ติดต่อได้แล้ว ตร. เรียกกระบะซิ่ง สอบปากคำ ให้ประกันคุยค่าซ่อมโรลส์-รอยซ์

   คืบหน้ากรณีกระบะแต่งซิ่ง ชน โรลส์-รอยซ์ บนมอเตอร์เวย์  ล่าสุดวันที่16 ส.ค.66  สาวชาวจีนเจ้าของรถโรลส์รอยซ์ ที่ถูกรถกระบะของนาย พงษ์เทพ อายุ 23 ปี ชนท้ายเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางมายังสถานีตํารวจทางหลวง 1 กองกํากับการ 8 พร้อม นายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความและล่ามภาษาจีน เพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

   ทนายความสาวจีน กล่าวว่า ตนเป็นทนายความสาวนตัวให้กับหญิงสาวเจ้าของรถ"โรลส์รอยซ์” รายนี้อยู่ก่อนแล้ว ภายหลังเกิดเรื่องทางด้านของหญิงสาวได้ติดต่อมาหาตน โดยขอให้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและให้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งจากการสอบถามก่อนหน้านี้ เธอเล่าว่า ขับรถมาตามถนนเลนขวาปกติเพื่อมุ่งหน้าไปยังศูนย์เช็คระยะรถยนต์ จู่ๆรถกระบะก็พุ่งมาชนที่ท้ายรถ ด้วยความตกใจเธอจึงโทรติดต่อไปยังบริษัทประกันและพยายามสื่อสารให้รถกระบะคู่กรณีขับรถตามไปที่ศูนย์เช็คระยะรถยนต์เนื่องจากได้ติดต่อบริษัทประกันให้ไปเจอเพื่อพูดคุยเรื่องค่าเสียหาย

   แต่อาจจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดหรือไม่เข้าใจกัน จนทําให้รถกระบะคู่กรณีเข้าใจว่าหญิงสาวเจ้าของรถโรลส์รอยซ์ไม่เอาเรื่องและไม่ได้ขับตามไป โดยหญิงสาวเจ้าของรถโรลส์รอยซ์ ยืนยันว่าไม่ได้บอกว่าไม่ติดใจเอาความ ส่วนเรื่องค่าเสียหาย เบื้องต้นยังไม่ได้มีการประเมินแต่พบว่ามีไฟท้ายแตกและกันชนด้านหลังได้รับความเสียหาย 

   โดยภายหลังจาก สาวจีนเจ้าของรถโรลส์-รอยซ์ เข้าให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม โดยมีล่ามภาษาจีน ระบุว่า วันที่เกิดเหตุเธอขับมาด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตร ซึ่งมีการเบรกเป็นระยะเนื่องจากการจราจรค่อนข้างหนาแน่น แต่ยืนยันว่าได้สื่อสารให้ทางรถกระบะคู่กรณีขับตามไปเพื่อไปพูดคุยเรื่องค่าเสียหายกับบริษัทประกันแล้ว แต่รออยู่สักพักหนึ่งก็ไม่พบว่าคู่กรณีขับตามมาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องค่าเสียหายเบื้องต้นยังไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าจะไม่ต่างคนต่างซ่อม โดยจะให้บริษัทประกันเป็นผู้ดําเนินการเรื่องค่าเสียหายต่อไป

 

   ขณะที่ พ.ต.ท.โสภณ โกมลสุทธิ รอง ผกก.(สอบสวน) ส.ทล.1 กก.8 ระบุว่า เบื้องต้นสามารถติดต่อรถกระบะคู่กรณีได้แล้ว โดยจะนัดเข้ามาพบเพื่อสอบปากคําในวันศุกร์ ที่ 18 สิงหาคม 2566นี้ และยืนยันว่าตํารวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและมั่นใจว่าคดีนี้น่าจะจบด้วยความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย