- 24 ส.ค. 2566
ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน หวั่นกลัวโดนหลอกนโยบายขายฝันพรรคเพื่อไทย เงินดิจิทัล 10,000 อยากให้ทำได้ตามที่หาเสียง สัญญาไว้กับประชาชน
กรณีนโยบายการหาเสียงพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัล 10,000บาท ผ่าน"ดิจิทัลวอลเล็ต" โดยจะมีการแจกให้กับประชาชนทั่วประเทศ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งล่าสุดภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เรื่องของ เงินดิจิทัล10000 ก็ยิ่งเป็นที่สนใจของคนไทยมากขึ้น กลายเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยไปในทันที
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามประเด็น เงินดิจิทัลเพื่อไทย กับ นายศรชัย อายุ 40 ปี อาชีพคนขับรถแท็กซี่ กล่าวว่า ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ถือว่าไม่ดี ตนตั้งใจเลือกพรรคเพื่อไทยในเลือกตั้งครั้งนี้มาโดยเฉพาะ เพราะนโยบายนี้ที่จะมอบเงินดิจิทัลช่วยเหลือประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไปมีสิทธิ์ได้รับเงินทุกคน แต่พอมาถึงตอนนี้กลับมีข่าวออกมาว่ารัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยจะไม่สามารถทำโครงการนี้ได้แล้วเนื่องจากมีงบประมาณไม่เพียงพอ เงินจำเป็นต้องนำไปช่วยเหลืองบผู้สูงอายุก่อน
นอกจากนี้ยังต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าครม.ว่าจะทำได้หรือไม่ เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลพวกเราเลือกพรรคคุณมาก็หวังว่าพอเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้อย่างที่พูดโฆษณาหาเสียงไว้เงิน 10,000 บาท มันสำคัญมากกับพวกตนที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำมาก ส่วนบางคนที่พอมีเงินมีฐานะอยู่แล้วคงไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับพวกตนมันคือความหวังถ้าได้เงินมาจริงจะแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน คือ แบ่งไว้ใช้จ่ายซื้อของจำเป็นภายในครอบครัวครึ่งหนึ่ง
ส่วนอีกส่วนจะเก็บเอาไว้ซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับลูก ตนอยากให้โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดำเนินการต่อให้สำเร็จตามที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงและสัญญาไว้กับประชาชน
ส่วนทางด้านนายปริญญา อายุ 25 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวไก่บุฟเฟ่ต์ 59 บาท by จังหวัดยำ ย่านนนทบุรี เปิดเผยว่า ตนมีความคิดเห็นว่าของฟรีใครก็อยากได้กันทุกคน แต่คงต้องมาแบกรับภาระหนี้สินเหมือนครั้งก่อน เงิน 10,000 บาท สำหรับคนทั่วไปถือว่าเยอะ สามารถนำมาซื้อของอุปโภค บริโภคได้ เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นในช่วงหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม คนก็ต้องมาแบกรับอย่างอื่น เช่น ค่าไฟขึ้น ค่าน้ำมันขึ้น ค่าครองชีพขึ้น ต้องมานั่งแบกรับเพราะเงินตรงนี้มาจากภาษีประชาชน
ตนคิดไว้อยู่แล้วว่ารัฐบาลคงให้ไม่ได้เพราะเป็นนโยบายขายฝัน อยู่ดีๆจะมาให้เงินคน คนละ 10,000 บาท มันก็ไม่ใช่ หากรัฐบาลให้ไม่ได้ ก็อยากให้โครงการคนละครึ่งกลับมามีเหมือนเดิม เพราะอย่างน้อยจะได้เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เมื่อก่อนตนใช้โครงการคนละครึ่งเป็นประจำ ดีที่มีวงเงินจำกัดต่อวัน จึงไม่ได้ใช้ฟุ่มเฟือยอะไรมาก
ถามว่าระหว่าง 2 อย่างนี้อยากได้อะไรตนอยากได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะมันได้เยอะมากกว่าและใช้จ่ายไม่จำกัดต่อวัน และช่วงนี้ต้องเตือนภัยมิจฉาชีพทำแอปพลิเคชั่นปลอมเกี่ยวกับเงินดิจิตอล 10,000 บาท ซึ่งตนกำลังจะลองโหลดดู ดีที่อ่านข่าวเตือนทันว่าเป็นแอปฯปลอมจึงยังไม่ได้โหลดมาไม่งั้นเงินคงหมดบัญชี ถ้าเป็นคนสูงอายุอาจจะเผลอโหลดได้ จึงอยากเตือนเรื่องนี้กับคนที่อยากได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท