- 31 พ.ค. 2566
เจ้าของผลิตภัณฑ์กลูต้า พร้อมทนายเดชา เตรียมฟ้องกลับ 2 เรียกค่าเสียหาย 50ล้านบาท แม่ลูกสอบติด "เภสัช" อ้างกินผลิตภัณฑ์ แล้วตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด ทำให้บริษัทเสียหาย
สืบเนื่องมาจากก่อนนี้ ว่าที่นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งคาดว่าสารเสพติดดังกล่าวอาจจะมาจากผลิตภัณฑ์กลูต้าชื่อดังรายหนึ่งที่จำหน่ายในโซเชียลมีเดีย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2566 ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ พร้อมด้วย น.ส.อภิรมณ สุขสีทา อายุ 27 กรรมการบริษัทธันย์รดา 59 จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์กลูต้าที่ตกเป็นข่าว ได้เข้าพบทนายเดชา เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงแนวทางการดำเนินการทางกฎหมาย เนื่องจากข่าวที่นำเสนอออกไปทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพื่อความโปร่งใสต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย
โดย น.ส.อภิรมณ ระบุว่า ตนได้รับแจ้งจากแม่ของเด็กเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ว่าลูกสาวได้กินกลูต้าของบริษัทตัวเอง แล้วตรวจพบสารเสพติด พอตนได้รับทราบก็รีบสอบถามข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะรีบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตัวเอง ซึ่งทางแม่น้องบอกว่า ลูกของตนเป็นคนดีและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อีกทั้งกำลังเข้ามหาวิทยาลัยแต่ผลตรวจร่างกายก่อนรายงานตัว จึงไม่สามารถเข้าเรียนได้ เลยขอถามตนว่าจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างใด
จากนั้นตนก็ยืนยันว่า ตนเปิดขายกลูต้ามาเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้ว ก็ไม่เคยปรากฎเจอปัญหาสารแปลกปลอมปนเปื้อนเหมือนเคสนี้ ดังนั้นจึงจะขอไปตรวจสอบกลูต้าของตนก่อนเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป ซึ่งทางแม่ก็กล่าวว่าจะนำกลูต้าไปตรวจสอบซ้ำเช่นกัน ทางตนก็ยินดี
ปรากฎว่าในวันถัดมา กลูต้าของตนก็ตกเป็นข่าวว่ามีสารเสพติดโดยการให้ข่าวของแม่ลูกคู่นี้ ทั้งที่คุยกันแล้วว่าจะนำผลิตภัณฑ์ของตนเองไปตรวจสอบก่อน ทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทตนเองอย่างมากและเสียชื่อเสียง อีกทั้งข่าวที่นำเสนอออกไปโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้หลายคนและเกิดข้อสงสัย จนส่งผลกระทบทำให้ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ตนเองไปมากกว่า 50 ราย ซึ่งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมสำหรับตนอย่างมากและทำให้ธุรกิจของตนได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กลูต้าของตน ได้รับการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และใบรับรองจากโรงงานแล้วว่าไม่พบสารเสพติดหรือสารปนเปื้อนแต่อย่างใด อีกทั้งหลังเป็ข่าวก็นำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีกรอบเมื่อ 29 พ.ค. เพื่อความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้ขอชะลอการผลิตแล้ว
น.ส.อภิรมณ ยอมรับว่าพอทราบข่าวก็สติแตก กระทบกับธุรกิจตัวเองอย่างมาก ขอยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ตนเองปลอดภัย บริสุทธิ์ใจ แต่หลังจากนี้คงต้องใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อป้องกันตัวเอง ธุรกิจของตนกำลังเติบโต แต่ข่าวที่ออกมาทำให้ธุรกิจเกือบพังทลาย แต่ยังให้โอกาสเจรจา ขอให้แม่ลูกติดต่อกลับมาพูดคุย เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย
ขณะที่ด้าน ทนายเดชา ระบุว่า ตนได้รับมอบหมายให้เตรียมฟ้องดำเนินคดีกับแม่ลูกคู่นี้ ในข้อหากล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่เสียหายแก่ชือเสียงของบริษัทตนเอง เสียชื่อเสียง แผนการตลาดธุรกิจต่างๆ , ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และตาม พ.ร.บ.คอม รวมทั้งฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 50 ล้านกับแม่ลูกคู่นี้
โดยให้ไปพิสูจน์ความจริงที่ศาล ทั้งยังมองว่าแม่คู่กรณีนี้ยังคงให้ข่าวไม่หยุด ชัดเจนว่ามีเจตนาไขข่าวว่ากลูต้ามีสารเสพติด ถือว่ารุนแรงและทำให้บริษัทเสียหาย แม้ผลของลูกออกมาเป็นลบก็ยังไม่หยุด ดูแล้วไม่น่าจะเป็นการให้ข่าวด้วยความเป็นธรรมโดยไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ทั้งนี้ จะให้ระยะเวลาแม่ลูกติดต่อกลับมาสักระยะก่อน หากไม่รีบติดต่อกลับมาจะฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์ทันที
จากนั้นมีการสาธิตการทานกลูต้าเพื่อความบริสุทธิ์ปลอดภัย โดยให้ผู้บริโภคตัวอย่างซึ่งทานเป็นประจำมา 3 เดือน และทานครั้งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาตอนเที่ยงคืนของวันนี้มาแล้ว 2 เม็ด ซึ่งผู้บริโภครายนี้ทานให้ดูอีกรอบจำนวน 2 เม็ดต่อหน้าสื่อ
หลังจากนั้นก็นำผงในแคปซูลยาไปตรวจ โดยนำชุดตรวจยาเสพติดจาก สน.โคกคราม มาใช้สาธิต พบว่าจากการนำตัวอย่างน้ำละลายกลูต้า ชุดตรวจขึ้น 2 ขีด ซึ่งแสดงผลว่าไม่พบสารแอมเฟตามีนแต่อย่างใด ส่วนผลการตรวจปัสสาวะของตัวอย่างผู้บริโภครายนี้ พบว่าชุดตรวจขึ้น 2 ขีด ไม่พบสารเสพติดดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้จะนำผลตรวจไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.โคกคราม ต่อไป