สองสามีภรรยาวัย 21 ปี ย่องเงียบมารับลูกกลับยามดึก บอกเหตุจำเป็น ไม่ได้ทิ้ง

สองสามีภรรยาวัย 21 ปี ย่องเงียบมารับลูกกลับยามดึก บอกเหตุจำเป็น ไม่ได้ทิ้ง : จากที่ก่อนหน้านี้เพจ  อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้เผยภาพพร้อมข้อความประกาศหาคนหาย ที่มีชาวเน็ตฝากตามหา พร้อมระบุข้อความ "ติดขัดเรื่องอะไรก็กลับมาดูแลสู้ต่อไปอย่าทิ้งเด็กไว้เลย" ก่อนจะมาทราบพิกัดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ ต.ทับกฤช อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ 

 

โดย หลานสาวของยายลา ชาวบ้านในพื้นที่ได้ส่งเรื่องถึงเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ให้ช่วยประกาศตามหาตัว น.ส.เยาวเรศ และนายสรนัส อายุ 21 ปี สองสามีภรรยาที่หนีหายออกจากบ้านไปนาน 6 วัน และไม่สามารถติดต่อได้ ให้รีบกลับมารับลูกน้อยวัยเกือบ 3 เดือน ที่ทิ้งไว้ให้กับยายลาดูแลเพียงลำพัง ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ไม่เช่นนั้นจะไปแจ้งความให้ตำรวจจับ 

เนื่องจากหนีความรับผิดชอบ ปล่อยลูกชายวัยแบเบาะให้กับยายลา วัย 81 ปี เลี้ยงดูกันอย่างยากลำบาก เพราะยายลาอายุมากแล้ว แถมยังไม่ค่อยมีเงินใช้ จึงทำให้หลานๆ ของยายสุดทน นำเรื่องดังกล่าวไปร้องประกาศผ่านโซเชียล 

ล่าสุด ญาติๆ ของยายลา ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 25 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา น.ส.เยาวเรศ และนายสรนัส สองสามีภรรยา ที่โลกโซเชียลกำลังประกาศตามหา ได้ติดต่อกลับมา และแอบมารับลูกชายวัยเกือบ 3 เดือน ของตนเองเอากลับไปเลี้ยงดูแล้ว และทราบว่า ทั้งคู่ได้พากันไปเช่าห้องพักใหม่อยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่งของ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 

พร้อมกันนี้ คู่สามีภรรยาดังกล่าวยังขอร้องให้ปิดที่อยู่ใหม่เอาไว้ เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัย กลัวว่าเจ้าหนี้ที่เคยไปยืมไว้หลายเจ้า จะตามมาราวีจนทำให้ต้องอยู่กันแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีก 
 

ขณะเดียวกัน ด้านคู่สามีภรรยาดังกล่าวเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด เกิดจากปัญหาหนี้สินล้วนๆ ที่ไม่สามารถจ่ายคืนไหว เพราะมีหนี้สินหลายเจ้ารวมกันมากกว่า 20,000 บาท จึงจำเป็นต้องปล่อยทิ้งลูกไว้กับยายลา แล้วขอหลบหนีเจ้าหนี้ไปตั้งหลักกันชั่วคราว โดยไม่ได้คิดจะทิ้งลูกในไส้แบบถาวร 

 

แต่แค่ขอตั้งหลักชั่วคราวหางานใหม่ทำ และตั้งตัวให้ได้ก่อนจะกลับไปรับลูก ซึ่งเรื่องนี้ ขอยืนยันเลยว่า ก่อนไปได้มีการพูดคุยกับยายลาแล้ว และญาติๆ ก็ยังสามารถติดต่อหากันได้เหมือนเคย ไม่ได้บล็อคทุกช่องทางการติดต่อตามที่ปรากฏออกสื่อแต่อย่างใด

 

