- 10 ก.ค. 2566
ครอบครัว “ฮันส์ ปีเตอร์” นักธุรกิจชาวเยอรมัน เข้าร้อง “บิ๊กโจ๊ก” หลังหายตัวปริศนานาน 6 วัน เชื่อยังมีชีวิต และถูกอุ้มหาย วอนผู้ก่อเหตุปล่อยตัว หากต้องการอะไรขอให้บอก แลกกับการปล่อยตัว
ความคืบหน้าคดีการหายตัวไปอย่างปริศนาของนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจ ด้านอสังหาริมทรัพย์ ชาวเยอรมัน ก่อนที่เมื่อวานนี้ชาวบ้านได้แจ้งตำรวจว่า พบรถเบนซ์ คูเป้ E 350 สีบรอนซ์เทา ซึ่งเป็นรถเบนซ์คันของนายฮันส์ ปีเตอร์ ที่ขับออกมาพูดคุยกับนายหน้าขายที่ดินในวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 โดยรถเบนซ์คันดังกล่าว ถูกขับมาจอดทิ้งไว้บริเวณลานจอดรถชั่วคราว ที่คอนโดมิเนียม ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ล่าสุดที่สโมสรตำรวจช่วงเช้าวันนี้ พลตำรวจตรีธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ ได้เข้ามาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ก่อนที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางเข้ามาติดตามความคืบหน้าคดีในภายหลัง
จากนั้นมูลนิธิวินวิน นำโดยนางสาวชลิดา พะละมาตย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวินวิน ได้พานางสาวแพท ภรรยาปัจจุบันของนายฮันส์ ปีเตอร์ อดีตภรรยาของนายฮันส์ ปีเตอร์ ลูกชายกับอดีตภรรยา 2 คน และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตเยอรมัน เข้ามารอพบกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดยนางสาวแพท เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุเธอนัดกับสามี ว่าจะมีลูกค้าไปดูที่แห่งหนึ่งในพัทยาในช่วงเวลาบ่ายโมง แต่ก่อนหน้านั้นเขาขอไปเจอลูกค้าคนสำคัญก่อน จนกระทั่งพอเวลาผ่านไปล่วงเลยไปจนถึงบ่ายสองโมงแล้ว เธอจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาสามีอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าติดต่อไม่ได้ และเปิดปิดเครื่องสลับอยู่ตลอด ก่อนจะมีข้อความส่งกลับมาหาเธอว่า “อยู่กับลูกค้านะ เดี๋ยวโทรกลับ” แต่ที่ผ่านมายืนยันว่า สามีไม่เคยส่งข้อความมาหาในลักษณะแบบนี้ เธอจึงรออีกสักพัก
สุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้ และทุกคนเองก็พยายามโทรหาอยู่เรื่อยๆ ก็โทรติดบ้าง ไม่ติดบ้าง จนช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ก็มีข้อความส่งมาอีกว่า “วันนี้ฉันจะอยู่กับลูกค้านะ คนนี้สำคัญมาก ฉันต้องดีลกับเขา เซ็นสัญญาให้เสร็จ”
เธอจึงพยายามโทรติดต่ออีกเรื่อยๆ จนวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ยังติดต่อไม่ได้ จนมีข้อความสุดท้ายส่งมาอีกว่า “ฉันต้องอยู่กับลูกค้า และจะต้องไปกินข้าวกับลูกค้า” ก่อนที่หลังจากนั้น สามีก็ไม่ได้ส่งอะไรมาอีกเลย
ส่วนเรื่องที่ดินในพัทยาที่มีการซื้อ-ขายกันของสามีนั้น มีการพูดคุยกันจริง แต่ในเรื่องที่ดินในพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขายังไม่ได้มาคุยเรื่องนี้เลย เพราะไม่ได้มีแผนจะขาย ส่วนตอนนี้ ยอมรับว่า เธอคิดว่ากลุ่มคนที่อุ้มสามีไป น่าจะรู้จักสามี แต่ในเรื่องธุรกิจคาดว่ารู้แค่บางส่วนเท่านั้น และเชื่อว่าสามีโดนจับตัวไปแน่ๆ เพราะสามีไม่เคยผิดนัด และเป็นคนตรงเวลาตลอด ทุกครั้งจะเป็นคนมาก่อนเวลา หรือถ้าหากมีปัญหาจริงๆ จะโทรมาบอกก่อน จะไม่ชอบให้ครอบครัวเป็นห่วง
โดยทางครอบครัว ไม่ทราบเลยว่า เกิดอะไรขึ้นกับสามี หรือว่าใครทำอะไรเขา เพราะเขาไม่เคยมีปัญหากับใคร และส่วนตัวก็ไม่เคนเห็นคนที่ชื่อโอราฟ ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินที่พบว่าผิดปกตินั้น ยังไม่ทราบ และตอนนี้ยังขอไม่ลงรายละเอียด
ส่วนเรื่องสงสัยใครหรือไม่นั้น นางสาวแพท ระบุว่า ตอนนี้สงสัยคนในวีดิโอกล้องวงจรปิดคนที่อยู่กับสามีเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้ไปกล่าวหาเขา นอกจากนี้ เธอยืนยันว่า ไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับนายหน้าขายที่ดินเลย รวมถึงเรื่องคดีค้ามนุษย์เมื่อปี 2561 นั้น เข้าใจผิดแล้วตอนนี้ครอบครัวไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย และอยากให้ทุกคนโฟกัสเรื่องการหาสามีก่อน พร้อมอยากบอกไปถึงคนที่อุ้มสามีไปว่า “ต้องการอะไรให้มาบอก ช่วยเอาสามีกลับมาเถอะ ทุกคนเป็นห่วงมาก เรารอกันอยู่ และจะหาเขาให้เจอ” โดยตอนนี้ทางครอบครัวยังหวังว่าสามียังมีชีวิตอยู่ และน่าจะอยู่ในปีะเทศไทย ทุกคนจะช่วยเขากลับบ้าน
ส่วนเบาะแสล่าสุดก็คือเรื่องการพบรถ แต่ในส่วนข้อมูลที่พบสามีในพื้นที่สระแก้ว ยืนยีนว่า ไม่ใช่สามี เป็นแค่คนหน้าคล้าย
ด้านลูกชาย ของนายฮันส์ ปีเตอร์ บอกว่า ตอนนี้อยากเจอพ่อเร็วๆ เพราะผ่านมา 6 วันแล้ว ทุกคนเป็นห่วง ส่วนเมื่อวานนี้ได้เจอกลุ่มของโอราฟ และได้ฟังการสอบปากคำบางส่วน แต่ขอไม่ลงรายละเอียด
ทั้งนี้มีรายงานว่าข้อมูลจากชุดสืบสวนว่า หลังจากนำตัวชาวเยอรมัน 3 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว ที่ สภ.หนองปรือเมื่อคืนนี้ เบื้องต้นทั้ง 3 คน ไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์เลย แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของผู้สูญหายนั้น ปรากฎว่า เงินถูกโอนออกจากบัญชีตัวเองหลายครั้ง ยอดมากกว่า 2 ล้านบาท ส่วนคนที่เป็นคนโอน พบไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากจากการตรวจสอบพิกัดข้อมูล พบอยู่ที่พนมเปญ ประเทศกัมพูชา