- 16 มิ.ย. 2566
"รุ้ง ปนัสยา" แกนนำกลุ่มราษฎร โพสต์ข้อความถึงกรณี หยก และเรื่อง การแต่งกายชุดนักเรียน เหตุการณ์นี้หยกเลยกลายเป็นจำเลยสังคม กลายเป็นเด็กก้าวร้าวในสายตาคนมอง
"รุ้ง ปนัสยา" แกนนำกลุ่มราษฎร ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Panusaya Sithijirawattanakul ระบุ พอเรากลับมาที่ไทย ตอนนี้รู้แล้วว่ายูนิฟอร์มไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเหตุผลทางการเรียน แต่ก็ยังหนีมันไม่ได้ ก็ยังเรียนอยู่ที่นั่นและจะเรียนต่อจนจบ ก็จบที่ก้มหน้าก้มตายอมรับมันแหละ การแสดงออกว่าเราไม่อยากใส่ชุดนักเรียนในตอนนั้นคือการใส่ชุดพละทุกวันแทน และรุ้งอายุ 15 ก็ทำไปแค่นั้น ไม่ได้เกิดแรงกระเพื่อมใด ๆ แต่หยกอายุ 15 ในวันนี้เอาตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์อยู่ว่าใส่ชุดอะไรก็ตั้งใจเรียนได้ โดยการใส่ชุดไปรเวทเดินเข้าไปเรียน
แต่เพราะเหตุการณ์นี้หยกเลยกลายเป็นจำเลยสังคม กลายเป็นเด็กก้าวร้าวในสายตาคนมอง เราอยากให้คนไม่ลืมว่านี่คือเด็กอายุ 15 ที่กำลังแสดงออกในแบบที่ตัวเองคิด เราว่าบางอย่างจำเป็นต้องมองผ่านมันไปให้ลึกกว่านี้ ให้ลึกพอที่จะผ่านกำแพงอคติส่วนตัวและมองเห็นสิ่งที่หยกต้องการสื่อสารจริง ๆ มันก็คงยากสำหรับผู้ใหญ่เวลาเห็นเด็กทำพฤติกรรมแบบนี้ธงในใจก็จะลอยขึ้นมาว่านี่คือเด็กก้าวร้าว กากบาทสีแดงตัวใหญ่ ๆ ประทับไปที่ภาพหยกปีนรั้วโรงเรียน แต่เอาจริงนะ ไม่รู้สึกเล็ก ๆ บ้างหรอว่าเด็กคนนั้นกำลังพยายามอย่างมากที่จะไปเข้าเรียน อย่างที่เด็กดีควรจะทำ แต่ต้องกลายเป็นเด็กที่ดูไม่ดี ต้องปีนรั้วเข้าโรงเรียนเพราะบุคลากรในโรงเรียนไม่ต้องการ ครูปกครองปกติต้องวิ่งตามเด็กปีนรั้วหนีโรงเรียนกัน แต่นี่หยกมันปีนเข้าไปเรียนน
สรุปคือ น้องมันอยากเรียนเหมือนเด็กปกติ แต่ไม่ต้องการใส่ชุดนักเรียนด้วยเหตุผลที่สังคมเราก็คุยกันมาสักพักใหญ่มากแล้ว การเปลี่ยนมาใส่ชุดไปรเวทและได้เพิ่มการฝึกดูแลบุคลิกมันก็เป็นเรื่องดี มันเป็นเรื่องจำเป็นเลยแหละ ผู้ใหญ่ทุกคนโตมาก็รู้ว่าจำเป็น งั้นทำไมเราไม่ฝึกกันตั้งแต่เด็กไปเลยล่ะ