ย่าน้องเตย ยอมแล้ว รับเป็นคนผิดเอง หลังพ่องัดหลักฐาน ไม่เคยทิ้งลูกสาว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวบีบหัวใจ เมื่อผู้ใช้ TikTok @askrooaoomaimpatc ซึ่งเป็นคุณครูท่านหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์คลิปหลังไปเยี่ยมบ้านของ "น้องเตย" เด็กนักเรียนหญิงชั้นอนุบาล 2 วัย 4 ขวบรายหนึ่ง ก่อนเห็นชีวิตความเป็นอยู่ถึงกับจุกอก ต้องเลี้ยงดูยายตาบอดเพียงลำพัง และทำงานบ้านเองทุกอย่าง ก่อนอาสาขอเป็นสะพานบุญให้

 

ต่อมา ได้มีแต่ละหน่วยงานได้เข้ามาสอบถามถึงความเดือดร้อนของยายหลาน รวมถึงความต้องการของครอบครัว เบื้องต้นหน่วยงานราชการจะให้ความช่วยเหลือตามที่ระเบียบของทางราชการกำหนด ส่วนภาคเอกชนในพื้นที่ได้มีร้านเฟอร์นิเจอร์ใจบุญเข้ามาช่วยปรับปรุงที่พักอาศัย  มีเงินเข้าบัญชีแล้วประมาณ 5.9 ล้านบาทแล้ว

 

 

หลังจากนั้น พ่อน้องเตย ได้ออกมาเปิดเผยว่า จากที่ก่อนหน้านี้ย่าน้องเตยได้ออกมาให้ข่าวว่า ตนทิ้งลูกและขาดการติดต่อ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ความจริง ตนไม่เคยทิ้งลูกไม่เคยขาดการติดต่อ และยังไม่ได้เลิกกับแม่น้องเตยยังอยู่ด้วยกัน และยังส่งข้าวของไปให้ตลอด กระทั่งเดือนเมษายน ปี 2562 ด้วยปัญหาหลายอย่างจึงนำน้องเตยไปฝากย่าเลี้ยง เมื่อช่วงวันเลือกตั้ง13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็กลับไปหาลูกและถ่ายรูปกัน และก่อนหน้านี้ยังเคยไปรับน้องเตยมาเที่ยวทะเลที่ระยอง มีคลิปน้องเตยเล่นน้ำทะเลด้วย

 

 

 

ทั้งนี้ พ่อน้องเตย ยังกล่าวอีกว่า ตนไม่ได้แสดงตัวเพราะต้องการเงิน เพราะให้ย่าเป็นคนจัดการอยู่แล้ว ที่ต้องออกมาแสดงตัวเพราะต้องการขอความเป็นธรรมเท่านั้น และยังมีหลักฐานการส่งของ หลักฐานคลิปที่ถ่ายไว้ขณะไปรับน้องเตยมาเที่ยวทะเลที่ระยองเพื่อยืนยัน เพราะที่ผ่านมาตนถูกสังคมโจมตีอย่างหนักว่า ทิ้งลูก ขาดการติดต่อ แถมยังถูกกล่าวหาว่าที่มาแสดงตัวเพื่อหวังเงินบริจาค

 

 

 

ล่าสุด ย่าน้องเตย เปิดเผยว่า ตนยังยืนยันว่าสิ่งที่พูดไปก่อนหน้านี้เป็นความจริงทุกอย่าง แต่ในเมื่อลูกชายเขายืนยันว่าแม่หลงลืมไปเอง ทั้งเรื่องที่เลี้ยงหลานตั้งแต่ 8 วัน ซื้อของมาให้ลูก และรับลูกไปเที่ยวด้วย ในเมื่อลูกเขายืนยันแบบนั้นแม่ก็ไม่อยากจะมีปัญหากับลูก แม่จึงขอเป็นฝ่ายที่ยอมรับเองว่าแม่คงลืมและขอโทษลูกด้วยถ้าแม่ทำให้เข้าใจผิด ซึ่งตอนนี้ก็ปรับความเข้าใจกันแล้ว และไม่อยากให้ข่าวอะไรอีก เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาในครอบครัว ที่ผ่านมาก็เครียดจนนอนไม่หลับ

 

 

ทั้งนี้ ส่วนเรื่องของเงินบริจาคได้มีเจ้าหน้าที่พาไปปรับสมุดที่ธนาคาร แต่ตนเองมองไม่เห็น มีเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามียอดบริจาคช่วยเหลือมากว่า 5,900,000 บาทแล้ว ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือตนเองกับหลาน และเจ้าหน้าที่ยังแจ้งด้วยว่าเงินดังกล่าวได้มีการทำบันทึกว่าจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้หลาน 4 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1 ล้าน 9 แสนบาทเป็นส่วนของย่าไว้ดำเนินชีวิตและซ่อมแซมบ้าน ซึ่งการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