- 19 มิ.ย. 2566
จากกรณีข่าวฉาวปมผู้การชลบุรีกับพวกถูกเจ้าของเว็บพนันแจ้งความว่ารีดไถเงิน ล่าสุด "ชูวิทย์" ลากไส้ปมส่วยวงการสีกากี เตือน ศึกนี้แรงจริง
ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ โพสต์ข้อความถึงกรณีฉาววงการสีกากี ผู้การฯชลบุรีรีดเงินเว็บพนัน 140 ล้านบาท จนเกิดวลีฮิต "เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา" เกิดขึ้น แม้ต่อมาตำรวจที่รายชื่อกระทำผิดจะทยอยมอบตัวเหลือเพียงนายต้นและบอย หัวโจกหลักที่ยังหลบหนี ชูวิทย์ เผยเรื่องส่วยตำรวจ รักมาก แค้นมาก วงการนี้ศึกนี้แรงจริง ใครไม่เกี่ยวโปรดอย่ายุ่ง โดยได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ระบุ
รักเท่าไหร่ก็เขียนมา รักมาก ก็แค้นมาก เรื่องส่วยๆ ในวงการตำรวจ การดูแล น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า หรือจะเรียกว่า "ค่าเคลียร์" หากไม่เคลียร์ก็โดนจับ หรือจับไปแล้วก็เคลียร์ได้ถ้าไม่หนักหนาสาหัส จะปราบให้หมดก็ยาก เพราะเคลียร์หลักล้าน หลักสิบล้าน หรือรักมากขนาดเคลียร์ "ร้อยล้าน" อย่างที่ชลบุรี จนรักไม่ไหวต้องเปลี่ยนจาก "ผู้ต้องหา" เป็น "ผู้เสียหาย"
หากเอาแค่รักพอควรก็พอไปไหว แต่นี่จะบังคับให้รัก เอาทั้งรักสั้น รักยาว รักเยอะๆ ต้องจ่ายค่ารักรายเดือนอีก ส่วนเรื่องเป็น "หน้าเสื่อ" ใช้ในการประสานงานตัดตอนมีอยู่มาก ถูกหลอกก็มี ถูกอ้างก็มี เอาจริงก็มี ถือว่าได้ส่วนแบ่งค่าหิ้วเป็นธรรมเนียม ทำกันเป็นปกติ เรียกว่า "ตัวคัทเอาท์"
กรณีนี้ "บอย" ต้องหายตัวไปก่อน คงจับไม่ได้ เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติครั้งนี้ คือ "ยุทธการแซะเก้าอี้ ผบ.ตร.คนต่อไป" วงการตำรวจปิดกันไม่มิด และวลี "เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา" อยากรู้ว่าวลีแบบนี้หลุดมาได้ไง? จำได้ทุกคำ ยอดเยี่ยมเด็ดจริง
แล้วยังมีคำพูดของบอย "มึ..อยู่เฉยๆ เนียนกริ๊บ พี่เคลียร์ให้จบแล้ว มึ..จ่ายที่ไอ้ต้นเลย" ไอ้บอยก็ไม่อยู่ จับไม่ได้ แต่คำพูดเหมือนยืนยันกันมา ผู้การฯ แค่หมากบนกระดานอำนาจศึกวงการสีกากีนี่เอง ศึกนี้แรงจริง ใครไม่เกี่ยว โปรดอย่ายุ่ง
"ค่าความรัก" ไม่รักก็โดนจับ หรือจับแล้วก็ต้องรักมากขึ้น ไม่งั้นมีหวังเข้าคุกเพราะรักไม่พอ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นอยู่กับหัวใจใครแข็งแกร่ง ใครๆ ย่อมต้องการ "ความรัก" ทั้งนั้น โดยเฉพาะวงการตำรวจ ศึกนี้แรงจริง แรงรัก แรงแค้น ศึกรักของพี่น้องผองเพื่อนในวงการสีกากี
