รุ่นใหญ่ "ดร.ปลอดประสพ" ไม่ทน "เสรีพิสุทธิ์" พูดเหมือนไล่ก้าวไกล โผล่ดึงสติ

ล่าสุดรุ่นใหญ่ออกโรง ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี โพสต์ติง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พูดเหมือนไล่พรรคก้าวไกลทั้งๆที่เขาเชิญท่านมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล แนะให้พูดใหม่

ล่าสุด บนเฟซบุ๊กของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กพูดถึง พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังพูดถึงพรรคก้าวไกลเรื่องคนหนุ่มต้องเสียสละ โดยมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม อย่าลืมว่าท่านมี 1 เสียงและพรรคก้าวไกลเป็นคนเชิญท่านเข้ามาร่วม ลั่น ควรร่วมสามัคคีกันทำงาน ไม่ใช่ไล่ส่งกัน

 

รุ่นใหญ่ ดร.ปลอดประสพ ไม่ทน เสรีพิสุทธิ์ พูดเหมือนไล่ก้าวไกล โผล่ดึงสติ
 

รุ่นใหญ่ ดร.ปลอดประสพ ไม่ทน เสรีพิสุทธิ์ พูดเหมือนไล่ก้าวไกล โผล่ดึงสติ

 

โดย ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ได้โพสต์ข้อความไว้ดังนี้

ร่วมสามัคคีกันทำงาน ไม่ใช่ไล่ส่งกัน

ผมต้องขออนุญาตท่านพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ แสดงความเห็นกรณีที่ท่านเพิ่งพูดเรื่องเด็ก คนแก่ และคนหนุ่มว่า ใครควรจะรอดกรณีเรือล่ม ขอเรียนว่า ผมไม่ได้ตั้งใจจะชี้ประเด็นทางการเมือง แต่ผมอยากจะเน้นเรื่องคุณธรรมและมารยาทแบบไทยๆ หรือแบบสุภาพบุรุษที่พวกเราได้เคยรับการอบรมมาแต่เด็ก

 

รุ่นใหญ่ ดร.ปลอดประสพ ไม่ทน เสรีพิสุทธิ์ พูดเหมือนไล่ก้าวไกล โผล่ดึงสติ

 

     แม้นว่า บ้านผมจะมีรถยนต์ใช้มาแต่เล็ก แต่ก็ได้มีโอกาสขึ้นรถรางและรถเมล์มาบ้าง ผมได้รับคำสั่งสอนและอบรมจากครอบครัวและโรงเรียนอย่างเคร่งครัดมาตลอดว่า ต้องลุกให้เด็ก ผู้หญิงและคนแก่นั่ง เราผู้ชายต้องเสียสละที่จะยืน แม้แต่วันนี้ผมก็ยังปฎิบัติอยู่ เช่น กรณีที่ไปขึ้นเครื่องบินแล้วต้องนั่งรถบัสไป แต่ตอนนี้กลับจะมีคนลุกให้ผมนั่งบ้างเพราะเขาคงเห็นว่า ผมมีอายุแล้ว ซึ่งผมก็จะปฎิเสธทุกครั้งและขอบคุณเขาอย่างจริงใจ

     ในขณะเป็นอธิบดีประมง เคยเกิดเหตุเรืออยู่ในภาวะอันตรายจะอับปางหลายครั้ง ผมได้ออกคำสั่งให้ผู้หญิงและเด็ก(ถ้ามี)บนเรือสวมชูชีพ เพราะเขาเป็นผู้อ่อนแอไม่สามารถช่วยตัวเองได้ โดยตัวผมจะเป็นคนสุดท้ายที่จะใส่ชูชีพ และมีบางครั้งที่เสื้อชูชีพไม่พอ ผมก็เสียสละที่จะไม่ใส่เพราะถือว่า เป็นหน้าที่ของผู้นำ(ทั้งๆที่ผมก็กลัวตายเหมือนกัน) ถ้าใครคิดว่า เรื่องนี้ผมโม้ก็ให้ไปถามคนกรมประมงกับคนกรมป่าไม้ที่ทำงานกับอุทยานทางทะเลว่า ผมทำเช่นนั้นจริงหรือไม่
 

รุ่นใหญ่ ดร.ปลอดประสพ ไม่ทน เสรีพิสุทธิ์ พูดเหมือนไล่ก้าวไกล โผล่ดึงสติ  

 

   ในฐานะที่ผมกับท่านรู้จักกันดี ผมอยากแนะนำให้ท่านพูดเรื่องนี้ใหม่อีกสักครั้งเถอะ เพราะผมคิดว่า ท่านคงจะหลุดปากออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะโดยประวัติแล้ว ท่านเป็นผู้ที่เสียสละแม้แต่ชีวิตก็เคยมอบให้กับประเทศชาติมาแล้ว   

      อีกเรื่องคือการพูดใส่หน้ากัน ท่านก็ถูกวิจารณ์อีกเหมือนกัน ท่านมีเสียงเพียงเสียงเดียว ได้รับเกียรติเชื้อเชิญจากพรรคก้าวไกลซึ่งมีถึง 151 เสียงและเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่ท่านกลับไปพูดเหมือนไล่เขาต่อหน้าเลย (เลขาธิการพรรคก้าวไกล) มันน่าจะไม่ค่อยเหมาะสมนะครับ เท่าที่ผมจำได้ การตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา ในการประกาศนโยบายที่สำคัญเขาจะใช้เฉพาะพรรคที่มีเสียงมากๆเท่านั้น พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีเสียงรวมกันถึง 291 เสียง (มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทน 41 เสียง) หากเขาไม่เชิญพรรคอื่นขึ้นมานั่งเลยก็แทบจะทำได้ ขณะที่ท่านพูดเรื่องนี้ ผมสังเกตเห็นผู้ใหญ่ของหลายพรรคแสดงความตกใจมาก มีหลายคนแสดงสัญลักษณ์ทางมือขอให้ท่านหยุดพูด และมีคนหนึ่งพยายามดึงท่านลงไปด้วยซ้ำ กรุณาเถอะครับ เขากำลังใช้ความสามัคคีปรองดองสร้างรัฐบาลเพื่อทำงาน ไม่ใช่การใช้วิธีการแบ่งแยกเลือกข้างเพียงเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้ประโยชน์เท่านั้น

    ด้วยความเคารพ ต้องขอโทษที่เอ่ยชื่อท่านและแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

 

รุ่นใหญ่ ดร.ปลอดประสพ ไม่ทน เสรีพิสุทธิ์ พูดเหมือนไล่ก้าวไกล โผล่ดึงสติ
 

 

ขอบคุณ ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี