- 11 ก.ค. 2566
กรมการขนส่งฯ ตรวจสอบสภาพรถบัส ร่วงเหวผาพญากูปรี พบเป็นรถปลดประจำการจากกองทัพ อยู่ระหว่างขออนุญาตจากทางขนส่งจังหวัด
ผลตรวจสภาพบัสรับส่งนักวิ่งดิ่งเหว พบเป็นรถปลดประจำการจากกองทัพ : ความคืบหน้าล่าสุดกับกรณี รถบัสรับส่งนักวิ่ง "สุรนารี เทรล รัน 2023 ซีซั่น2" ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่เกิดอุบัติเหตุแหกโค้งพุ่งชนราวสะพานตกเหวผาพญากูปรี จนเป็นเหตุทำให้นักวิ่งเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 38 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 9 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบรายละเอียดเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ตั้งข้อหาคนรับรถบัส ขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อีกทั้งยังพบสภาพรถขณะเกิดเหตุอัดแน่นไปด้วยผู้โดยสาร 51 คน และรถสภาพรถเก่า แต่นำมาพ่นสีใหม่
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชำนาญการพิเศษจากส่วนกลาง ลงพื้นที่เพื่อร่วมตรวจสอบสภาพรถบัสรับส่วนักวิ่ง ที่ประสบอุบัติเหตุตกเหวผาพญากูปรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัด ได้ลงพื้นที่ในช่วงบ่าย เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเดินรถ สถานที่เกิดเหตุ และสภาพความพร้อมของตัวรถ
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า รถบัสคันดังกล่าวเป็นรถที่ปลดประจำการจากกองทัพบก ซึ่งวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา ได้ทำการขอซื้อต่อมาปรับปรุง เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งรถคันนี้อยู่ในระหว่างการขออนุญาตจากทางขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ เพราะเป็นรถที่ใช้ในราชการทหารมาก่อน
สำหรับอุบัติเหตุรถบัสตกเหวในครั้งนี้ เป็นของ มูลนิธิหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับการประสานจากกองกำลังสุรนารี ที่ได้จัดวิ่งโครงการ สุรนารี เทรล รัน 2023 ซีซั่น2 ระยะทางการวิ่ง 16.5 กิโลเมตร โดยการปล่อยตัวออกจากวัดไพรพัฒนา เพื่อวิ่งตามเส้นทางขึ้นสู่เขาไปยังจุดหมายจุดผ่านแดนช่องสะงำ ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนักวิ่งจากทั่วสารทิศมาเข้าร่วมโครงการวิ่งในครั้งนี้
ภายหลังจากการวิ่งจบลง นักวิ่งได้ทยอยเดินทางกลับลงมาจากปลายทาง โดยผู้จัดได้ประสานขอรถบัสของโรงเรียนจากมูลนิธิหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา ได้ขับขึ้นไปรับนักวิ่งเพื่อเดินทางกลับลงมา ซึ่งรถบัสของมูลนิธิฯ ก็ได้เดินทางขับขึ้นไปรับ และในบรรดารถบัสที่ขึ้นไปรับ ในคันที่สองที่กำลังรับส่งนักวิ่งเดินทางลงมา
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางลาดชันทางลงเขา คนขับบังคับรถไม่ได้ เชื่อว่าจะเกิดจากเบรกของรถบัสขัดข้อง รถบัสจึงวิ่งลงสู่ทางลาดตรงบริเวณสะพานข้ามลำคลองธรรมชาติอย่างรวดเร็ว รถบัสได้พุ่งชนราวกำบังข้างทางที่เป็นปูนซีเมนต์แต่รถยังไม่หยุด รถได้พุ่งข้ามแผงกั้นข้างทาง ตกลงไปในเหวลึก
ด้านหน้ารถบัสได้ปักลงไปที่หลุมปูนขนาดใหญ่ ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ จำนวน 38 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย
1. นางศิริกร ปัญกาญจนสกุล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ รองหัวหน้าตึกพิเศษ รพ.ราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ
2. น.ส.อรทัย จำปาทอง
3. น.ส.มณีรัตน์ สกุลศิรกิต
4. สิบเอก ทศพร หาญณรงค์
พร้อมกันนี้ กู้ภัยฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ต้องช่วยกันลำเลี้ยงคนเจ็บส่ง รพ.ภูสิงห์ และยังได้กระจายไปรับการรักษาที่ รพ.ขุขันธ์ และ รพ.ศรีสะเกษ ด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่แพทย์ - พยาบาล และเตียง ไม่เพียงพอในการรับบริการรักษาผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
ต่อมา พลตรี วีระยุทธ รักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมกองกำลังฯ ร่วมประชุมหารือกับ พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และปกครองอำเภอภูสิงห์ ในการช่วยเหลือทั้งผู้บาดเจ็บ และเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตเบื้องต้น