ทั้งนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อช่วงสายวันที่ 19 มิ.ย. 2566 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องประเด็นรีดทรัพย์ผู้ต้องหา จำนวน 140 ล้านบาท ของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และต่อมานายชูวิทย์ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการแซะเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ที่กำลังจะมีการพิจารณาในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า วันนี้ประเทศไทยค่อนข้างประหลาด จากตำรวจเป็นโจรโจรเป็นตำรวจ ตามปกติแล้วไม่มีโจรที่ไหนอยากไปมีเรื่องกับตำรวจ แต่เหตุการณ์นี้คงจะมากเกินไป มีความรักมากเกินไปและแค้นมากจน ทำให้โจรต้องมาแจ้งจับตำรวจ เหมือนสมัยที่ตนช่วงที่ทำกิจการอาบอบนวด และออกมาเปิดเผยตำรวจที่เรียกรับเงิน ก็เพราะว่าตัวเลขที่เรียกมามากเกินไปจนทำให้ตนออกมาแฉ ส่วนกรณีของเป้ อาจจะแตกต่างตรงที่มีผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากถูกรีดเงินจำนวนมากและต่อเนื่องเป็นเวลานานจนไม่มีทางออกและตัดสินใจออกมาเปิดโปง
สำหรับตัวละครสำคัญอยู่ที่คนชื่อ บอย แหล่งข่าวตนรายงานว่าจะมามอบตัวช่วงบ่ายของวันนี้ ความสำคัญบอย เป็นผู้เจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหา ถือว่าเป็นตัวละครสำคัญ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงตั้งแต่สมัยของหลงจู๊สมชาย เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินมาก คิดว่าถ้ามีการมอบตัวน่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจสีเทาของฝั่งตะวันออก เพราะบอย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน ทำให้บอยมีบทบาท ในการรีดเงินต่างๆ และมีความเป็นไปได้บอย น่าจะมีเส้นสายมากกว่า นายต้น ซึ่งเป็นสองคนที่เกี่ยวกับการรีดทรัพย์
ที่ตนบอกว่าให้จับตาดูให้ดีเพราะตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังไม่ลงตัว ในส่วนของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ถือว่าเป็นหมากตัวหนึ่ง หากจะกระทำการเองก็คงจะทำไม่ได้ เพราะความรู้ความสามารถอาจจะไม่พอ เรื่องนี้ตนจึงคิดว่ามีคนที่ใหญ่กว่านั้นรู้เรื่องมากกว่า
ที่ผ่านมาการจ่ายเงินของเว็บไซต์พนันมีราคามาก สำหรับประเทศไทยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 3 หน่วยงาน แต่เว็บพนันเหล่านี้ต่างก็ไม่ได้ลดลง ฉะนั้นจึงต้องติดตามว่ารัฐบาลใหม่ที่มาจะจัดการเรื่องนี้ได้เพิ่มขึ้นมากหรือไม่ เพราะการทุจริตคอร์รัปชั่น กลายเป็นเรื่องปกติกลายเป็นเรื่องความรัก รักมากต้องจ่ายมาก
ส่วนวลี "เป้รักผู้การเท่าไร ให้เป้เขียนมา" เป็นคำพูดที่มีการร่างบทมาก่อน ส่วนผู้การฯชลบุรีจะเป็นคนพูดเองหรือไม่ตนไม่ขอพูด
นายชูวิทย์ กล่าวว่า การที่ผู้ต้องหาอย่างเป้มาแจ้งความตำรวจถือว่าเป็นเรื่องที่ประหลาด ถ้าโจรไม่ได้ถูกบีบขนาดนั้นคงจะไม่กล้าที่จะมาแจ้งความตำรวจ เกมนี้ที่มองเห็นอาจจะมีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น ในระยะเวลาที่ไม่นานที่จะมีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งทุกคนก็จะต้องแสดงผลงาน ส่วนตนเองรู้มากกว่านั้นแต่พูดตรงๆว่าไม่ อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วยไม่ใช่เรื่องของตน ไม่ใช่ศึกของตน