- 16 มิ.ย. 2566
แม่จุกอก ยึดโทรศัพท์ลูก เปิดเห็นข้อความในโน้ต อึ้งจนพูดไม่ออก ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกถึงคิดแบบนี้ เสียใจหนักมาก!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าเห็นใจอย่างมาก เมื่อคุณแม่รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวสุดช้ำ หลังยึดโทรศัพท์ลูก เปิดเห็นข้อความในโน้ตโทรศัพท์ ทำเอาอึ้งจนพูดไม่ออก ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกถึงคิดแบบนี้ คนเป็นแม่เสียใจหนักมาก
โดยคุณแม่ได้ออกโพสต์ระบาย หลังเจอข้อความในโน้ตโทรศัพท์ลูกสาวว่า "เกลียดครอบครัวนี้ที่สุด อยากตาย มีแต่การกดดันดุด่า" ซึ่งคุณแม่ได้ระบุว่า รู้สึกอึ้งและเสียใจ ทำไมลูกถึงคิดแบบนี้ เธอเลี้ยงลูกผิดพลาดตรงไหนไป มีแต่คำถามในหัววนไปวนมาว่า "ทำไม?" รู้สึกเหมือนรักลูกมากไปจนกลายเป็นทำร้ายลูก ตอนนี้ลูกสาวอายุ 9 ขวบ มีนิสัยเอาแต่ใจ ทำตัวเป็นศูนย์กลางของโลก ไม่รู้จักรอคอย ไม่รู้จักว่าตัวเองผิด แพ้ไม่เป็น ต้องเอาชนะ แต่นิสัยเดิมของลูกปกติจะน่ารัก แต่แม่รู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่ เมื่อลูกเริ่มมีนิสัยที่ไม่น่ารัก เอาแต่ใจ และเริ่มรุนแรงขึ้น ไม่ได้รุนแรงทางกาย แต่เหมือนเป็นทางจิตใจและอารมณ์ของลูก เริ่มเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางและเริ่มมีนิสัยแบบนี้กับคนรอบๆ ตัว รวมถึงเพื่อนที่โรงเรียนด้วย ทำให้แม่กลัวว่าจะไม่มีคนรักลูก
ปกติแล้วแม่จะเลี้ยงแบบค่อนข้างตามใจ เลี้ยงเหมือนเพื่อน ซื้อให้หมดที่อยากได้ ทำให้หมดที่ต้องการ ไม่เคยสอนลูกด้านวินัย ไม่เคร่งเรื่องเรียน สนับสนุนทุกกิจกรรมที่ลูกทำทุกอย่าง มันก็ปกติ แต่ทำไมลูกเริ่มไม่ปกติ แม่ไม่คิดเลยว่ามันคือผลเสีย มันเป็นเพราะความรักลูก อยากให้ลูกมีอยากให้ลูกสบาย เมื่อลูกเริ่มโต แม่เริ่มที่จะเอาไม่อยู่ เวลาสอน ลูกเริ่มเถียง ถึงขั้นว่าพ่อแม่ ลูกไม่ฟังที่แม่พูด เคยใช้ทั้งการสอนแบบใจเย็นหรือแบบตี มันกลับยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม ลูกไม่รับฟังสิ่งที่แม่พูด กลายเป็นว่าที่สอนคือการไปกดดัน
ทั้งนี้ คุณแม่เจ้าของโพสต์ตั้งคำถามด้วยว่า เธอควรแก้ปัญหานี้อย่างไรดี ยอมรับว่าตามใจลูกมากเกินไปจนส่งผลแบบนี้ ตอนนี้มันจะยังแก้ได้ไหม รู้สึกยิ่งแก้ยิ่งแย่ ยิ่งยึดโทรศัพท์ ลูกก็จะยิ่งโกรธหนัก เครียดมาก พร้อมรบกวนแม่ๆ ที่มีประสบการณ์แบบนี้มาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งเธอได้เผยแนวทางที่คิดไว้ว่าจะทำ แต่ไม่รู้ว่าทำแล้วมันจะส่งผลดีหรือผลเสียตามมา ได้แก่
1. ยึดโทรศัพท์ เพราะตอนนี้โทรศัพท์เหมือนสิ่งมีค่าสำหรับลูกเลยก็ว่าได้ เคยลองยึดแล้ว แต่แค่ 2-3 ชั่วโมง พอเห็นลูกทำตัวดีขึ้นก็เลยคืน เพราะสงสารลูก
2. ปล่อยเลยตามเลย ให้ลูกรู้ด้วยตัวเอง แต่ไม่ตามใจเหมือนเดิม ไม่ซื้อของที่อยากได้ให้