หมอพรทิพย์ ฟาดธรรมะตอกนิ่มคนรุมด่า ขอให้ดวงตาเห็นธรรม

จากกระแสการเมืองที่ดุเดือดขณะนี้ ล่าสุด แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้โพสต์โต้กลับคนที่เข้ามารุมด่าและเรียกคนอื่นมารุมด่าตนด้วยธรรมะ

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 กรณีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งปรากฏว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ 375 เสียง ได้เพียงแค่ 324 เสียง โดยมีสมาชิกวุฒิสภาโหวตเห็นชอบจำนวน 13 คน โดย แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นหนึ่งใน ส.ว. ที่งดออกเสียงในครั้งนี้

 

หมอพรทิพย์ ฟาดธรรมะตอกนิ่มคนรุมด่า ขอให้ดวงตาเห็นธรรม

หมอพรทิพย์ ฟาดธรรมะตอกนิ่มคนรุมด่า ขอให้ดวงตาเห็นธรรม

 

โดยหลังจบการประชุม หมอพรทิพย์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึง 5 ข้อในการปิดสวิชต์ ไม่โหวตให้พิธา ว่า ที่สุดก็ไม่มีคำอธิบายว่า ทำไมต้องแก้มาตรา 112 แต่ยิ่งชัดเจนว่า ยืนยันจะแก้ไขแน่นอน ที่สำคัญพรรคต่างๆ ที่ทำข้อตกลงร่วมกันก็ยอมให้พรรคก้าวไกลเสนอแก้มาตรา 112 ได้ การเมืองไทยเป็นเช่นนี้ หมอจึงได้คำตอบว่าปิดสวิชต์ตามหลักการเดิม และปิดตลอดไปจนกว่าจะหมดวาระ

 

1. หลักการของประชาธิปไตย คือการเลือกตั้งให้ได้พรรคการเมืองมาบริหารบ้านเมืองให้สังคมมีความยุติธรรม คำนึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม ความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่การดำเนินการตามนโยบายของพรรคที่ได้เสียงสนับสนุนหรือเสียงข้างมากเป็นหลักแม้นโยบายจะทำลายชาติ

2. การเลือกตั้งในครั้งนี้มีการกระทำที่ขัดหลักการประชาธิปไตยในประเด็นสำคัญ คือ การห้ามผู้สมัครใช้อำนาจผ่านสื่อที่ตัวเองเป็นเจ้าของหรือมีหุ้นเอาเปรียบพรรคอื่นๆ เพียงแต่กฎหมายไทยไม่ได้แก้ไขให้ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป การชนะในครั้งนี้คือการใช้สื่อโซเชียล ปลุกระดม ให้ข้อมูลเท็จบ้างจริงบ้างและให้ใช้สื่อละเมิดผู้อื่นที่เรียกว่าด้อม บุลลี่ ตามด่า รวมทั้งการสร้างอวตารเข้าทำอันตรายในทุกช่องทางสื่อสารส่วนตัวด้วยเพราะตัวบทกฎหมายตามไม่ทัน จนกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งรุนแรงและแสดงถึงการไม่ยอมรับความเห็นต่าง

3. รัฐธรรมนูญเป็นบทบัญญัติที่มนุษย์ร่วมกันตกลงเขียนขึ้นไม่ใช่หลักธรรมะ จึงอาจเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแล้วแต่มนุษย์จะตกลง และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ได้มาตามครรลองประชาธิปไตยคือผ่านการลงประชามติ การทำหน้าที่ของสวจึงเป็นไปตามบทบาทที่กำหนด

4. ประเด็นสำคัญที่ ส.ว. ติดใจคือการขอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งจากการหาเสียงมีแนวทางที่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ กลุ่มที่สนับสนุนสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งล้วนแสดงกิริยาให้ร้ายต่อสถาบัน มีการสนับสนุนให้หมิ่นประมาทตั้งแต่สถาบันพระมหาษัตริย์ไปจนถึงประชาชนคนธรรมดาแปลกที่ ว่าที่นายกฯ ไม่ตอบ ไม่อธิบาย แต่ตอบว่าต้องรักษาคำพูด ทั้งๆ ชี้แจงว่าเขาเป็นผู้นำที่รู้จักรุกและถอย แต่เรื่องนี้ไม่ตอบไม่อธิบายรายละเอียดใดๆ และไม่ยอมถอย
       
5. สิ่งสำคัญที่สุดคือหน้าที่ของทุกคนรวมทั้ง ส.ว. คือหน้าที่รักษาชาติ หากอ้างประชาธิปไตย อ้างเสียงสนับสนุน 14 ล้านเสียง ว่าต้องรักษาประชาธิปไตยแต่ชาติจะล่มสลาย คงไม่สามารถปล่อยได้

 

หมอพรทิพย์ ฟาดธรรมะตอกนิ่มคนรุมด่า ขอให้ดวงตาเห็นธรรม

 

และล่าสุด หมอพรทิพย์ ได้โพสต์ตอบโต้กลับคนที่เข้ามารุมด่าและเรียกคนมารุมด่าตนดังนี้

"มนุษย์มักลืมหลักธรรมสำคัญ เพราะไม่เชื่อ เพราะไม่เคยรู้ เพราะไม่เห็นมีใครทำ จึงปล่อยให้กาย วาจา ใจไปในทางผิดศีล น่าเห็นใจ น่าห่วงไย กว่าจะรู้ก็อาจถึงปลายทางที่แก้ไขอะไรไม่ทัน อย่าปล่อยให้สิ่งแวดล้อมภายนอกเราจูงเราออกสู่การผิดศีลทั้งกาย วาจา ใจ 

เขียนโพสต์นี้มาเพราะเห็นใจคนที่เกลียดหมอแล้วตามมาอ่าน ตามมาด่า ชวนคนอื่นมารุมด่า หากมันผิดในทางธรรมหมอก็จะต้องรับกรรมแน่นอน แต่หากไม่ผิดในทางธรรมผู้สร้างกรรมก็จะต้องรับกรรมนั้น ผู้บูลลี่นั่นแหละที่รับกรรมหนักนะ ไม่ชอบหมอ เกลียดหมอก็ไม่ต้องมาตามอ่านเนอะ ส่วนใหญ่ก็ตั้งใจสื่อสารแบบไม่ทำลาย ขอให้มีดวงตาเห็นธรรมนะ  ขออนุญาตใช้ภาพและคำสอนจากกูเกิ้ล"

 

หมอพรทิพย์ ฟาดธรรมะตอกนิ่มคนรุมด่า ขอให้ดวงตาเห็นธรรม