- 09 พ.ค. 2566
ลูกศิษย์ เผยนิสัย "อดีตพระอาจารย์คม อภิวโร" สมีคม อมเงินวัด พร้อมสาเหตุทำคนศรัทธา จนยอมถวายเงิน ถวายทองให้มากมาย
จากคดียักยอกเงินทำบุญวัด นำมาซึ่งการจับกุม "นายคม คงแก้ว" หรือ "อดีตพระอาจารย์คม อภิวโร" อดีตประธานฝ่ายสงฆ์วัดป่าธรรมคีรี พร้อม "นายวุฒิมา" หรือ "พระหมอ" เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ "น.ส.จุฑาทิพย์ ภูบดีวโรชุพันธุ์" น้องสาวของนายคม 3 ผู้ต้องหาในคดียักยอกเงิน วัดป่าธรรมคีรี
ภายหลังการจับกุมทางเจ้าหน้าพยายามที่จะค้นหาหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม เบื้องต้นพบผู้ต้องหามีการซุกซ่อนเงินของกลางไว้ที่บัญชีน้องสาวของนายคม รวมทั้งเงินสดที่บรรจุในกระเป๋าไว้เป็นอย่างดี รวมๆ แล้วกว่า 180 ล้านบาท อีกทั้งมีการขยายผล จนพบทองคำ-เงินสด ขุดฝังไว้บนเขาบริเวณหลังวัดอีกจำนวนมาก
โดยในรายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 8 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ด้านพิธีกร "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ได้สัมภาษณ์ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบ มาพร้อม อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา
ตอนนี้จับแล้วกี่คน?
พล.ต.ต.มนตรี : 3 คนครับ คืออดีตพระคม พระหมอ และน้องสาว
อ.จตุรงค์ เคยลงข้อความพระคมเอาไว้ก่อนหน้าโดนจับ เหมือนท่านเป็นนอสตราดามุส?
จตุรงค์ : แค่สงสัยเฉยๆ
อาจารย์ชี้เป้าหรือเปล่า?
จตุรงค์ : ไม่ได้ชี้เป้า ผมแค่ล่อซื้อว่าเกิดอะไรขึ้น
ยอมรับว่าล่อซื้อจริง?
จตุรงค์ : ล่อซื้อจากบรรดาแฟนเพจ ตอนนั้นตร.ยังไม่ได้แถลงข่าวทั้งสอบสวนกลางและกองปราบปราม ไม่มีใครแถลงข่าว แต่บังเอิญมีความสงสัยคือท่านไปงานศพหลวงปู่เหลือง เกจิท่านนึง แล้วท่านหายตัวไป มาตามกันว่าหายไปไหนวะ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ถามในเฟซบุ๊กว่าใครเห็นพระคมบ้าง แล้วมีคนบอกว่าสึก ผมก็ต้องแก้ข้อความใหม่ก็ถามว่าพระคมสึกจริงเหรอ แล้วสักพักมีคนมาบอกว่าท่านถูกจับให้สึก ผมก็แก้ข้อความอีก เฮ้ย พระคมสึกจริงดิ ใครมีข้อความก็ส่งมาหน่อยนะ นั่นแหละก็เริ่มมีคนถาโถมข้อความเข้ามาในเฟซบุ๊ก จุดเริ่มคือตรงนี้ไม่ใช่มีประเด็นอะไร จริงๆ ท่านหายตัวไปก่อนหน้าผมโพสต์ 3 วัน
แฟนคลับนะ ตามตลอด?
จตุรงค์ : เราแค่สงสัยว่าสึกจริงเหรอ
พระคมเป็นใคร?
