- 06 ก.ย. 2566
"ผู้การเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ยอมรับผิด ปราบส่วยสติ๊กเกอร์ไม่หมด หลังโสภณ38 กลับมาอีก ฝากรัฐบาลใหม่ แก้กฎหมายน้ำหนักบรรทุก ป้องกันส่วยทางหลวง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.ย.66 ที่ อาคารพิทักษ์สันติ ชั้น 16 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ยอมรับผิด ปราบส่วยสติ๊กเกอร์ไม่หมด หลังโสภณ38 กลับมาอีก ฝากรัฐบาลใหม่แก้กฎหมายน้ำหนักบรรทุกป้องกันส่วยทางหลวง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวถึงความคืบหน้าในการปราบปรามส่วยสติ๊กเกอร์ พร้อมกับยอมรับผิดที่ปราบปรามไม่หมด เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ที่มีการปราบปรามส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวง อย่างจริงจัง ส่วยสติ๊กเกอร์ก็เงียบหายไป เนื่องจาก พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและตนเองมีความจริงจังในการปราบปรามเรื่องดังกล่าว
แต่พอเรื่องเงียบก็มีเรื่องสติ๊กเกอร์โสภณ38 กลับมาอีก ก็ต้องยอมรับความผิดพลาดที่ปล่อยปละละเลยให้มีตำรวจทางหลวงนอกรีตกลับมามีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์อีก ขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่ามีตำรวจทางหลวงเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ ฝากถึงผู้ประกอบการที่บรรทุกน้ำหนักเกินว่าการเรียกร้องให้ตำรวจทางหลวงแก้กฎหมายเรื่องน้ำหนักเกิน เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่ถูกจุด ต้องไปเรียกร้องที่กระทรวงคมนาคม พร้อมทั้งฝากถึงรัฐบาลใหม่โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม อยากให้มีการแก้ไขกฎหมาย เรื่องเพิ่มน้ำหนักรถบรรทุก เพื่อป้องกันส่วยทางหลวง และเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ไม่ต้องแบกรับต้นทุนจากการขนส่งสินค้า ที่ทำให้ไม่คุ้มค่า
ส่วนความคืบหน้า การดำเนินการกับตำรวจทางหลวง ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์ก่อนหน้านี้ มี ทั้ง หมด 40 คน ในจำนวนนี้ มี 29 คนที่เกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์ และมี 6 คน ที่ประกอบด้วยนาย ตำรวจระดับ รอง ผกก. 1 นาย รองสารวัตร 1 นาย และชั้นประทวนอีก 4 นาย ทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดี และ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ไปแล้ว ส่วนที่เหลือ อีก 11 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์ แต่มีการไปเรียกรับผลประโยชน์ในเรื่องอื่น
โดยตำรวจทั้งหมด หลังจากมีคำสั่งย้าย ออกจากหน่วย เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน และปัจจุบัน ได้ส่งตัวกลับหน่วยงาน โดยมีข้อแม้ 2 ประการ คือ ห้ามไปปฏิบัติหน้าที่ที่ยุ่งเกี่ยวกับประชาชน และห้ามเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด
ส่วนการโยกย้ายตามฤดูกาลครั้งต่อไป นายตำรวจทั้ง 40 นาย ที่ถูกสอบเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ทั้งหมดนี้จะพิจารณาให้ย้ายออกจากสังกัด กองบังคับการตำรวจทางหลวง
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยังฝากถึงประชาชน และผู้ประกอบการ หากมีการเรียกรัลส่วยสติ๊กเกอร์ ให้ปจ้งเบาะแส มาที่ กองบังคับการตำรวจทางหลวง และ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อขุดรากถอนโคนตำรวจทางหลวงนอกรีตให้หมด