- 26 ก.ค. 2566
ถกสนั่น หมอ ยกเคส เนื้องอกสมองส่วนหน้า คนไข้มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปใน 1 เดือน พูดไม่สมเหตุผล ตรรกะวิบัติ โกหก ตอแหล ชาวเน็ตแห่แซวมันคุ้นๆนะ
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นพ.สมรส พงศ์ละไม แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Somros MD Phonglamai เตือนพร้อมยกเคส เนื้องอกสมองส่วนหน้า ให้ชาวเน็ตได้สังเกตตัวเอง โดยระบุว่า... คนไข้เดิมเป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์ พูดจาน่าเชื่อถือ แต่ 1 เดือนที่ผ่านมาเปลี่ยนไปชัดเจน กลายเป็นพูดไม่สมเหตุผล ตรรกะวิบัติ กลับกลอก โกหก ตอแหล (behavioral change) ลืมบ่อย จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยพูดอะไรไว้ (memory impaired) คำนวนเลขบวกลบง่ายๆก็ผิด (calculation deficit) ระแวงว่าภรรยาตนเองจะมีชู้ ทั้งๆที่ภรรยาเป็นคนซื่อสัตย์มาก ญาติๆทุกคนก็รู้ คนไข้เลยไปหาสาวคนใหม่เพิ่มอีก 4 คน หยุดตัวเองไม่ได้
ไม่สนใจใคร ไม่รู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นๆเดือดร้อนเพราะคำพูดหรือการกระทำของตนเองเลย (loss of empathy) ตรวจร่างกาย ไม่พบความผิดปกติทางระบบประสาทชัดเจน คนไข้แค่ชอบยิ้มบ่อยๆ (เหมือน Euphoria นิดๆ) และเวลาตรวจมือคนไข้ ชอบเอามือมาเช็คแฮนด์หมอบ่อยๆ ยับยั้งตัวเองไม่ได้ (disinhibition) ตรวจเลือดพื้นฐาน อยู่ในเกณฑ์ปกติ ตรวจสภาพสมองเบื้องต้นด้วยแบบสอบถาม MMSE คะแนนไม่ได้แย่มาก (26/30) แต่สแกนสมอง พบเนื้องอกที่สมองส่วนหน้า
บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า
- เนื้องอกที่สมองส่วนหน้ามาด้วยประวัติข้างบนได้ ถ้าความจำเสื่อมเร็ว พฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก ยิ่งถ้ามีปัญหาปัสสาวะกลั้นไม่ค่อยได้ ควรรีบพบคุณหมอสมองใกล้บ้าน
- เนื้องอกถ้าไม่รุกราน ตัดทิ้ง คนไข้สามารถดีขึ้นได้ แล้วมาฟื้นฟูสมองต่อเนื่องให้กลับมาได้มากที่สุด เดี๋ยวนี้เรามีเทคโนโลยีดีๆมากขึ้น
- แต่ถ้าเป็นมะเร็งเนื้อร้ายระยะรุกราน ก็ต้องรักษายาวๆต่อไป
ความยากคือ คนไข้มักไม่รู้ตัวว่านิสัยเปลี่ยนไป ไม่ยอมมาโรงพยาบาล อาละวาด ดื้อ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่หนักใจของญาติๆอย่างยิ่ง
นพ.สมรส พงศ์ละไม
แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู
ทั้งนี้หลังโพสต์ดังถูกเผยแพร่ออกไปได้ม่ชาวเน็ตเข้ามาแซวถึงอาการที่คุณหมอท่านนี้โพสต์เข้าไว้ว่าทำไมพฤติกรรมคุ้น นี่เป็นอาการของคนไข้จริง ๆ ใช่มั้ย อ่านแล้วทำไมนึกถึงเรื่องอื่น ด้านคุณหมอก็ได้เข้ามาตอบคอมเมนต์ว่า "ผมเน้นวิชาการทางการแพทย์นะครับ criteria อาการต่างๆวงเล็บไว้แล้วด้วย เคสแบบนี้เจอเรื่อยๆเลยครับ ถ้าเรามีญาติอาการแบบนี้ มันยากมากๆเลยที่จะพาไปหาหมอ เพราะคนไข้ไม่รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป แล้วก็จะด่าญาติๆที่จะพาไปหาหมอได้ด้วย"