เทียบช็อตต่อช็อต “พิธา-ธนาธร” นาทีเดินออกจากสภา หลังศาลสั่งหยุดทำหน้าที่

จากกรณีล่าสุด (19ก.ค.66) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้อง กรณีหุ้นสื่อไอทีวีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และมีมติตามเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) มีคำสั่งให้ ทิม พิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ตั้งแต่วันนี้ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

 

ต่อมา ทิม พิธาได้กล่าวยอมรับคำสั่งศาลกลางที่ประชุมร่วมของรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่สองว่า “รับทราบคำสั่ง และจะปฏิบัติตามจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น ขออำลาประธานรัฐสภาจนกว่าเราจะพบกันใหม่ ฝากเพื่อนสมาชิกในการใช้รัฐสภาดูแลพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้วตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม และถ้าประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง ถึงแม้ผมจะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ขอให้เพื่อนสมาชิกทุกคนช่วยกันดูแลประชาชนต่อไป”

 

 

 

เมื่อกล่าวจบ ทิม พิธา ถอดบัตรประจำตัว สส. ของตัวเองวางลงบนโต๊ะ จับมือกับเพื่อน สส. พร้อมชูกำปั้น ท่ามกลาง สส. พรรคก้าวไกลทั้งหมดที่ลุกขึ้นยืนปรบมือให้ และ สส. พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่เข้ามาให้กำลังใจ ก่อนที่ ทิม พิธา จะเดินออกจากห้องประชุม

 

 

 

โดยเมื่อย้อนเทียบกรณีที่เกิดขึ้นกับนายพิธา สามารถเทียบเคียงได้กับเหตุการณ์ 4 ปีก่อน เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคอนาคตใหม่ ถูกสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกัน โดยในการประชุมสภาในวันดังกล่าว เลขาธิการสภาฯ อ่านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

 

 

 

จากนั้นนายธนาธรขอใช้สิทธิ์เพื่อกล่าวลาประธานในสภา แต่ก่อนจะกล่าวลา มีการประท้วงของ ส.ส.กลุ่มต่างๆ ที่ระบุว่าไม่ควรให้นายธนาธรได้พูด เพื่อจะได้ไม่เป็นการกระทำผิดคำสั่งศาล ขณะนั้นทำให้เกิดช่วงชุลมุนขึ้น

 

 

 

ภายหลังนายธนาธรกล่าวว่า ตนรับทราบข้อกล่าวหา และขอยุติการปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่บัดนี้จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย หลังสิ้นสุดคำกล่าว ก็มีเสียงปรบมือให้กำลังใจดังขึ้น ขณะที่ประธานสภา กล่าวว่า "พอแล้วครับ ที่นี่ไม่ใช่โรงละคร เป็นสภา หยุดได้ครับ" ก่อนที่นายธนาธรจะเดินออกจากห้องประชุมไป เพื่อให้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกได้ดำเนินการต่อไป