- 08 ก.ย. 2566
"เศรษฐา ทวีสิน" เดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ไม่ให้เกิดน้ำท่วม-น้ำแล้งอีก เป้าหมายใหญ่ของรัฐบาล สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืน
วันที่ 8 ก.ย. 66 เฟซบุ๊กเพจ พรรคเพื่อไทย เคลื่อนไหวระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ว่ารัฐบาลนี้เร่งรัดแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งให้อย่างเร่งด่วน
ทั้งระยะสั้นที่เร่งขุดลอกคลอง เพิ่มฝายกักเก็บน้ำและระยะยาวเชื่อมโครงการโขง ชี มูล เลย เข้ากับเขื่อนอุบลรัตน์เป็นระบบเพื่อบริหารจัดการน้ำ ไม่ให้เกิดน้ำท่วม-น้ำแล้งอีก เป็นเป้าหมายใหญ่ของรัฐบาลของประชาชนที่ต้องการสร้างประโยชน์อย่างแท้จริงให้พี่น้องเกษตรกรและประชาชน
1. สถานการณ์น้ำในปีนี้น้อย อีกเพียง 1 เดือนจะหมดฤดูฝนแต่มีปริมาณน้ำสุทธิน้อยกว่าฤดูฝนปีที่ผ่านมา จะทำให้กระทบถึง 1. การบริโภค 2. การใช้รักษาระบบ 3. การใช้ในอุตสาหกรรม และ 4. การใช้ในการเกษตร ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และน่าห่วงสุด จึงต้องมีการจัดการระยะสั้นจากท้องถิ่นหรือกระทรวงมหาดไทย มาทำฝายซีเมนต์ ขุดลอกแหล่งน้ำ และขอร้องกองทัพเข้ามาช่วยเรื่องเครื่องมือแรงงานบรรเทาแล้วส่วนนี้
2. ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามปัญหาแล้ว น่าจะแก้ปัญหาได้ภายใน 3 วัน ส่วนฝนที่ตกอยู่ก็จะบริหารจัดการกักเก็บไว้ใช้หลังฤดูฝน การบริหารจัดการน้ำโครงการ โขง ชี มูล เลย ที่เชื่อมต่อเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นเรื่องสำคัญ จึงฝากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแลเป็นพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาได้ในระยะยาว
3. นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่าเรื่องไม่ท่วม ไม่แล้งเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ที่หลายรัฐบาล รวมถึงรัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญอย่างมาก หากทำสำเร็จ ทุกๆ บาทที่ลงทุนไป ทั้งในเรื่องของเขื่อน ฝายและการขุดลอก ทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไปจะมาสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลตระหนักดี
4. ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการเปิดตลาดการค้าใหม่เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ตรงกับนโยบายของรัฐบาลและเป็นเรื่องที่พูดคุยไว้กับรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และนายปานปรีย์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เชี่ยวชาญด้านการค้าโลก ดังนั้นจะไปเปิดตลาดใหม่แน่นอน โดยมีการขอโควตาการส่งออกสินค้าเพิ่มจากทางจีนและตะวันออกกลาง ส่วนการลดรายจ่ายเรื่องปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี ก็จะเพิ่มความรู้ให้เกษตรกรเพื่อเพิ่มผลผลิต ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้ควบคู่กัน
5. ผู้สื่อข่าวถามเรื่องการพักหนี้เกษตรกรนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว พบกว่าที่ผ่านมา 9 ปี พักหนี้ไป 13 ครั้ง ซึ่งภายหลังคือเมื่อพักหนี้ไปแล้วรายได้ไม่สูงขึ้น หากพักหนี้แล้วรายได้สูงขึ้นก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว ที่เราควรต้องทำกัน ดังนั้นครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรกเราจะเพิ่มรายได้สุทธิให้สูงขึ้น
6. นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า หน้าที่รัฐบาลคือต้องพยายามทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ที่ดี สามารถกินอยู่ ลงทุนเพาะปลูกและแก้ไขปัญหาหนี้สินได้ แต่ปัจจุบันปัญหาหนี้สินเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งหลังจากประชุม ครม.นัดแรก เรื่องพักนี้เกษตรกรจะเป็นเรื่องด่วน รวมทั้งการลดรายจ่าย ลดค่าไฟ ค่าน้ำมันด้วย