จุตรงค์ : ท่านคือความหวังของธรรมยุติกนิกาย เพราะท่านมีศรัทธาไทยมาก ศรัทธาไทยมีหลายระดับ เช่นตั้งแต่ประชาชนคนรากหญ้า จนถึงระดับไฮโซไฮซ้อเจ้าของกิจการใหญ่ๆ จนถึงระดับข้าราชการผู้ใหญ่ จนถึงระดับองคมนตรีบางท่านก็มี ไปขึ้นที่วัดป่า เราก็ต้องยอมรับความจริงว่าท่านคือความหวังธรรมยุต ธรรมยุตเราเหี่ยวเฉามานาน เราไม่มีพระคุณภาพที่จะสามารถเผยแพร่นิกายของเราได้อย่างดี ท่านคมมาปุ๊บ โห อยู่ๆ ได้รับการโปรดเกล้าจากพระเจ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมตตาอีก เมตตาให้โปรดเกล้าฯ จากพระธรรมดา ให้เป็นเจ้าคุณชั้นสามัญอีก ก็เป็นดาวรุ่ง
ท่านเองเป็นผู้ก่อสร้างวัดป่าธรรมคีรี?
จตุรงค์ : ต้องเท้าความประวัติท่านแบบนี้ก่อน ท่านเป็นเด็กวนศาสตร์ เกษตร แต่ไม่แน่ใจว่าท่านจบหรือไม่จบ เสร็จแล้วท่านก็มาบวชที่จังหวัดราชบุรี ตัดสินใจมาฝึกวิชาสายหลวงตามหาบัว จนได้วิชากรรมฐานแบบหลวงตามหาบัว แล้วเลยมาเปิดสำนักนี้ที่ปากช่อง จริงๆ วัดนี้ถ้าเข้าใจไม่ผิด ถูกสร้างเพื่ออุทิศให้หลวงตามหาบัว กับน้องสาวหลวงตามหาบัวด้วยซ้ำ จริงๆ วัตถุประสงค์เดิมเป็นแบบนี้
พระหมอล่ะ?
จตุรงค์ : พระหมอผมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว รู้อีกทีแกเป็นเจ้าอาวาสตามกฎหมายไปแล้ว สังคมยังไม่เข้าใจว่าท่านคมคือเจ้าอาวาส ไม่ใช่นะ หลายๆ วัดในประเทศไทย คนเป็นพระสำคัญไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเจ้าอาวาส อย่างสมัยพุทธอิสระ เป็นพระ ท่านก็ไม่เคยเป็นเจ้าอาวาส มีพระอีกรูปเป็นเจ้าอาวาส
ในสำนักสงฆ์วัดป่าธรรมคีรี เจ้าอาวาสหรือประธานสงฆ์ ใครใหญ่กว่ากัน?
จตุรงค์ : ถ้าถามผมประธานสงฆ์ใหญ่กว่า เพราะเป็นผู้หาเงิน จริงๆ มันไม่มีหรอกตำแหน่งนี้ แต่ประธานสงฆ์มาได้คืออำนาจ เป็นผู้หาเงินมา เจ้าอาวาสอาจหาเงินไม่เก่งเท่าประธานสงฆ์
ทำไมไม่ให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสซะเลย ทำไมต้องมีเจ้าอาวาสและประธานสงฆ์?
จตุรงค์ : มันเป็นเรื่องการบริหารภายใน ถามว่ามีทุกวัดมั้ย ก็เยอะแยะไป
ตามหลักตำแหน่งนี้ไม่มี?
จตุรงค์ : โดยหลักเจ้าอาวาสเป็นประธานสงฆ์นั่นแหละ จะมีส่วนน้อยที่เป็นแบบนี้
แล้วเขาแยกเพื่ออะไร?
จตุรงค์ : บางทีเจ้าอาวาสอาจไม่เก่งหาเงิน หรือไม่เก่งในการดีลกับพระสังฆาธิการ อาจไม่เก่งกับการดีลกับเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เลยมีตำแหน่งประธานสงฆ์งอกมาอีกอัน เพราะเขาดีลกับรัฐได้เก่งกว่า หาเงินเข้าวัดได้ดีกว่า เป็นต้น มันเลยมีตำแหน่งใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่ถามว่าเป็นตำแหน่งตามกฎหมายมั้ย ไม่ใช่ แต่เจ้าอาวาสที่ถูกท่านคุมตัวไป เป็นตำแหน่งตามกฎหมาย ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องเงินหาย เพราะเขาถือว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐชนิดนึงกับการเป็นเจ้าอาวาส
คำว่าเงินที่เอาไป เป็นเงินส่วนไหน เงินวัด หรือเงินบริจาค?
พล.ต.ต.มนตรี : จริงๆ เงินวัดมาจากหลายทาง วัดมีบัญชีหลักๆ อยู่ 6 บัญชี เช่นท่านจะสร้างเจดีย์ บริจาคทั่วไปเกี่ยวกับสร้างโน่นสร้างนี่ท่านก็เปิดไว้ ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาก็บริจาค พอบริจาคเสร็จ ในกระบวนการทำผิดของคดีนี้คือทางพระคมเขาก็จะให้พระหมอมีการเบิกถอนเงินจากบัญชีวัด รวบรวมไว้เป็นก้อนใหญ่ๆ ให้น้องสาว
เริ่มเรื่องที่มาที่ไป ทำไมถึงไปรู้ว่าพระคมอมเงินวัด?
พล.ต.ต.มนตรี : เรื่องนี้สืบเนื่องจากสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ มีการประสานมายังกองบังคับการปราบปราม ให้ทำการสืบสวนในทางลับเกี่ยวกับพฤติกรรมพระรูปนี้ ว่ามีพฤติกรรมในเรื่องการเสพเมถุน และเรื่องการใช้จ่ายบริหารเงินในวัด เราก็ตั้งทีมขึ้นมาสืบสวน จนเป็นที่มาของการเปิดในคดีนี้
ท่านเข้าไปตรวจสอบตรงไหนก่อน เงินหรือเสพเมถุน?
พล.ต.ต.มนตรี : จริงๆ อำนาจหน้าที่ของเรา เราเน้นเรื่องการทำผิดทางอาญา คือเรื่องเงิน แต่พอสืบสวนขยายผลไป พบพฤติการณ์เรื่องนี้ด้วย ก็เลยมีการดำเนินคดีอาญา เรื่องรสนิยมทางเพศก็เป็นเรื่องวินัยสงฆ์ไปครับ
ในมุมอดีตพระคม ให้อดีตพระหมอถอนเงินออกมาจากวัด พอถอนเงินออกมาก็เอาเงินไปให้น้องสาวอดีตพระคม พอไปตรวจสอบที่บ้านเจอเงินเท่าไหร่?
พล.ต.ต.มนตรี : 51 ล้านบาทเศษครับ อยู่ในกระเป๋าเดินทางบ้าง กล่องโฟมบ้างครับ
ตอนผู้การไปตรวจสอบ เขาตกใจมั้ย?
พล.ต.ต.มนตรี : เขาตกใจเป็นเรื่องปกติ ตอนแรกเราเชิญเขามาสอบปากคำก่อน เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงิน 51 ล้านเลย แต่เรามีความสงสัยเพราะจากการซักถามเขาไม่ได้พูดถึงเงินยอดนี้เลย แต่เราพบความผิดปกติ เพราะเงินของวัดไปอยู่ในบัญชีน้องสาวก็ 100 กว่าล้านแล้ว เราก็เชื่อว่าน่าจะมีเงินส่วนอื่นอยู่อีก ก็เป็นที่มาของการไปตรวจค้นที่พัก และเจอเงิน 51 ล้านเศษ
พอถามเขาบอกเป็นเงินใคร?
พล.ต.ต.มนตรี : เขายอมรับว่าเป็นเงินวัดนี่แหละครับ พี่ชายให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้จ่าย เขาอ้างว่าใช้เพื่อประโยชน์ของวัด เพื่อก่อสร้างพระเจดีย์บ้าง อะไรบ้าง แล้วไม่เชื่อมั่นคนอื่น เพราะก่อนหน้านี้วัดมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้วทุจริต เขาเลยไม่ไว้ใจใคร ไว้ใจน้องสาวคนเดียว แต่โดยการรวบรวมหลักฐานของเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะเรื่องการก่อสร้างเจดีย์เราทราบว่าเป็นงวดสุดท้ายแล้ว ก็เหลือ 30 กว่าล้าน การเบิกจ่ายเงินจริงๆ ทางช่างกับพระหมอมีการไปเบิกหน้าเคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงินค่าก่อสร้างอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับน้องสาว เท่าที่เราตรวจสอบ เราเลยเชื่อมั่นว่าในสิ่งที่เขากล่าวอ้างไม่น่าฟังได้
ตามหลักแล้วเจ้าอาวาสมีสิทธิ์ถอนเงินออกมาเป็นก้อนแบบนี้ และฝากไว้ที่ฆราวาสคนใดคนหนึ่งมั้ย?
จตุรงค์ : ไม่ได้ ถ้าได้คดีเงินทอนวัดก็สำราญสิครับ ทุกวันนี้คดีเงินทอนวัดที่ผ่านมาจุดตัดรอดไม่รอด ให้ทายจุดตัดอยู่ตรงไหน เวลาศาลพิจารณาคือเส้นทางการเงินและเงินในบัญชีมันนอนอยู่ที่ไหน ถ้าเงินนอนอยู่ในบัญชีวัด รอด ศาลยกหมด แต่ในทางกลับกัน เงินอยู่ในบัญชีคนอื่นจะกลายเป็นการฟอกเงินทันที ศาลตีฟอกเงินเลย
แต่เขาอ้างว่าเก็บให้พระพี่ชายเพราะไม่ไว้ใจคนอื่น เอาเงินไปสร้างเจดีย์ เอาเงินไปจ่าย?
จตุรงค์ : อย่างน้อยหยวนสุดก็ควรเป็นชื่อบัญชีส่วนตัวท่านคม นั่นคือหยวนที่สุดแล้วนะ ในนามพระคมด้วยนะ ไม่ใช่นายคม เพื่ออะไร เพื่อก่อสร้าง เพื่อนั่นเพื่อนี่ แต่การที่เอาไปให้น้องสาวสำหรับผมฟังไม่ขึ้น คุณจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาในสมัยยุค คสช. เราก็กรวดล้างคดีเงินทอนพระ จับเข้าคุกกันเกรียวกราว คุณจะมาบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ ตัวอย่างมีอยู่ การที่เอามาไว้ในนามน้องสาว เข้าข่ายแปลงสภาพทรัพย์ ตามความรู้สึกของผม
นี่พูดถึงเงินสดก่อน นอกเหนือจากนั้นไปเจออีก 130 ล้าน อยู่ที่ไหน?
พล.ต.ต.มนตรี : ไปเจออยู่ในบัญชีน้องสาว เขาก็อ้างหลักการเดียวกันเพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายเงิน เขาไม่ไว้ใจใคร เขาอ้างว่าไว้ใจแต่น้องสาว ผมเรียนเพิ่มเติมนิดนึง จริงๆ วัดมีบัญชีที่เปิดไว้เพื่อก่อสร้างเจดีย์อยู่แล้ว ก็ชัดเจนอยู่แล้ว มาอ้างก็ไม่มีเหตุผลครับ
เจดีย์เหลือ 38 ล้าน แต่ทำไมมีเงินในบัญชี 182 ล้านกว่า พระคมประธานสงฆ์ มีความสัมพันธ์ กับพระหมอ เจ้าอาวาส แล้วแตกแขนง มีสัมพันธ์กับพระบี พระซี นายดี ความสัมพันธ์คืออะไรเหรอ?
จตุรงค์ : อาจมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งบางอย่าง ซึ่งผมคงไม่อธิบายได้ หรือผมอธิบายได้ (หัวเราะ)
ลึกซึ้งอะไรครับ?
พล.ต.ต.มนตรี : ก็มีรสนิยมทางเพศที่ชอบเพศเดียวกัน และมีการกระทำที่เข้าข่ายเสพเมถุน
LGBTQ ไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่พระคมผิดคือไปเสพเมถุนขณะที่ครองผ้าเหลือง มีเรื่องกฎคณะสงฆ์อยู่แล้ว แบบนี้ปาราชิก?
จตุรงค์ : จริงๆ ดับเบิ้ลปาราชิกด้วยซ้ำ ปาราชิกจากเงินที่เคลื่อนย้ายออกไป และปาราชิกจากการมีเพศสัมพันธ์ นี่ดับเบิ้ลปาราชิก กลับมาเป็นพระไม่ได้แล้ว
ล่าสุดไปขุดดินหลังบ้านเจอทอง 19 ล้าน?
