- 24 พ.ค. 2566
บอสตาล ประธานสโมสรฟุตบอล"ลำพูน วอริเออร์" เข้าให้ปากคำดีเอสไอ เปิดใจปมส่อเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ หลังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยง
วันที่ 24 พ.ค.66 จากกรณี บอสตาล ประธานสโมสรดังในไทยลีก ส่อเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ ล่าสุดทาง 2 พี่น้องประธานสโมสรฟุตบอล คือ นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก หรือ บอสตาล ประธานสโมสรฟุตบอล ลำพูน วอริเออร์ และ นายศิริพงษ์ ฐาราชวงศ์ศึก หรือ บอสต้น ประธานสโมสร พิษณุโลกเอฟซี เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน
จากคดีพิเศษที่ 60/2563 (เลขคดีเดิม) หรือ คดีพิเศษที่ 8/2566 (เลขคดีปัจจุบัน) เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเว็บพนันและการฟอกเงิน เนื่องจากพบว่าทั้งคู่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงทางเส้นทางการเงินกับ น.ส.ชบา ปะตะทะกัง บุคคลผู้เป็นบัญชีม้าหลักให้กับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
โดย นายพงษธร อินอำนวย ผอ.กองคดียาเสพติด กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นการเรียกสองพี่น้องประธานสโมสรฟุตบอลมาสอบปากคำในนะพยาน รวมถึงบุคคลอื่นๆอีก 6 ราย โดยทั้งหมดล้วนเคยเป็นผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 60/2563 หรือ ที่เรียกกันว่าคดีชบามาก่อน แต่ในตอนนั้นอัยการไม่สั่งฟ้อง จึงทำให้ทุกคนไม่ถูกแจ้งข้อหา ปัจจุบันตนจึงรับหน้าที่ดำเนินการต่อแทน ภายใต้เลขคดีใหม่ คดีพิเศษที่ 8/2566 เพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่พัวพันเชื่อมโยงกับ น.ส.ชบา และความเกี่ยวข้องในเรื่องเว็บพนันออนไลน์
เนื่องจากไม่เชื่อว่าเงินหมุนเวียนที่ไปเชื่อมโยงกับเครือข่ายชบารวมถึงทรัพย์สินของผู้ต้องหาในขณะนั้น จะมาจากการกระทำผิดเรื่องยาเสพติดเพียงอย่างเดียว จึงจะดำเนินการสืบสวนขยายผลการกระทำผิดส่วนอื่น โดยเฉพาะความผิดเรื่องพนันออนไลน์ อีกทั้งหนึ่งในพยานขณะนั้น คือ ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช พงค์ภิภัทราภาคิน เคยให้การยอมรับในตอนนั้นว่าตัวเองเป็นเอเย่นต์เว็บพนันออนไลน์ แต่กลับไม่มีการดำเนินคดี ทำให้ดีเอสไอต้องเปลี่ยนชุดทำคดี ตั้งเป็นคดีใหม่และเริ่มการสอบสวนใหม่ทั้งหมด
นายพงษธร กล่าวอีกว่า สรุปแล้วมีบุคคลจำนวน 6 ราย ได้เข้ามาให้การในฐานะพยาน ประกอบด้วย
1.นายดำริ สุปัญโญ
2.น.ส.ชบา ปะตะทะกัง
3.นายกรกฏ พลพาณุมาศ
4.บอสตาล นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ปธ.ลำพูน วอริเออร์
5.นายกันต์ชนก ลิ้มจริยากุล
6.บอสต้น นายศิริพงษ์ ฐาราชวงศ์ศึก ประธานสโมสร พิษณุโลก เอฟซี
ส่วนนายนิรันดร์ เอมสวรรค์ ไม่ได้เข้าให้ปากคำในวันนี้เนื่องจากเจ้าตัวได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว และวันนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับบุคคลใด ซึ่งเบื้องต้นก่อนการสอบปากคำนั้น สองพี่น้องประธานสโมสร ทั้งคู่ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ส่วนของเว็บพนันออนไลน์ ยังไม่ขอให้รายละเอียด ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำในทุกประเด็น โดยเฉพาะที่มาของทรัพย์สินกว่า 2,000-3,000 ล้านบาทของทั้งสองคน ที่ต้องชี้แจงให้ได้
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนในคดีนี้ ดีเอสไอไม่ได้ตั้งธงเพียงประเด็นใดประเด็นหนึ่ง หากการสอบสวนหรือพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงความผิดใดๆ ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคดีพนันออนไลน์ การฟอกเงิน คดียาเสพติด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการตรวจสอบภาษี หากไม่สามารถตอบหรือชี้แจงได้ ก็พร้อมส่งเรื่องไปให้กรมสรรพากรตรวจสอบอีกด้วย
ส่วนกรณีที่วานนี้ตำรวจ PCT เข้าค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ TS911.com และหนึ่งในนั้นคือบ้านของนายพงษ์ศิริ หรือ บอสตาล ทางดีเอสไอก็จะต้องมีการประสานข้อมูลกับตำรวจ PCT เพื่อดูว่ามีเว็บพนันอื่นใดอีกบ้างที่ตำรวจ PCT อยู่ระหว่างดำเนินการ เพราะเว็บไซต์ TS911.com ดังกล่าว ก็เป็นหนึ่งในเว็บเครือข่ายพนันออนไลน์ที่ดีเอสไอกำลังสืบสวนเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ นายพงษธร เผยด้วยว่า ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนสอบปากคำสองพี่น้องเสร็จสิ้น ขั้นตอนถัดไปจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานและคำให้การทั้งของวันนี้และคำให้การเมื่อปี 2563 เพื่อพิจารณาในคำให้การ ก่อนคณะพนักงานสอบสวนจะร่วมกันประชุมเพื่อมีมติสรุปว่าพยานหลักฐานทั้งหมดนั้นมีความเพียงพอให้แจ้งข้อกล่าวใดกับบุคคลใดบ้างหรือไม่
ต่อมาเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสอบปากคำนั้น สองพี่น้องประธานสโมสรฟุตบอลได้ออกมาเข้าห้องน้ำ โดย บอสตาล ได้ยืนยันว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องใดๆกับยาเสพติด และเว็บไซต์พนันออนไลน์
แต่ทั้งนี้ทาง บอสตาล ยอมรับว่ามีเส้นทางการเงินบางส่วนไปเกี่ยวพันกับบัญชีธนาคารของ น.ส.ชบา เนื่องจากมีการรับฝาก-โอนเงินกัน แต่ตนไม่ได้รู้จักกับ น.ส.ชบา
เมื่อถามถึงรายละเอียดการรับฝากโอนเงินนั้นเกี่ยวข้องกับเว็บพนันหรือไม่ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง และเมื่อถามถึงเรื่องคดีพิเศษที่ 60/2563 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง
เนื่องจากในขณะนั้นอัยการได้สั่งไม่ฟ้องในทุกข้อกล่าวหาทั้งเว็บพนันออนไลน์ ฟอกเงินและยาเสพติด เจ้าตัวระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องเลย ส่วนกรณีที่ตำรวจ PCT เข้าตรวจค้นบ้านตนเอง ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใดๆ และตนพร้อมจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด ขณะที่"บอสต้น"ศิริพงษ์ ฐาราชวงศ์ศึก ประธานสโมสรพิษณุโลกเอฟซี ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด