- 30 ก.ค. 2566
จนท.บุกค้นเจออีก 1 ตัน พลุและดอกไม้เพลิงมรณะ ที่บ้านพัก-ร้านค้าของเจ้าของโกดังพลุระเบิด ตลาดมูโนะ ห่างจุดเกิดเหตุระเบิดแค่ 150 เมตร
กรณีโกดังพลุระเบิดที่ตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส โดยแรงระเบิดทำให้เกิดความเสียหายบริเวณกว้าง ล่าสุด ณ วันที่ 30 ก.ค.66 มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 12 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 121 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้บุกค้นตรวจยึดพลุและดอกไม้เพลิงมรณะ อีก1ตัน จากที่บ้านพัก-ร้านค้าซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุระเบิดเพียงแค่ราว 150 เมตร
โดยวันที่ 30 ก.ค.66 ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหาราบที่ 151 ค่ายกัลยานิวัฒนา ตรวจค้นบ้านพักและร้านค้าเจ้าของโกดังดอกไม้ไฟที่เกิดเหตุระเบิดในตลาดมูโนะ จากการตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 2จุดใหญ่ พบดอกไม้เพลิง พลุ และประทัดไผ่เงิน น้ำหนักประมาณ 1 ตัน ซึ่งได้ทำการยึดไว้ทั้งหมดทั้งนี้ร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตรของเจ้าของโกดังพลุระเบิด อยู่ห่างจากโกดังที่เกิดเหตุระเบิดเพียง 150 เมตร
ด้านนายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก วางแผนส่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ปกครองและชุดกู้ชีพกู้ภัยลงพื้นที่เข้าไปค้นหาร่างของบุคคลที่ได้รับแจ้งสูญหายจากเหตุโกดังประทัดที่ตำบลมูโนะระเบิด ซึ่งการปฏิบัติการต้องรอบคอบและรัดกุมคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เข้าพื้นที่ โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปในจุดที่เป็นโซนแดนรัศมี200-400 เมตร เพราะต้องทำการฉีดน้ำเพื่อป้องกันไฟประทุขึ้นมาอีกจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว
สรุปยอดรวมล่าสุด วันที่ 30 ก.ค.66 เวลา 10.30น.มีผู้เสียชีวิต จำนวน 12 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 121 ราย อาการหนัก 1 ราย อาการปานกลาง 9 ราย กลับบ้านได้ 101 ราย พักอาศัยที่ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย ศูนย์กีฬา อบต.มูโนะ จำนวน 10 ราย และมีผู้ลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือแล้วจำนวน 365 ราย
ในส่วนของ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดตลาดูโน๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยนำข้อห่วงใย พร้อมด้วยกระเช้าให้กำลังใจจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย ที่พักรักษาตัวอยู่ ณ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี สั่งการทันทีเมื่อได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ให้ทุกหน่วยงานช่วยดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด พร้อมสั่งการให้ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีการเผยอีกว่า โกดังเก็บดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดของร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ที่เกิดระเบิดนั้น ทางสำนักงาน คปภ.จังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่และตรวจสอบข้อมูลด้านการประกันภัย เบื้องต้นยังไม่พบว่าโกดังได้ทำประกันภัยไว้
สำหรับกรณีการให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบบ้านเรือนเสียหาย และบางส่วนเสียชีวิต มีแนวทางการช่วยเหลือ 2 ช่องทาง คือ
1.จากสำนักนายกรัฐมนตรีโดยกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ตามหลักเกณฑ์และแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดังนี้ กรณีเสียชีวิตค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 30,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพครอบครัวผู้เสียชีวิต บุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ อีกครอบครัวละ 50,000 บาท ที่มีกรณีบาดเจ็บ เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 30,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บทั่วไป รายละ 15,000 บาท บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือที่เสียหาย ตามความเสียหาย เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินหลังละ เสียหายทั้งหลัง (เกิน 70%) 230,000 บาท เสียหายมาก (30%-70%) 70,000 บาท เสียหายน้อยกว่า (30%) 15,000 บาท ค่าเครื่องอุปโภค และเครื่องใช้อื่น ๆ ที่จำเป็น (เฉพาะบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง และเสียหายมาก) ครัวเรือนละ 5,000 บาท
2. จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงมหาดไทย กรณีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือที่เสียหาย ตามความเสียหาย เท่าที่จ่ายจริง กรณีเสียหายทั้งหลัง ไม่เกินหลังละ 49,500 บาท กรณีเสียชีวิตช่วยเหลือรายละ 29,700 บาท หากผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำครอบครัว จะให้การช่วยเหลือเพิ่มอีกรายละ 29,700 บาท
สำหรับรายงาน การให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจากเหตุ ดังกล่าวข้างต้น ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับทุกภาคส่วนจะได้เร่งให้ความช่วยเหลือ และติดตามการให้ความช่วยเหลือทุกกรณีเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและหากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าวยังคงต้องการการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ขอให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรม ศอ.บต. ทางโทรศัพท์ 1880 เพื่อจะได้เร่งงานประสานหน่วยงานทุกหน่วยงานเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยเร็วต่อไป