พล.ต.ต.มนตรี : เรื่องนี้หลังเกิดเหตุในคดีนี้ เราก็ยังคงอยู่ในพื้นที่สืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อว่ายังมีทรัพย์สินของวัดที่มีการเบียดบังเอาไปอีก ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาเลยทำการสืบสวนขยายผลไป จนล่าสุดมีการตรวจค้นพบทองคำมูลค่ากว่า 19 - 20 ล้านบาท แล้วก็เงินสดอีก 80 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่ตรวจเจอล่าสุด 2 พันกว่ารายการ ตอนนี้ทำรายการข้อมูลกันอยู่ เราตรวจค้นพบว่านำไปฝังอยู่ที่เขาหลังวัด ที่น่าสังเกตคือบางส่วนก็เอาห่อไว้ในจีวร บางส่วนก็ใส่ถุงดำฝังไว
ทองเป็นทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ?
พล.ต.ต.มนตรี : มีทุกอย่าง ทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณด้วย
ทองพวกนี้น่าจะเป็นทองที่ลูกศิษย์ลูกหามาที่วัดป่าเอาไปสมทบสร้างโบสถ์วิหารเจดีย์ ท่านคงไม่ไปซื้อทองมาเอง คงเป็นเงินที่คนเอาทองไปถวายแล้วเอาไปฝังแบบนี้ เจตนาแปลกๆ ท่านรู้ได้ไงว่าทองอยู่จุดนั้น?
พล.ต.ต.มนตรี : เดิมจากการสอบสวน เราได้ฟังจากพระหมอว่ามีการนำเงิน เบิกเงิน 9 ล้านบาทจากบัญชีวัดไปซื้อทองที่เยาวราช มาเก็บไว้ในตู้เซฟ ส่วนกุฏิพระหมอ พอเราตรวจสอบตรงนั้นปรากฏว่าหายไป เราก็เรียกเชิญพระที่เกี่ยวข้องหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน
พระหมอซื้อทองมาด้วย และมีส่วนที่ทำบุญด้วย?
พล.ต.ต.มนตรี : มูลเหตุจากตรงนั้นก่อน คือเอาเงินวัด 9 ล้านไปซื้อทองก่อน พอเราไปเปิดดูกลับไม่มีทอง พอไม่มีก็ชัดเจนว่ามีการยักย้ายถ่ายเท ก็เชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน ตอนนี้ก็รับสารภาพ นำไปชี้จุดก็เลยเจอ จริงๆ ก็เป็นทองที่ประชาชนทำบุญด้วย ประมาณ 2 พันกว่ารายการ ตอนนี้กำลังตรวจนับ มีทั้งทอง เงินสด พระ มีหลากหลายครับ ตอนนี้กำลังตรวจนับกันอยู่
จตุรงค์ : เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขาหน่อย พระมีทองเยอะๆ ก็ไม่แปลกหรอก เพราะเขาก็ประกาศอยู่จะทำทองหล่อพระ ทำทองหุ้มเจดีย์ เขาเก็บไว้เยอะๆ ไม่แปลก แต่การเอาออกจากเซฟไปขุดดินฝังเนี่ยแปลก เพราะถ้าเงินอยู่ในบัญชี ทองอยู่ในที่ควรอยู่ ไปขึ้นศาล ศาลจะยกให้ แต่พอของไม่ควรอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ มันจะตีความไปอีกอย่างทันที
เขาอ้างได้มั้ยว่าเป็นทองเอามาหล่อหุ้มเจดีย์ แต่กลัวคนขโมย เลยเอาออกจากเซฟไปฝังดินดีกว่า บอกแบบนี้ได้มั้ย?
พล.ต.ต.มนตรี : บอกได้ครับ แต่ความน่าเชื่อถือการรับฟังพยานหลักฐานฟังได้หรือเปล่า เพราะไม่มีเหตุผล เพราะส่วนของรักษาการเจ้าอาวาสมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินอยู่แล้ว มีความชัดเจนอยู่แล้วจะมีคณะกรรมการมาตรวจสอบ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องยักย้ายถ่ายเทหรือซ่อนเร้น จากการที่เราตรวจสอบครับ
ที่มัดเป็นปึกๆ เชื่อว่าเป็นเงินจากการทำบุญใส่ซอง ตอนนี้อยู่ในสายกับลูกศิษย์อดีตพระคม "คุณเอ" ณ วันนี้ทราบข่าวตกใจมั้ย?
