หลวงพี่น้ำฝน ถอนฟ้อง "หนุ่ม กรรชัย-ช่อง 3" หลังเข้ากราบขอขมา ปมหมิ่นประมาท

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ําฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้มอบหมายให้ นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ทนายความประจำวัด และไวยาวัจกรวัดไผ่ล้อม ยื่นฟ้องกลุ่มบุคคลผู้มีชื่อเสียงหลายรายต่อศาลจังหวัดนครปฐม ได้แก่ แพรรี่ ไพรวัลย์ , หนุ่ม กรรชัย , นายจตุรงค์ จงอาสา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา พร้อมกับพรรคพวกในวงการสื่อ รวม 10 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

 

ซึ่งการยื่นฟ้องในคดีนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้มีการให้ความเห็นกรณี พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ที่ได้มีการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงถึงสถาบัน ซึ่งในฐานะคณะทำงานดำเนินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 หรือพระวินยาธิการ มองว่าไม่เหมาะสม และหากถูกร้องเรียนจะร้องมีการดำเนินการอย่างไรในรูปแบบของการปกครองคณะสงฆ์

ต่อมา หนุ่ม กรรมชัย ได้เชิญ แพรรี่ ไพรวัลย์ และ นายจตุรงค์ มาร่วมกันออกรายการโหนกระแสทางช่อง 3 ซึ่งเนื้อหาในรายการได้มีการพาดพิง ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หลวงพี่น้ำฝนจึงได้มีการยื่นฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมาย ที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีการฟ้องร้องจำเลยทั้งหมด 10 ราย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ทนายความประจำวัด และไวยาวัจกรวัดไผ่ล้อม ได้เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบอำนาจจาก หลวงพี่น้ำฝน ให้เดินทางไปศาลจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ถอนฟ้อง หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการโหนกระแส และจำเลยประกอบด้วย เจ้าของบริษัทดีคืนดีวัน จำกัด , ผู้บริหารช่อง 3 ทั้งหมด รวม 8 คน หลังจากมีการฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ไปเมื่อ วันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา 

ซึ่งในคดีดังกล่าว มีการฟ้องร้องทั้งหมด 10 คน ยังคงเหลือจำเลยอีก 2 คนคือ ไพรวัลย์ วรรณบุตร (แพรรี่) และ จาตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา 

 

นายศุภภัทร์พจน์ ได้กล่าวอีกว่า วันนี้ที่เข้าทำการยื่นคำร้องถอนฟ้อง เนื่องจาก หนุ่ม กรรชัย ได้เข้ามาประสานผ่านทางผู้ใหญ่ และได้ขอพบกับ หลวงพี่น้ำฝน แล้ว โดยมีการเข้ามากราบขอขมา ในกรณีที่ได้มีการนำเสนอรายการ ซึ่ง หลวงพี่น้ำฝน ได้มีเมตตาที่จะให้อภัยทั้งทาง หนุ่ม กรรชัย และรวมถึงผู้บริหารสื่อช่อง 3 ซึ่งถือว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ 

ซึ่ง หลวงพี่น้ำฝน ได้ให้แนวทางกับสื่อว่า ควรจะพิจารณาว่า ควรจะให้มีการนำเสนอข้อมูลทางด้านใด ที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย และเข้าข่ายผิดกฎหมาย และในฐานส่วนที่เป็นผู้บริหาร หรือเจ้าของบริษัท ก็จะต้องมีส่วนรับผิดชอบไปด้วย ซึ่งจากนี้ก็จะขอฝากสื่อมวลชนว่าควรจะระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย

นายศุภภัทร์พจน์ ยังกล่าวแกว่า ในส่วนคดีที่ 2 ได้ฟ้องร้องไปอีก 10 คน มีสื่อมวลชนอยู่ด้วย ก็จะเป็นกรณีในการเจรจากันในอนาคตต่อไป แต่ในส่วนของ นายไพรวัลย์ และ นายจตุรงค์ ยังคงมีการฟ้องร้องต่อไป ซึ่งตอนนี้มี 2 คดีแล้ว และก็ไม่ได้มีการติดต่อประสานเข้ามา เข้าใจว่าน่าจะประสงค์ให้มีการพิจารณาในชั้นศาล เนื่องจากมีการท้าทายให้ฟ้องร้อง ก็ยังจะคงดำเนินการต่อไป ซึ่งคดีนี้ศาลจังหวัดนครปฐม ได้มีการนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 25 ก.ย. นี้