ฝ่ายภรรยา ระบุอีกว่า เธอและสามีจะไปอยู่กันที่อื่น แต่ยังขอยืนยันว่า ได้บอกกับยายลา และตอนนั้นเธอก็จะเอาลูกไปด้วย แต่ยายลาแกไม่ยอม แกห่วงหลาน กลัวเธอจะพาลูกไปลำบาก จึงต้องจำใจให้ลูกอยู่กับยายลาก่อนที่จะพากันย้ายไปอยู่บ้านเพื่อนชั่วคราว จนได้มาเช่าห้องพักแห่งใหม่อยู่ เพื่อหวังตั้งตัว ตั้งใจทำงาน เก็บเงินเอาไว้ให้พร้อม เพื่อที่จะกลับไปรับลูกมาเลี้ยงดู แต่ตอนนี้ ชีวิตก็ยังกระท่อนกระแท่นอยู่ ก็พอมีงานรับจ้างมาให้ทำถูๆ ไถๆ ไปก่อน

 

พร้อมกันนี้ยังคู่ยังปฏิเสธโดยพร้อมเพรียงว่า ไม่ได้จะเอาดีด้านการพนัน หรือติดงอมแงมในด้านนี้ แต่ภรรยายอมรับว่าเล่นพนันออนไลน์จริง เล่นมาตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ใหม่ๆ แต่ไม่ถึงกับขนาดติด และก็ไม่ได้เอาเงินที่ไปยืมเขามาเล่นด้วย ตนก็ใช้เงินส่วนตัวเล่นแบบเล็กๆ น้อยๆ ถ้าได้ก็เอาเงินมาใช้จ่ายกับสามี ส่วนเรื่องเที่ยว ด้าน สามีก็ยืนยันว่า ไม่จริงตามข่าวเลย ตนกับเมียก็แค่ไปชอบเที่ยวตามงานวัด งานบุญต่างๆ แค่นั้น

 

ก่อนที่ทั้งคู่ได้กล่าวขอโทษยายลา แต่ก็ยืนยันว่า ก่อนจะหนีหนี้ออกมาจากบ้าน ได้บอกกับยายลา และญาติๆ ของยายลาหมดทุกคนแล้ว ว่าจะหนีหนี้ไปตั้งหลัก และตอนนั้นก็จะเอาลูกไปด้วย แต่ยายลาได้ห้ามเอาไว้ และในระหว่างที่หนีไป ทุกๆ คนก็ยังสามารถติดต่อหากันได้อยู่ ไม่ได้บล็อคทุกช่องทางจริงๆ 

 

"ก็ยังงงอยู่ว่า หลานๆ ของยายลาเขาคิดยังไง ถึงเอาเรื่องไปโพสต์ประกาศในโลกโซเชียลแบบนั้น แต่ตอนนี้ก็สบายใจแล้ว ได้มีที่อยู่ใหม่ได้ตั้งหลัก ซึ่งต่อไปจะหางานทำเป็นหลักแหล่ง ในการหาเงินมาเลี้ยงดูลูกน้อย และขอยืนยันอีกครั้งว่า ทั้งคู่เลี้ยงลูกคนนี้ไหว ไม่มีการเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ อย่างแน่นอน" 

 

อย่างไรก็ตาม ด้านยายลา ขณะนี้มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ พม.นครสวรรค์ ได้เดินทางไปพบกับยายลา เพื่อสอบถามและตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ เพื่อเตรียมนำเรื่องกลับเข้าที่ประชุม ในการหาทางให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการแล้ว และหลังจากนี้ จะมีการเดินทางไปพบกับ น.ส.เยาวเรศและนายสรนัสด้วย เพื่อตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงต้องประเมินสถานการณ์ทุกด้านของทั้งคู่ว่าสามารถเลี้ยงลูกไหวหรือไม่ หากดูแล้วไม่ไหว จะมีการนำลูกของทั้งสองไปอยู่ในความดูแลที่บ้านพักเด็กก่อน จนกว่าพ่อแม่จะมีความพร้อม