เอ : ตกใจมากครับ
เป็นลูกศิษย์ถึงขั้นไหน?
เอ : ไปวัดป่าตั้งแต่วันที่ยังไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้าเลยครับ ใช้เทียนในการเดินตอนกลางคืน ก็เห็นความเป็นวัดป่าตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันครับ
เรื่องราวที่เกิดขึ้น ความสงสัยตั้งแต่แรกๆ คุณเอไม่สงสัยเลย?
เอ : ผมไปวัดป่าปฏิบัติเคร่งครัด และเรื่องเงินผมไม่เคยไปเกี่ยวข้อง ไม่เคยไปก้าวล่วงครับ
ธรรมดาแล้วพระคมเป็นพระที่ดีมั้ย?
เอ : เป็นพระที่เมตตาสูงมากครับ ท่านจะจำชื่อโยมได้ เวลาลูกศิษย์ลูกหาเข้าไปท่านจะเมตตา
พระหมอล่ะ?
เอ : พระหมอก็เหมือนกันครับ ทั้งสองท่านมีเมตตาสูงครับ
คุณเอทราบมั้ยสองรูปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน?
เอ : ผมไม่ทราบเลยครับ ส่วนตัวผม ผมมองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำ
แต่วันนี้เขายอมรับสารภาพแล้ว?
เอ : ครับ ภายนอกผมดูไม่ออกจริงๆ สิบกว่าปีที่ผมไปวัดมา ผมดูไม่ออกครับ
ณ วันนี้ยังศรัทธาอยู่มั้ย?
เอ : ยังศรัทธาวัดอยู่ครับ เพราะผมไปสถานที่ตั้งแต่พื้นที่ไม่ถึง 1 ไร่ นิดเดียว ไม่มีกุฏิ พระทุกองค์จำวัดบนแคร่ไม้ วันไหนฝนตกพายุเข้าก็เปียกกันหมดเลย ไม่มีหลังคาบังเลยครับ
เพราะอะไรที่นี่ถึงมีคนไปกันเยอะ จากข้อมูลที่ได้มา ส่วนใหญ่เขาบอกว่าคนขึ้นที่นี่ คือคุณหญิงคุณนาย มียศมีตำแหน่ง ดารานักแสดงทั้งหลายก็ไปที่นี่?
เอ : ผมก็ทราบครับ
ที่นี่มีอภินิหารหรือท่านสอนดี?
เอ : สำหรับผม เป็นที่สถานที่นะครับ เหมือนเป็นวัดนึงที่รู้สึกว่าเป็นวัดจริง วัดแท้ วัดใจคนไปด้วย ถ้าคุณจะไปปฏิบัติก็วัดใจคุณแล้วว่าคุณจะละทิ้งภายนอกได้มั้ย ด้วยสถานที่ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์ ผมมองแบบนี้
จากที่มองดูเหมือนบ้านตากอากาศ?
เอ : อันนี้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ถ้าเป็นเวอร์ชั่นแรกต้องใช้เทียนขึ้นภูเขา ไม่มีไฟ ไม่มีน้ำประปาเลย
ท่านพัฒนาจากที่ใช้เทียน นั่งอยู่บนแคร่ หลังคาเก่าๆ ท่านก็พัฒนาให้เป็นเหมือนรีสอร์ต ถ้าถามในมุมท่านคมเองคงเลิกศรัทธา?
เอ : ส่วนตัวผม ผมก็มองว่าถ้าคดีตัดสินถึงที่สุดก็ต้องยอมรับผลแห่งกรรม ไม่มีใครละกรรมของตัวเองได้ ไม่มีใครหนีได้
มีคำสอนที่ท่านสอนคุณมั้ย?
เอ : เราก็บ้า เขาก็บ้าอย่าไปถือสาระกับคนบ้า (หัวเราะ)
อยากฝาอกบอกอะไรพระคม พระหมอ พระที่คุณเคยศรัทธา?
เอ : ขอให้พระคุ้มครองแล้วกันครับ (หัวเราะ)