกับลูกอยู่เป็นประจำ จึงอยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผู้ป่วยไปดูแลให้อยู่ในคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้หรือหากญาติของผู้ป่วยทราบพฤติกรรมแล้วควรที่จะมารับผู้ป่วยไปดูแลเองหรือไปจ้างผู้ที่ดูแลให้ดีกว่านี้
ล่าสุด ในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางมานำตัวผู้ป่วยไปดูแลรักษาต่อที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยทางแม่ของผู้โพสต์ร่วมกับญาติฝ่ายของผู้ป่วยเป็นผู้ติดต่อให้มารับ